ปารีส คือ สวรรค์สำหรับใครหลายๆคน และเป็นปลายทางที่อีกหลายๆคนต่างถวิลหาและครั้งหนึ่งอยากไปสัมผัสและเปิดประสบการณ์ที่เมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแฟชั่น ความโรแมนติก ศิลปะ หรือสถาปัตยกรรม แต่...ไม่ว่าสถานที่ไหนๆก็ตาม ก็จะมีด้านที่ควรหลีกเลี่ยงและพึงระวังในสถานที่นั้นๆ ซึ่งปารีสก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน
ในนี้จะมีอยู่ 8 ข้อแนะนำที่ทั้งควรหลีกเลี่ยงและพึงระวังในปารีส อันนี้ทั้งจากความเห็นส่วนตัวทั้งจากประสบการณ์ตรงและการสนทนากันกับผองเพื่อนหลายๆคนนะครับ หากท่านใดมีความเห็นหรือข้อเสนอแนะอะไรที่อยากร่วมแชร์ประสบการณ์ก็จะยินดีเป็นอย่างมากครับ
1. การไปถนนช็อง เซลิเซ่ : จริงๆหากคุณจะไปช็อปปิ้ง แนะนำว่าควรจะไปทีอื่นดีกว่านะครับ เช่น Gallery Laffayate หรือ Rue Sant Honore ... โดยส่วนตัวแล้ว การนั่ง Hop On- Hop Off ในปารีส จะได้มุมมองที่สวยที่สุดในการมองประตูชัย จากบนถนนช็อง เซลิเซ่ ครับ ... จริงอยู่ที่ถนนสายนี้มีร้านอยู่เยอะจริง แต่หากเป็นการเดินประเภทที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้ออะไร ต้องเดินย้อนไปย้อนมา บอกเลยว่า "เหนื่อยขาลาก" แน่นอน เพราะร้านแต่ละร้าน ไม่ได้อยู่ติดๆกันนะครับ ใครที่ไม่อึดเรื่องเดิน แนะว่า "ไปที่อื่นเถอะครับ"
2. การต่อคิวขึ้นหอไอเฟล : ถูกครับ...หอไอเฟล เป็นแลนด์มาร์คของที่นี่ และเป็นปลายทางของใครหลายๆคนที่ถวิลหาความโรแมนติก อยากบอกว่า แค่นั่งมองหอไอเฟลจากด้านล่างที่สวน แล้วแหงนหน้ามองขึ้นไปก็ "ฟิน" แล้วครับ ขณะที่การต่อแถวเพื่อขึ้นหอไอเฟลนั้น ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆเลยทีเดียวนะครับ เช่น คิวแรก 9 โมงเช้า คุณควรมาให้ถึงก่อน 8 โมงเสียด้วยซ้ำ และการต่อคิวยาวเป็นชั่วโมงๆเนี่ย "เป็นแบบนี้ตลอดทั้งวัน" นะครับ เว้นเสียแต่คุณจะมาเป็นแบบ Group booking ... แนะนำว่า การเสียเงินขึ้นชมวิวบนตึกสูงๆอย่าง Tour montparnasse หรือ ไปยืนถ่ายรูปทีมุมมหาชนอย่าง Trocadero ก็ฟินได้เหมือนกัน แถมยังมีรูปหอไอเฟลอยู่ในเฟรมคู่กับคุณอีกด้วยนะ แหม่...
