สวัสดีค่ะ
วันนี้อยากจะมาแบ่งปัญประสบการของเราที่ได้มีโอกาสได้เข้ารอบ Assessment Day ของ Emirates ที่ London นะคะ
ในการสมัครครั้งนี้ เราผ่านจนได้เข้ารับการสัมภาษณ์ในรอบ Final Interview ค่ะ
ก่อนอื่นขอสรุปตัว Timeline ให้ดังนี้นะคะ
Apply: mid October 2014
AD: November 24, 2014
ขอเลื่อนวันเนื่องจากติดสอบ
AD: December 16, 2014
FI: December 17, 2014
เพิ่มเติมข้อความนะคะ ตอนนี้เรายังรอผลรอบ Final ที่พึ่งสัมภาษณ์ไปนะคะ เรายังเป็น Candidate ที่รอผลนะคะ สำหรับคำชม พร และอวยพรที่ทุกๆ ท่านมอบให้ ขอน้อมรับไว้ และขอบพระคุณค่ะ นั่นคือสิ่งที่หวัง และอยากได้ค่ะ
เราจะขอข้ามเรื่องชั้นตอนdารสมัคร และกรอกเอกสารนะคะ เพราะส่วนนี้ก็ทำในเว็บไซท์ตามระบบของเค้าไปเท่านั้น
แต่หากใครติดขัด และต้องการคำแนะนำ เช่นทำไมถึงถูกปฏิเสธใบสมัคร เรายินดีจะตอบ หากเรามีข้อมูลค่ะ
ในวัน AD เราไปถึง Radisson Blu Hotel ก่อนเวลา 30 นาทีค่ะ
เมื่อไปถึงก็เจอสาวๆ British, Irish, Scot, Polish, France, Italy และ Spain นั่งจับกลุ่มกันอยู่ตรง Lobby โรงแรมค่ะ บอกเลยเห็นแต่สาวผมทอง speak English กันไฟแล่บแปล้บๆ นี่ก็ใจแป้ว ><
และด้วยความที่เราแตกต่างคือ ผมดำ เป็นคน Asia ทุกคนค่อนข้างจะสนใจ ก็เลยได้คุยสอบถามข้อมูลกัน make friend สุดๆ ค่ะตอนนั้น
และพอถึงเวลา กรรมการก็มาเรียกให้เข้าห้องค่ะ แอบช๊อคเบาๆ กรรมการสวย เป็นผู้หญิงที่เวลามองหน้าแล้วอยากจะมองไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ มองไม่เบื่อ >< (อร๊างงงงงงงงง)
พอลงไปข้างล่างกรรมการก็บอกให้ข้าแถวแล้วเซ็นชื่อ เพื่อรับสติ๊กเกอร์มาแปะที่เสื้อ ซึ่งจะบิกชื่อ และหมายเลขของเราค่ะ
เราได้หมายเลข 3
ได้สติ๊กเกอร์แล้วเราก็เลือกที่นั่งค่ะ เราเลือกนั่งแถวหน้าตรงกับกรรมการเลย แบบประจันหน้าตรงเป๊ะๆ กับเค้าเลยค่ะ จัดท่านั่งสวยๆ ยิมงามๆ ดูแบบเฟรนด์ลี่กับทุกคน อะเลิร์ทนิดๆ ดูเป็นคนเฟรช และมีเอเนจี้เยอะ ประมาณนั้น แต่แบบทุกอย่างแสดงออกเบาๆ พอกรุบกริบ ไม่เยอะเวอร์
เหตุผลที่เราเลือกนั่งตรงนี้ เพราะวันนั้นเราประเมิณแล้ว เราโดดเด่นที่เป็น Asia หัวดำคนเดียว และการแต่งหน้าทำผมเราจัดเป๊ะกว่าสาวๆ คนอื่นค่ะ เพราะฉนั้น อย่ากระนั้นเลย วันนี้ขอจัดที่นั่งเด่นๆ ชนหน้ากรรมการเลยละกัน!! (ยืนยันเลย คนไทยแต่งกาย และมารยาทเป๊ะค่ะเวลาไปเทียบกับสาวๆ ประเทศอื่นๆ)
