ชีวิตจริง...ยิ่งกว่าละคร

กระทู้คำถาม
ผมชื่อเล่นว่าโน้ต  เกิดที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ต่อมาย้ายมาเรียนอนุบาลที่  จ.สุราษฏร์ ต่อมาจากนั้นย้ายมาเข้า ป.1 ที่ จ.พิจิตร
และ ป.2-6 ที่ จ.แพร่ม.1-6 และปริญญาตรี ที่จังหวัดตากบางท่านคงสงสัยว่าทำไมย้ายบ่อยพ่อแม่เป็นข้าการหรือเปล่า  
ไม่เลยครับผมเกิดในครอบครัวนักดนตรีพ่อเป่าแซ็ก และแม่เป็นนักร้อง  พ่อแม่แยกทางกันตอนผมอยู่ ป.6 จากนั้นมา
ไม่เคยเจอหน้าพ่ออีกเลยเพราะตั้งแต่  ม.1 ย้ายมาอยู่กับแม่ที่ จ.ตาก และไม่เคยติดต่อพ่ออีกเลย  ตอนนี้ผมอายุ 32 ย่าง 33
เคยทำงานสถานที่ราชการมาหลายปี ล่าสุดเมื่อสามปีก่อน ทำงานที่ โรงพยาบาลอุ้มผาง  
ซึ่งอยู่บนดอยห่างไกลจากอำเภอเมืองตากมาก เคยตามหาพ่อมาตลอดโทรไปถามญาติๆที่พ่อเคยไปทำงานด้วยก็ไม่มีข่าวคราว
พอได้มาทำงานที่โรงพยาบาลก็ลองเช็คชื่อพ่อ จากโปรแกรมของโรงพยาบาลเพราะสามารคเช็คสิทธิ์คนไทยได้ ว่ารักษาที่ไหน
ตำบลอะไร  เลยได้ข้อมูลคร่าวๆว่าอยู่ จ.พัทลุง เลยหาเบอร์สถานีอนามัยที่พ่อมีชื่ออยู่แต่พอโทรไปเจ้าหน้าที่ไม่รู้จัก
และไม่สามารถตามให้ได้  จากนั้นมาก็เหมือนหมดหนทางไม่รู้ว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า จนผมอยู่ที่โรงบาลได้สามปีก็ต้องออกจากงาน
และว่างงานสี่เดือนไม่มีเงินจนต้องขายของที่มีเกือบทุกอย่าง  เพื่อมาใช้จ่ายเช่าหอ  และหางานในอำเภอเมืองตาก  
หาไปเรื่อยๆจนมีบริษัท หนึ่ง เรียกสัมภาษและได้เข้าทำงาน  ผมชอบสะสมของเล่นของเก่า วันๆก็เข้าเฟสดูและหาซื้อของเล่น  ได้สักพัก
จึงคิดหารายได้เสริม เลยมาทางที่เราถนัดคือขายของเล่นในเฟส  มาตลอด ชิ้นเล็กชิ้นใหญ่  แล้วมาอยู่ครั้งหนึ่ง
ขายของเล่นให้คนที่อยู่  จ.พัทลุงเลยนึกขึ้นได้ว่าพ่อผมอยู่  จ.พัทลุง  เลยลองถามๆเล่นๆดู  แต่เค้าไม่รู้จักหรือคุ้นเพราะเมืองมันกว้าง  
ผมก็หมดหวังอีกรอบ   แต่ก็ขายของเล่นมาตลอด  จนมาเมื่อประมานวันที่ 10/1/57 ผมขายของเล่นให้พี่ท่านหนึ่งเค้าชอบดราก้อนบอล
ก็ซื้อขายกันธรรมดาเหมือนท่านอื่นๆ   แต่พอขอที่อยู่เพื่อที่จะส่งของเล่นให้  ใจผมมีหวังมาอีกครั้ง   แกอยู่  จ.พัทลุง  
ผมเลยเริ่มบทสนทนา กับแกว่าผมกับพ่อจากกันมายี่สิบกว่าปีแล้วตามหามาตลอด  ไม่เคยเจอ
แต่ผมมีชื่อนามสกุลและเลขบัตรประชาชน   แกเลยอาสาจะไปดูให้เพราะแกชำนาญพื้นที่   วันที่ 10/1/57
แกขอเบอร์ผมในเฟสบอกว่าวันนี้จะไปดูให้ จากนั้นประมาณสองวันครับ  