3. การตามล่าหาโมนาลิซ่า : ว่ากันว่า โมนาลิซ่า คือ อดีตหญิงสาวที่สวยที่สุดในโลก แต่...กรุณาอย่าแสดงความผิดหวังออกมา หากคุณได้เห็นภาพของจริง เพราะคุณหรือผู้หญิงของคุณอาจจะหน้าตาดีกว่าก็ได้ ฮ่าๆๆ
4. พาเด็กเล็กตะลอนๆไปด้วย : ความเห็นส่วนตัวของผม คือ อาจจะไม่ค่อยสะดวกครับ โดยเฉพาะการโดยสารรถใต้ดิน เนื่องจากทางเดินโดยเฉพาะช่วงที่เป็นรอยต่อหรือทางเชื่อมระหว่างสายต่างๆของรถไฟฟ้านั้น เป็นแบบบันไดเป็นขั้นๆ ที่จะต้องยกรถเข็นขึ้นๆลงๆ เพราะไม่มีทางลาดให้เข็นครับ อันนี้ ขอรวมถึงตอนเดินทางไปถึงปารีสใหม่ๆ โดยเฉพาะช่วงหาที่พัก หากขนกระเป๋าเดินทางหนักๆไป คุณเหนื่อยตั้งแต่เริ่มต้นแน่ๆครับ
5. เป็นเหยื่อถูกล้วงกระเป๋า : ข้อนี้ ไม่ว่าโดนที่ไหนๆก็ "นรกแตกและรู้สึกแย่" ทั้งนั้นครับ แต่ที่ปารีส ที่ควรระวังให้ดี คือ พวกยิปซี, ชาวอาฟริกัน และแขกขาว ซึ่งบางครั้งจะแฝงตัวมาในรูปแบบของคนขายของที่ระลึก ขายอาหารนก ตามแลนด์มาร์คสำคัญๆในปารีส รวมถึงคนที่หวังดี จะมาช่วยเรานู่นนี่นั่นต่างๆ พวกนี้ตัวดีเลย เพราะเค้าทำงานกันเป็นทีม ... พยายามทำตัวล้อกแล้กๆเข้าไว้ เหมือนเตือนสติตัวเองตลอดเวลานะครับ
6. การต่อคิวเพื่อซื้อเบอร์เกอร์คิง : บางสาขาใช้เวลาต่อคิวเป็นขั่วโมงๆ พอๆกันกับการไปต่อคิวเพื่อขึ้นไปข้างบนหอไอเฟล หากคุณยืนรอต่อคิวครบทั้ง 2 แห่ง ... ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณหมดเวลาไปกว่า 2 ชม.ในกรุงปารีสไปกับการ "รอ" เพียงอย่างเดียว และ 2 ชม.ที่หายไปเนี่ย คุณทำอะไรได้มากมายเลยครับกับเมืองนี้ อย่างน้อยๆ คุณนั่งเรือปารีเชียงในแม่น้ำไรน์เพื่อชมวิวได้ 1 รอบแบบไป-กลับเรียบร้อยแล้วครับ แถมให้กับการเดินชิลล์พร้อมคล้องกุญแจบนสะพาน Pont des Arts ให้อีกอย่าง
7. การถามทางในกรุงปารีส : ข้อนี้สำหรับผม อาจจะไม่เลวร้ายมากนะครับ เพราะผมเคยเจอสถานการณ์ชนิดที่ว่า อยู่สถานีรถไฟตอน 5 ทุ่มกว่าๆ หลังเดินทางมาจากมิลาน และพบว่า ตัวเองอยู่ที่ Gare de Lyon แต่ตัวเองคิดว่า ตอนนี้อยู่ที่ Gare du Nord ... พอออกไปข้างนอกเพื่อหาโรงแรม เอ๊ะ! ทำไมไม่ใช่เส้นทางที่เราศึกษาก่อนมาหว่า??? ผมจึงกลับเข้าไปที่ด้านใน Gare de Lyon อีกครั้ง เพื่อถามทาง แต่กลับพบว่า ไม่มีใครพูดอังกฤษได้เลย ดังนั้น ผมจึงเอาแผนที่โรงแรมพร้อมที่อยู่ให้เค้าดู พนักงานก็เขียนแต่ตัวเลขแล้วใช้ภาษามือ จากนั้นจึงชี้นิ้วบอกทางให้กับผมแบบขึ้นๆลงๆ เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ตามลำดับ พอผมไปถึงอีกสถานีรถใต้ดินตรงนั้นได้แล้ว ก็ถามทางจากคนแถวๆนั้น ซึ่งก็พูดอังกฤษไม่ได้อีก! แต่ก็ชี้นิ้วแล้วทำมือเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จนผมหาโรงแรมเจอตอนเกือบตี1 ... ผมเองก็มองว่า เวลานั้น ผมก็วิกฤตินะ เพราะไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษกับผมเลย แต่พอผ่านมาได้ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ผมบอกกล่าวเสมอมา ว่า หากภาษาอังกฤษใช้ไม่ได้ผล ให้ใช้ภาษามือ+สัญชาติญาณนี่ล่ะครับ บวกกับการมีสติและอย่าประมาทโดยเด็ดขาดเมื่ออยู่ต่างบ้านต่างเมือง
8. ไปแจม เมื่อมีการประท้วงหยุดงาน : ช่วงที่ผมไปปารีส บังเอิญว่าไปเจอกับเหตุการณ์ประท้วงทางด้านการเมืองที่ถนนช็อง เซลิเซ่ พอดี ... ตลกตรงที่ถามตำรวจว่า Hey man, What's happen? พี่แกเดินหนีเลยครับ เพราะแกตอบไม่ได้ ฮ่าๆๆ จริงๆผมก็แอบไปแจมหน่อยๆ อยากรู้ว่าฟิลลิ่งมันเป็นยังไง แต่ยังดีที่ไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น
ตอนอื่นๆ
- รีวิว 26 วัน อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส
http://pantip.com/topic/30223433
- บริสเบน ออสเตรเลีย
http://pantip.com/topic/30097280
- พาเที่ยวนอกเมืองบริสเบน (Brisbane) ออสเตรเลีย (ไป Alma Park Zoo, North Lakes, Redcliffe)
http://pantip.com/topic/32962849
ใครชอบ ใครถูกใจ อย่าลืมให้ "ถูกใจ" หรือ คลิก "Like" เพื่อเป็นสร้างแรงบันดาลใจให้ด้วยนะครับ
http://www.facebook.com/Widewideworld
ขอบคุณครับ
8 ข้อแนะนำที่ทั้งควรหลีกเลี่ยงและพึงระวังในปารีส
ในนี้จะมีอยู่ 8 ข้อแนะนำที่ทั้งควรหลีกเลี่ยงและพึงระวังในปารีส อันนี้ทั้งจากความเห็นส่วนตัวทั้งจากประสบการณ์ตรงและการสนทนากันกับผองเพื่อนหลายๆคนนะครับ หากท่านใดมีความเห็นหรือข้อเสนอแนะอะไรที่อยากร่วมแชร์ประสบการณ์ก็จะยินดีเป็นอย่างมากครับ
1. การไปถนนช็อง เซลิเซ่ : จริงๆหากคุณจะไปช็อปปิ้ง แนะนำว่าควรจะไปทีอื่นดีกว่านะครับ เช่น Gallery Laffayate หรือ Rue Sant Honore ... โดยส่วนตัวแล้ว การนั่ง Hop On- Hop Off ในปารีส จะได้มุมมองที่สวยที่สุดในการมองประตูชัย จากบนถนนช็อง เซลิเซ่ ครับ ... จริงอยู่ที่ถนนสายนี้มีร้านอยู่เยอะจริง แต่หากเป็นการเดินประเภทที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้ออะไร ต้องเดินย้อนไปย้อนมา บอกเลยว่า "เหนื่อยขาลาก" แน่นอน เพราะร้านแต่ละร้าน ไม่ได้อยู่ติดๆกันนะครับ ใครที่ไม่อึดเรื่องเดิน แนะว่า "ไปที่อื่นเถอะครับ"
