วันนี้เมื่อ 10 ปีก่อนของทีมชาติไทย

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ฟุตบอลทีมชาติไทยกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เพราะวันนี้เป็นวันที่คนไทยมีความสุขมากๆกับการฉลองชัยชนะของทีมชาติไทยที่เป็นแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 ที่เรารอคอยมาถึง 12 ปี
ดีใจที่ทุกๆคนสามารถทำได้ เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทยทั้งมวล
บังเอิญเลยนึกถึงวันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นสถานการณ์ของทีมชาติไทยในตอนนั้นไม่ได้โสภาซักเท่าไหร่

เพราะได้อ่านกระทู้เก่าในเวปนี้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เลยอยากเอามาเล่าค่ะ


วันที่ 21 ธันวาคม 2547

วันนั้นมีการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติเยอรมัน ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน
ช่วงนั้นสถานการณ์ทีมชาติไทยกำลังถูกตั้งคำถามเรื่องศักยภาพ รวมทั้งการบริหารทางสมาคมฯในตอนนั้น







เพราะเขาบอกว่ากระจายตั๋วไม่ทั่วถึง ทำให้มีคนชมน้อยมาก ทั้งที่ได้อุ่นเครื่องกับทีมใหญ่อย่างเยอรมัน ประกอบกับทีมที่กำลังตกต่ำ
ส่วนทีมเยอรมันในตอนนั้นกำลังเรียกศรัทธาตัวเองกลับคืนมา เพราะอยู่ในยุคตกต่ำด้วยการทำผลงานตกรอบแรกยูโร 2004







ในตอนนั้นทีมเยอรมันมีนักเตะดังๆอย่างโอลิเวอร์ คาห์น, มิเชล บัลลัค, มิโคสลาฟ โคลเซ่ แต่ทั้งสามคนได้นั่งข้างสนาม
โดยตอนนั้นเจอร์เก้น คลินส์มันน์ กุนซือในตอนนั้น และโยอาคิม เลิฟ ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้ช่วย ใช้นักเตะรุ่นใหม่ลงสนามซะส่วนใหญ่
อย่างฟิลลิป ลาห์ม, บัสเตียน ชไวน์ชไตเกอร์, ลูคัส โพดอลสกี้ และแพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ซึ่งต่อมาพวกเขาพาทีมเป็นแชมป์บอลโลกครั้งล่าสุด


ส่วนทีมชาติไทยในตอนนั้นมีโจ้ห้าหลา เทิดศักดิ์ ใจมั่น และคนอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวถึง ดูทาง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้









ผลการแข่งขันในวันนั้น ไทยแพ้ 1-5 โดยไทยได้ประตูตีไข่แตกจากโจ้ห้าหลา ในนาทีที่ 57
ส่วนเยอรมันได้ประตูจาก Kuranyi ในนาทีที่ 34 และ 38  Podolski ในนาทีที่ 73 และ 89 และ Asamoah ในนาทีที่ 84







วิกฤติศรัทธาของแฟนบอลไทยในตอนนั้น ถึงขั้นแต่งชุดดำทั้งสนาม







คลิปไฮไลต์ฟุตบอลนัดนั้นเมื่อ 10 ปีก่อน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ยุคดรีมทีมได้หมดไปแล้วหรือ นี่เป็นคำถามตัวโตๆในตอนนั้น...

จนกระทั่ง...



วันที่ 21 ธันวาคม 2557

วันนี้เป็นวันที่คนไทยมีความสุขมากๆกับการได้ฉลองแชมป์ของทีมชาติไทยที่คว้าถ้วยแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ สู่เมืองไทยได้สำเร็จ
ภาพเหตุการณ์เมื่อวานมันตึงตราใจมากๆ สมกับที่เรารอคอยมานานถึง 12 ปี




บรรยากาศการฉลองแชมป์ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นและคับคั่ง










กำลังตลกกับตัวเองว่านี่เราต้องรอถึง 10 ปีหรือเนี่ย ถึงจะมีแสงสว่างปลายอุโมงค์
ตอนนี้ศรัทธากำลังกลับมา บรรยากาศชื่นมื่น เบิกบาน และมีความสุข
ได้แต่หวังว่าเราจะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้บ่อยๆและนานๆ เพราะเรามีเป้าหมายที่ไกลกว่านั้น
และเชื่อว่าทีมชาติไทยจะไปไกลได้อีก ถ้ามุ่งมั่นซะอย่างทั้งทีมและแฟนบอล
เหมือนที่ทีมเยอรมันที่เคยล้มแล้วตรากตรำเพื่อแก้วิกฤติเมื่อ 10 ปีที่แล้วจนประสบความสำเร็จ


หวังว่าเราจะไปถึงจุดนั้นได้เหมือนทีมชาติเยอรมันในตอนนี้ แม้มันจะดูเพ้อฝันก็ตาม...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่