สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกล้วนอนิจจัง สาธุชนผู้ตื่นรู้ทั้งหลายจงตั้งจิตให้เป็นกลาง ปล่อยวางจาก
ความสับสนความสงสัยทั้งหลายทั้งปวง
แล้วท่านจะรู้สึกสงบสบายภายใน 1 วินาที
“แม่ลูกจันทร์” รู้สึกสงบสบายสดชื่นเบิกบานหลังทราบมติที่ประชุม ป.ป.ช.ให้ยกคำร้องคดีถอดถอน
อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และอดีตรัฐมนตรีอีกหลายคน กรณีทุจริตระบายข้าวสต๊อกรัฐซึ่งติด
ค้างลำกล้องมา 5 ปี
เนื่องจากคณะอนุ กก.ไต่สวนคดีนี้ ไม่พบมูลความผิดหรือหลักฐานการทุจริตแต่อย่างใด
“แม่ลูกจันทร์” ไม่แปลกใจที่ ป.ป.ช.มีมติให้ยกคำร้องคดีทุจริตระบายข้าวยุครัฐบาล ปชป.
เพราะก่อนหน้านี้ ได้มีกรรมการ ป.ป.ช.บางคนออกมายอมรับเองว่าเอกสารสำคัญบางส่วน
ถูกนํ้าท่วมใหญ่สูญหายไป
การที่หลักฐานบางส่วนโดนนํ้าท่วมเสียหายย่อมทำให้สำนวนสอบสวนของ ป.ป.ช.ต้อง
“โบ๋” ไปบ้างเป็นธรรมดา
เรื่องนี้โทษ ป.ป.ช.ไม่ได้ ต้องโทษนํ้าท่วมลูกเดียว
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.ชี้แจงว่าถึงแม้ข้อหา
ส่วนใหญ่จะโดนตีตกไปแล้วก็จริง
แต่มีบางประเด็นซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่าถ้าจะรอต่อไปก็อาจล่าช้าไม่ทันใจ
จึงเห็นควรให้ยุติการแสวงหา พยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยให้ไต่สวนข้อเท็จจริงตาม
พยานหลักฐานเท่าที่มี
เพื่อไม่ให้ถูกโจมตีว่า ป.ป.ช.เร่ง เช็กบิลเฉพาะฝ่ายใดฝ่ายเดียว
“แม่ลูกจันทร์” มองต่างมุมว่าการที่ ป.ป.ช.สั่งเร่งสรุปสำนวนไต่สวนตามหลักฐานเท่าที่มี
โดยไม่ต้องแสวงหาหลักฐานพยานเพิ่มเติม
อาจทำให้สำนวนการสอบสวน
ไม่ครบถ้วน? ไม่รอบคอบ? ไม่รัดกุม?
และสุดท้าย...ป.ป.ช.จะมีมติให้ยกคำร้องอีกตามฟอร์ม
อนึ่ง ถ้าพูดกันตรงๆปัญหาของ ป.ป.ช.ไม่ได้อยู่ที่ปิดคดีช้า? หรือปิดคดีเร็ว?
แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ชาวบ้านไม่มั่นใจความเป็นกลางของ ป.ป.ช.บางคน
จนเกิดวิกฤติศรัทธาต่อการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.โดยรวม
“แม่ลูกจันทร์” มั่นใจว่าในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมีการ “ปฏิรูป ป.ป.ช.”
อย่างแน่นอน
ล่าสุดมีข้อเสนอจากสภาปฏิรูปแห่ง ชาติ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ปฏิรูป
บทบาทองค์กรอิสระ โดยเฉพาะ ป.ป.ช.เป็นประเด็นสำคัญ
ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สนช. ซึ่งมี “นายกล้าณรงค์ จันทิก”
(อดีต ป.ป.ช.คนดัง) เป็นประธาน ชี้ว่าต้องจำกัดบทบาท ป.ป.ช.ให้มีอำนาจเช็กบิล
เฉพาะคดีทุจริต และร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ ป.ป.ช.
โดยไม่ต้องไปวุ่นวายขายปลาช่อนคดีความผิดทางวินัย หรือคดีการเมือง หรือคดีที่
ไม่เกี่ยวกับการทุจริตโดยตรง (เช่น...ตามไล่บี้เช็กบิล ส.ส. ส.ว.แก้ไขรัฐธรรมนูญ)
เพื่อให้ ป.ป.ช.มุ่งทำงานปราบทุจริตให้สุดลิ่มทิ่มประตู
เช่นเดียวกับคณะกรรมาธิการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม สนช. ซึ่งมี พล.ร.อ.ดิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานเสนอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบการทำงานขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
โดยเฉพาะ ป.ป.ช.ต้องกำหนดเวลาสอบสวนคำร้องให้ชัดเจน
ไม่ใช่เร่งเรื่องใดเรื่องหนึ่งตะบี้ ตะบัน หรือแช่เรื่องใดเรื่องหนึ่งไว้จนขาดอายุความ
ให้กำหนดโทษทางวินัย อาญา และการถอดถอนกรรมการองค์กรอิสระไว้ในรัฐธรรมนูญ
ให้ลดวาระการดำรงตำแหน่งจาก 9 ปี เหลือ 4 ปี เพื่อให้ทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ยาวนานจนสร้างเครือข่ายอิทธิพลอันจะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของตัวเอง
นิมนต์กรรมการ ป.ป.ช.เตรียมรอรับการผ่าตัดใหญ่ได้เลย.
“แม่ลูกจันทร์”
http://www.thairath.co.th/content/470469
ปฏิรูป ป.ป.ช. โดย แม่ลูกจันทร์ ....ไทยรัฐออนไลน์ ....sao..เหลือ..noi ...อ่านกันหรือยัง ?
ความสับสนความสงสัยทั้งหลายทั้งปวง
แล้วท่านจะรู้สึกสงบสบายภายใน 1 วินาที
“แม่ลูกจันทร์” รู้สึกสงบสบายสดชื่นเบิกบานหลังทราบมติที่ประชุม ป.ป.ช.ให้ยกคำร้องคดีถอดถอน
อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และอดีตรัฐมนตรีอีกหลายคน กรณีทุจริตระบายข้าวสต๊อกรัฐซึ่งติด
ค้างลำกล้องมา 5 ปี
เนื่องจากคณะอนุ กก.ไต่สวนคดีนี้ ไม่พบมูลความผิดหรือหลักฐานการทุจริตแต่อย่างใด
“แม่ลูกจันทร์” ไม่แปลกใจที่ ป.ป.ช.มีมติให้ยกคำร้องคดีทุจริตระบายข้าวยุครัฐบาล ปชป.
เพราะก่อนหน้านี้ ได้มีกรรมการ ป.ป.ช.บางคนออกมายอมรับเองว่าเอกสารสำคัญบางส่วน
ถูกนํ้าท่วมใหญ่สูญหายไป
การที่หลักฐานบางส่วนโดนนํ้าท่วมเสียหายย่อมทำให้สำนวนสอบสวนของ ป.ป.ช.ต้อง
“โบ๋” ไปบ้างเป็นธรรมดา
เรื่องนี้โทษ ป.ป.ช.ไม่ได้ ต้องโทษนํ้าท่วมลูกเดียว
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.ชี้แจงว่าถึงแม้ข้อหา
ส่วนใหญ่จะโดนตีตกไปแล้วก็จริง
แต่มีบางประเด็นซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่าถ้าจะรอต่อไปก็อาจล่าช้าไม่ทันใจ
จึงเห็นควรให้ยุติการแสวงหา พยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยให้ไต่สวนข้อเท็จจริงตาม
พยานหลักฐานเท่าที่มี
เพื่อไม่ให้ถูกโจมตีว่า ป.ป.ช.เร่ง เช็กบิลเฉพาะฝ่ายใดฝ่ายเดียว
“แม่ลูกจันทร์” มองต่างมุมว่าการที่ ป.ป.ช.สั่งเร่งสรุปสำนวนไต่สวนตามหลักฐานเท่าที่มี
โดยไม่ต้องแสวงหาหลักฐานพยานเพิ่มเติม
อาจทำให้สำนวนการสอบสวน
ไม่ครบถ้วน? ไม่รอบคอบ? ไม่รัดกุม?
และสุดท้าย...ป.ป.ช.จะมีมติให้ยกคำร้องอีกตามฟอร์ม
อนึ่ง ถ้าพูดกันตรงๆปัญหาของ ป.ป.ช.ไม่ได้อยู่ที่ปิดคดีช้า? หรือปิดคดีเร็ว?
แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ชาวบ้านไม่มั่นใจความเป็นกลางของ ป.ป.ช.บางคน
จนเกิดวิกฤติศรัทธาต่อการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.โดยรวม
“แม่ลูกจันทร์” มั่นใจว่าในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมีการ “ปฏิรูป ป.ป.ช.”
อย่างแน่นอน
ล่าสุดมีข้อเสนอจากสภาปฏิรูปแห่ง ชาติ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ปฏิรูป
บทบาทองค์กรอิสระ โดยเฉพาะ ป.ป.ช.เป็นประเด็นสำคัญ
ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สนช. ซึ่งมี “นายกล้าณรงค์ จันทิก”
(อดีต ป.ป.ช.คนดัง) เป็นประธาน ชี้ว่าต้องจำกัดบทบาท ป.ป.ช.ให้มีอำนาจเช็กบิล
เฉพาะคดีทุจริต และร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ ป.ป.ช.
โดยไม่ต้องไปวุ่นวายขายปลาช่อนคดีความผิดทางวินัย หรือคดีการเมือง หรือคดีที่
ไม่เกี่ยวกับการทุจริตโดยตรง (เช่น...ตามไล่บี้เช็กบิล ส.ส. ส.ว.แก้ไขรัฐธรรมนูญ)
เพื่อให้ ป.ป.ช.มุ่งทำงานปราบทุจริตให้สุดลิ่มทิ่มประตู
เช่นเดียวกับคณะกรรมาธิการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม สนช. ซึ่งมี พล.ร.อ.ดิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานเสนอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบการทำงานขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
โดยเฉพาะ ป.ป.ช.ต้องกำหนดเวลาสอบสวนคำร้องให้ชัดเจน
ไม่ใช่เร่งเรื่องใดเรื่องหนึ่งตะบี้ ตะบัน หรือแช่เรื่องใดเรื่องหนึ่งไว้จนขาดอายุความ
ให้กำหนดโทษทางวินัย อาญา และการถอดถอนกรรมการองค์กรอิสระไว้ในรัฐธรรมนูญ
ให้ลดวาระการดำรงตำแหน่งจาก 9 ปี เหลือ 4 ปี เพื่อให้ทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ยาวนานจนสร้างเครือข่ายอิทธิพลอันจะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของตัวเอง
นิมนต์กรรมการ ป.ป.ช.เตรียมรอรับการผ่าตัดใหญ่ได้เลย.
“แม่ลูกจันทร์”
http://www.thairath.co.th/content/470469