2. การต่อคิวขึ้นหอไอเฟล : ถูกครับ...หอไอเฟล เป็นแลนด์มาร์คของที่นี่ และเป็นปลายทางของใครหลายๆคนที่ถวิลหาความโรแมนติก อยากบอกว่า แค่นั่งมองหอไอเฟลจากด้านล่างที่สวน แล้วแหงนหน้ามองขึ้นไปก็ "ฟิน" แล้วครับ ขณะที่การต่อแถวเพื่อขึ้นหอไอเฟลนั้น ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆเลยทีเดียวนะครับ เช่น คิวแรก 9 โมงเช้า คุณควรมาให้ถึงก่อน 8 โมงเสียด้วยซ้ำ และการต่อคิวยาวเป็นชั่วโมงๆเนี่ย "เป็นแบบนี้ตลอดทั้งวัน" นะครับ เว้นเสียแต่คุณจะมาเป็นแบบ Group booking ... แนะนำว่า การเสียเงินขึ้นชมวิวบนตึกสูงๆอย่าง Tour montparnasse หรือ ไปยืนถ่ายรูปทีมุมมหาชนอย่าง Trocadero ก็ฟินได้เหมือนกัน แถมยังมีรูปหอไอเฟลอยู่ในเฟรมคู่กับคุณอีกด้วยนะ แหม่...
3. การตามล่าหาโมนาลิซ่า : ว่ากันว่า โมนาลิซ่า คือ อดีตหญิงสาวที่สวยที่สุดในโลก แต่...กรุณาอย่าแสดงความผิดหวังออกมา หากคุณได้เห็นภาพของจริง เพราะคุณหรือผู้หญิงของคุณอาจจะหน้าตาดีกว่าก็ได้ ฮ่าๆๆ
4. พาเด็กเล็กตะลอนๆไปด้วย : ความเห็นส่วนตัวของผม คือ อาจจะไม่ค่อยสะดวกครับ โดยเฉพาะการโดยสารรถใต้ดิน เนื่องจากทางเดินโดยเฉพาะช่วงที่เป็นรอยต่อหรือทางเชื่อมระหว่างสายต่างๆของรถไฟฟ้านั้น เป็นแบบบันไดเป็นขั้นๆ ที่จะต้องยกรถเข็นขึ้นๆลงๆ เพราะไม่มีทางลาดให้เข็นครับ อันนี้ ขอรวมถึงตอนเดินทางไปถึงปารีสใหม่ๆ โดยเฉพาะช่วงหาที่พัก หากขนกระเป๋าเดินทางหนักๆไป คุณเหนื่อยตั้งแต่เริ่มต้นแน่ๆครับ
5. เป็นเหยื่อถูกล้วงกระเป๋า : ข้อนี้ ไม่ว่าโดนที่ไหนๆก็ "นรกแตกและรู้สึกแย่" ทั้งนั้นครับ แต่ที่ปารีส ที่ควรระวังให้ดี คือ พวกยิปซี, ชาวอาฟริกัน และแขกขาว ซึ่งบางครั้งจะแฝงตัวมาในรูปแบบของคนขายของที่ระลึก ขายอาหารนก ตามแลนด์มาร์คสำคัญๆในปารีส รวมถึงคนที่หวังดี จะมาช่วยเรานู่นนี่นั่นต่างๆ พวกนี้ตัวดีเลย เพราะเค้าทำงานกันเป็นทีม ... พยายามทำตัวล้อกแล้กๆเข้าไว้ เหมือนเตือนสติตัวเองตลอดเวลานะครับ
6. การต่อคิวเพื่อซื้อเบอร์เกอร์คิง : บางสาขาใช้เวลาต่อคิวเป็นขั่วโมงๆ พอๆกันกับการไปต่อคิวเพื่อขึ้นไปข้างบนหอไอเฟล หากคุณยืนรอต่อคิวครบทั้ง 2 แห่ง ... ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณหมดเวลาไปกว่า 2 ชม.ในกรุงปารีสไปกับการ "รอ" เพียงอย่างเดียว และ 2 ชม.ที่หายไปเนี่ย คุณทำอะไรได้มากมายเลยครับกับเมืองนี้ อย่างน้อยๆ คุณนั่งเรือปารีเชียงในแม่น้ำไรน์เพื่อชมวิวได้ 1 รอบแบบไป-กลับเรียบร้อยแล้วครับ แถมให้กับการเดินชิลล์พร้อมคล้องกุญแจบนสะพาน Pont des Arts ให้อีกอย่าง