แกโทรหาผมตอนเที่ยงๆ  บอกเจอพ่อละนะ  (ในใจผมคิดเห้ย  หลอกปะวะ)  อีกแปบมีเสียงผู้ชายแทรกมาว่า
เป็นไงบ้างลูก กินข้าวรึยัง  แค่นั้นครับผมน้ำตาไหล   จำเสียงพ่อได้เพราะตอนเด็กๆอยู่กับพ่อตลอดเสียงพ่อยังดังอยู่ในหัวมาตลอด  
ผมก็คุยกับพ่อสักแปบประมาณห้านาทีแล้วก็ขอเบอร์ไว้  เพราะพี่เค้าต้องรีบกับแล้ว  หลังจากนั้นผมก็โทรหาพ่อตลอดพ่อก็โทรมาหา  
ผมบอกว่าจะรีบไปหาผมอยากเจอพ่อมาเพราะยี่สิบปีแล้วที่ไม่ได้เจอกันเลย  ผมจึงตัดสินใจขายของสะสมของตัวเอง เกือบทั้งหมด
เพื่อไปหาพ่อเพราะผมลางานได้แค่สามวัน  ตากกับพัทลุงไกลกันมากมีทางเดียวที่จะไปได้คือนั่งเครื่องบินไปลงตรัง
แล้วนั่งรถตู้จากตรังไปพัทลุง ผมก็เริ่มขายของเล่นจนได้เงินมาจำนวณนึงเพื่อให้พอค่าเครื่องบินจึงจองเที่ยวบิน ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
และผมก็ได้เดินทางไปหาพ่อตั้งแต่วันที่ 30/1/57-2/2/57 พอลงเครื่องที่ตรังต้องต่อรถไปพัทลุงอีก  และจากพัทลุง  
ต่อรถไปที่สถานีรถไฟ พ่อจะรอรับผมที่นั่น  พอถึงที่สถานีรถไฟ ใจผมเต้นแรง...อยากเจอพ่อ  แล้ว  ผมก็โทหาพ่อว่าอยู่ตรงไหน  
พ่อก็โทรสวนมา  จึงทำให้สายไม่ว่างเพราะต่างคนต่างโทรหากันผมเลยวางรอสักครู่   พ่อก็โทรมา บอกเดินเข้ามาในสถานีเลย
พ่ออยู่ด้านหน้า ผมก็เดินไปตามที่แกบอกโดยที่ยังไม่วาง พ่อบอกพ่อเห็นผมแล้วแต่ผมยังไม่เห็นแกเลย  
พ่อเลยยกมือและขี่มอเตอร์ไซค์มารับ  พากลับบ้านพ่อ ระหว่างทางผมกอดพ่อไว้แน่นเลย...น้ำตาซึม นิดๆ ตามไถ่ว่าเป็นไงบ้างพ่อ
พ่อได้แต่ขอโทษผมมาตลอดทางว่า  ขอโทษที่ไท่ได้ดูแลเลย  ผมตอบแกไปสั้นๆว่าไม่เป็นไรพ่อ  
ดีซะอีกทุกวันนี้ผมอยู่ในสังคมได้อย่างเข้มแข็งผ่านเรื่องอะไรมามากมาย  
พอใกล้จะถึงบ้านแกบอกว่าแกมีครอบครัวใหม่แล้วผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะแม่ก็มีครอบครัวใหม่ ผมอยู่หอมาตั้งแต่จบมอหก  
คนเดียวมาตลอด  แม่ก็ต้องทำงานที่อื่น  แต่ผมไม่เคยคิดว่าผมมีปมด้อยเลย  ผมก็ผ่านมาได้จนปัจจุบันนี้  คืนแรกก็พักผ่อน
เช้ามาผมก็ อาสาทำกับข้าวให้แกกิน  เพราะเด็กๆแกเลี้ยงดูผมมาตลอด....เวลาแค่สามวันมีความสุขมากครับ  
มีโอกาสจะไปเยี่ยมหาพ่ออีกบ่อยๆ    แค่อยากแบ่งปันเรื่องราวดีๆในชีวิตครับ  ^^ ขอบคุณทุกท่านที่เสียเวลามาอ่านครับ


รูปภาพครับ...
http://image.ohozaa.com/view2/y30vz3PeMqTIOSuo

http://image.ohozaa.com/view2/y30vn0y38GrIvK5Z
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ 
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่