เชื่อว่าคนไทยทุกคน อยากเห็นประเทศไทยของเราก้าวหน้าทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาอย่างรวดเร็วด กลายเป็นเสือของเอเชีย
หลายสิบปีที่ผ่านมา เราหกล้ม ลุกแล้วก็ล้มอยู่มากมายหลายครั้ง จนประเทศบอบช้ำไปมาก
สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหานอกจากนักการเมืองไม่ได้คุณภาพแล้ว ก็คือประชากรของเรานั้นยังไม่พร้อม
คุณภาพของนักการเมือง สะท้อนคุณภาพของประชากร ผมเชื่อเช่นนั้น
แต่ดูเหมือนเมื่อกาลเวลาผ่านไป เรามีการศึกษาทีดีขึ้น
กอปรกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไป ทำให้ผู้คนเข้าถึงข่าวสาร รับรู้ความเป็นไปของสังคมกันมากขึ้น
จากประเทศที่ผู้คนด้อยการศึกษาเป็นส่วนใหญ่
ปัจจุบันเรามีประชากรจบปริญญาตรีล้นตลาดเกินต้องการ (บ่งชี้ว่าประชากรส่วนใหญ่มีโอกาสเข้าถึงการศึกษา แต่ไม่ได้บ่งชี้ด้านคุณภาพนะ)
ปัจจุบันนี้ ผมเริ่มได้เห็นสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมายในหลายวงการของประเทศเรา
ถึงบางส่วนจะพึ่งเริ่มเป็นจุดเล็กๆ พึ่งฉายแสงแห่งความหวังออกมา
แต่มันก็ได้เริ่มขึ้นแล้วกับสังคมไทยแห่งนี้
ยกตัวอย่างเลย ที่กำลังเป็นกระแสฟีเวอร์ ณ ตอนนี้
วงการฟุตบอลไทยที่กำลังแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างน่าดูชม
เราไม่ได้มีทีมฟุตบอลที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่เรายังมีกองเชียร์ที่ดูมีคลาสมากขึ้น
จากคำชื่นชมมากมายของฝั่งกองเชียร์มาเลย์เซียต่อกองเชียร์ชาวไทยนั้น เป็นตัวสะท้อนได้ถึงคลาสของเราเป็นอย่างดี
เรามีคนไทยที่มีคุณภาพมากขึ้น ผมเชื่อเช่นนั้น ไม่งั้นสิ่งเหล่านี้จะเกิดได้ลำบาก
แสงสว่างอันถัดไปที่มาพร้อมเทคโนโลยี
ผมได้เห็นเพจในเฟซบุ๊คมากมาย ที่ออกมาเรียกร้องการให้เกียร์ติผู้อื่นกันในสังคม
อย่างเช่นเพจมนุษย์ป้า เสานี้ไม่ว่างเสาหน้านะน้อง ฯลฯ
นี่เป็นตัวอย่างที่ดี ของการค่อยๆ ปรับสังคมไทย กลายเป็นสังคมที่ต้องจะให้เกียร์ติกัน คิดถึงผู้อื่นมากขึ้นในการอยู่ร่วมในสังคม
ในมุมมองของผม ประเทศไทยกำลังจะค่อยๆ น่าอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ
คนรุ่นใหม่ของเรา ถึงจะไม่ได้มีคุณภาพกันทุกคน
แต่เราก็มีคุณภาพกันมากขึ้น และนั่นเป็นตัวผลักดันสังคมที่ดีที่สุด
สักวันหนึ่ง ด้วยเสียงของคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพมากขึ้นเหล่านั้น
จะเปลี่ยนแปลงหน้าการเมืองของชนชาติเรา
นักการเมืองโกงกินจะอยู่กันยากขึ้น คนดีๆ จะเข้าสู่การเมืองมากขึ้น
ผมคิดว่าอีกไม่นาน ยุคทองของประเทศเรากำลังจะมาถึง
ขอเพียงมีนักการเมืองดีๆ ได้ปกครองประเทศต่อเนื่องสักสิบปี