7. การถามทางในกรุงปารีส : ข้อนี้สำหรับผม อาจจะไม่เลวร้ายมากนะครับ เพราะผมเคยเจอสถานการณ์ชนิดที่ว่า อยู่สถานีรถไฟตอน 5 ทุ่มกว่าๆ หลังเดินทางมาจากมิลาน และพบว่า ตัวเองอยู่ที่ Gare de Lyon แต่ตัวเองคิดว่า ตอนนี้อยู่ที่ Gare du Nord ... พอออกไปข้างนอกเพื่อหาโรงแรม เอ๊ะ! ทำไมไม่ใช่เส้นทางที่เราศึกษาก่อนมาหว่า??? ผมจึงกลับเข้าไปที่ด้านใน Gare de Lyon อีกครั้ง เพื่อถามทาง แต่กลับพบว่า ไม่มีใครพูดอังกฤษได้เลย ดังนั้น ผมจึงเอาแผนที่โรงแรมพร้อมที่อยู่ให้เค้าดู พนักงานก็เขียนแต่ตัวเลขแล้วใช้ภาษามือ จากนั้นจึงชี้นิ้วบอกทางให้กับผมแบบขึ้นๆลงๆ เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ตามลำดับ พอผมไปถึงอีกสถานีรถใต้ดินตรงนั้นได้แล้ว ก็ถามทางจากคนแถวๆนั้น ซึ่งก็พูดอังกฤษไม่ได้อีก! แต่ก็ชี้นิ้วแล้วทำมือเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จนผมหาโรงแรมเจอตอนเกือบตี1 ... ผมเองก็มองว่า เวลานั้น ผมก็วิกฤตินะ เพราะไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษกับผมเลย แต่พอผ่านมาได้ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ผมบอกกล่าวเสมอมา ว่า หากภาษาอังกฤษใช้ไม่ได้ผล ให้ใช้ภาษามือ+สัญชาติญาณนี่ล่ะครับ บวกกับการมีสติและอย่าประมาทโดยเด็ดขาดเมื่ออยู่ต่างบ้านต่างเมือง
8. ไปแจม เมื่อมีการประท้วงหยุดงาน : ช่วงที่ผมไปปารีส บังเอิญว่าไปเจอกับเหตุการณ์ประท้วงทางด้านการเมืองที่ถนนช็อง เซลิเซ่ พอดี ... ตลกตรงที่ถามตำรวจว่า Hey man, What's happen? พี่แกเดินหนีเลยครับ เพราะแกตอบไม่ได้ ฮ่าๆๆ จริงๆผมก็แอบไปแจมหน่อยๆ อยากรู้ว่าฟิลลิ่งมันเป็นยังไง แต่ยังดีที่ไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น
ตอนอื่นๆ
- รีวิว 26 วัน อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส http://pantip.com/topic/30223433
- บริสเบน ออสเตรเลีย http://pantip.com/topic/30097280
- พาเที่ยวนอกเมืองบริสเบน (Brisbane) ออสเตรเลีย (ไป Alma Park Zoo, North Lakes, Redcliffe) http://pantip.com/topic/32962849
ใครชอบ ใครถูกใจ อย่าลืมให้ "ถูกใจ" หรือ คลิก "Like" เพื่อเป็นสร้างแรงบันดาลใจให้ด้วยนะครับ http://www.facebook.com/Widewideworld
ขอบคุณครับ