ประเทศเราก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือกันแล้ว
คุณคิดว่าอีกนานแค่ไหน จะถึงยุคทองของประเทศไทย
หลายสิบปีที่ผ่านมา เราหกล้ม ลุกแล้วก็ล้มอยู่มากมายหลายครั้ง จนประเทศบอบช้ำไปมาก
สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหานอกจากนักการเมืองไม่ได้คุณภาพแล้ว ก็คือประชากรของเรานั้นยังไม่พร้อม
คุณภาพของนักการเมือง สะท้อนคุณภาพของประชากร ผมเชื่อเช่นนั้น
แต่ดูเหมือนเมื่อกาลเวลาผ่านไป เรามีการศึกษาทีดีขึ้น
กอปรกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไป ทำให้ผู้คนเข้าถึงข่าวสาร รับรู้ความเป็นไปของสังคมกันมากขึ้น
จากประเทศที่ผู้คนด้อยการศึกษาเป็นส่วนใหญ่
ปัจจุบันเรามีประชากรจบปริญญาตรีล้นตลาดเกินต้องการ (บ่งชี้ว่าประชากรส่วนใหญ่มีโอกาสเข้าถึงการศึกษา แต่ไม่ได้บ่งชี้ด้านคุณภาพนะ)
ปัจจุบันนี้ ผมเริ่มได้เห็นสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมายในหลายวงการของประเทศเรา
ถึงบางส่วนจะพึ่งเริ่มเป็นจุดเล็กๆ พึ่งฉายแสงแห่งความหวังออกมา
แต่มันก็ได้เริ่มขึ้นแล้วกับสังคมไทยแห่งนี้
ยกตัวอย่างเลย ที่กำลังเป็นกระแสฟีเวอร์ ณ ตอนนี้
วงการฟุตบอลไทยที่กำลังแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างน่าดูชม
เราไม่ได้มีทีมฟุตบอลที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่เรายังมีกองเชียร์ที่ดูมีคลาสมากขึ้น
จากคำชื่นชมมากมายของฝั่งกองเชียร์มาเลย์เซียต่อกองเชียร์ชาวไทยนั้น เป็นตัวสะท้อนได้ถึงคลาสของเราเป็นอย่างดี
เรามีคนไทยที่มีคุณภาพมากขึ้น ผมเชื่อเช่นนั้น ไม่งั้นสิ่งเหล่านี้จะเกิดได้ลำบาก
แสงสว่างอันถัดไปที่มาพร้อมเทคโนโลยี
ผมได้เห็นเพจในเฟซบุ๊คมากมาย ที่ออกมาเรียกร้องการให้เกียร์ติผู้อื่นกันในสังคม
อย่างเช่นเพจมนุษย์ป้า เสานี้ไม่ว่างเสาหน้านะน้อง ฯลฯ
นี่เป็นตัวอย่างที่ดี ของการค่อยๆ ปรับสังคมไทย กลายเป็นสังคมที่ต้องจะให้เกียร์ติกัน คิดถึงผู้อื่นมากขึ้นในการอยู่ร่วมในสังคม
ในมุมมองของผม ประเทศไทยกำลังจะค่อยๆ น่าอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ
คนรุ่นใหม่ของเรา ถึงจะไม่ได้มีคุณภาพกันทุกคน
แต่เราก็มีคุณภาพกันมากขึ้น และนั่นเป็นตัวผลักดันสังคมที่ดีที่สุด
สักวันหนึ่ง ด้วยเสียงของคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพมากขึ้นเหล่านั้น
จะเปลี่ยนแปลงหน้าการเมืองของชนชาติเรา
นักการเมืองโกงกินจะอยู่กันยากขึ้น คนดีๆ จะเข้าสู่การเมืองมากขึ้น
ผมคิดว่าอีกไม่นาน ยุคทองของประเทศเรากำลังจะมาถึง
ขอเพียงมีนักการเมืองดีๆ ได้ปกครองประเทศต่อเนื่องสักสิบปี
ประเทศเราก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือกันแล้ว