วันนั้นกรรมการแจ้งว่า มีผู้ส่งใบสมัครทั้งใน UK และประเทศรอบๆ มาทั้งสิ้นประมาณ 25,000 ใบสมัคร แต่คัดมาเพียง 45 คน ซึ่ง ตอนหลังเหลือแค่ 40 เพราะมีตก Grooming ไป 5 คน
พอทุกคนนั่งที่เรียบร้อย กรรมการก็แนะนำตัว ชื่อ Christina เป็น Cabin Crew มา 10 ปี ตอนนี้ย้ายมาทำ Recruitment ประจำสำนักงาน London ได้ 2 ปีแล้ว
แล้วก็เปิดรายละเอียดเกี่ยวกับสายการบิน และดูไบให้ดูค่ะ
หลังจากนั้นให้กรอกเอกสารว่าชื่ออะไร สัญชาติอะไร ได้หมายเลขอะไร ใช้ภาษาอะไรเป็นหลัก แล้วก็ขึ้นไปเบรคค่ะ 15 นาที
เอกสารตัวนี้เราใส่ไปว่าเรา Thai: Native, English: study and working knowledge
หลังจากเบรคก็เดินกลับมาที่ห้องกัน กรรมการบอกให้นั่งเรียนตาม Numeric Order เราก็นั่งเรียงค่ะ แล้วกรรมการก็จับกลุ่มให้ กลุ่มละ 3 คน
ในกลุ่มเรามีสาว กับหนุ่ม British เป็นเพื่อนร่วมทีมค่ะ
หลังจากแนะนำตัวกันแล้ว กรรมการก็แจกรูปให้กลุ่มละรูปค่ะ แล้วบอกให้ create สิว่าเราจะเอาของในรูปมาทำอะไรได้บ้าง
กลุ่มเราได้ต้นไม้ค่ะ เราเลยบอกเพื่อนว่า เราว่าจะทำเป็น Tree house เพื่อน ญ เลยบอก งั้นจะทำ swing นะ ส่วนเพื่อน ช บอก งั้นจะเอาตัวต้นไม้มาเป็นที่ให้เด็กหัดทำงานศิลปะ แบบเอากระดาษทาบละเอาสีมาฝนๆ เงี้ยค่ะ
ผ่านไป 5 นาที Christina ก็บอกให้แต่ละกลุ่มยืนขึ้นมาละนำเสนอไอเดีย โดยคนในกลุ่มต้องพูดทุกคน
กลุ่มเราโดนเป็นกลุ่มแรกค่ะ เรานี่แอบกรีดร้องในใจเลยค่ะ แบบ เฮ้ยยย สาวๆ ผมทองเต็มห้อง ให้กลุ่มเรากลุ่มแรกเลยก็ดีนะ แต่เรากลัวสำเนียงเรามันตลกๆ อ่ะ เพราะรอบกายมีแต่บริติช นี่มาแบบสำเนียงลูกผสมสุดๆ ไทย บริติช เมกัน ><
แต่พวกเราก็รีบลุกยืนทำตามที่กรรมการบอกค่ะ ณ จุดๆ นี้ จะตื่นเต้น จะอะร ไม่พร้อมยังไง เราต้องฮึบมันไว้ข้างใน เราต้องแสดงออกแบบ ได้ค่ะ พร้อม!! ชิลล์ๆ มั่นใจ แค่นี้ทำได้!! (เหรอว้าาาาาา)
ผช พูดก่อนว่าทีมเราได้รูปอะไร เค้าจะเสนอว่าทำเป็นอะไร แล้วเราก็นำเสนอของเราต่อ ละจบด้วยเพื่อนอีกคนที่ทำชิงช้าค่ะ
พอนำเสนอเสร็จทุกกลุ่มแล้ว กรรมการก็จับกลุ่มให้ใหม่ค่ะ คราวนี้กลุ่มละ 6 คน
รอบนี้ในกลุ่มเราได้รูปของประเทศ Argentina ค่ะ กรรมการบอกรูปที่ทุกกลุ่มได้นั้นเป็น Destination ของ EK ค่ะ
กรรมการบอก สมมุติว่าพวกเราเป็นลูกเรือกำลังทำไฟลท์ไปที่นั่นละผู้โดยมาถามคำถามว่าไปเที่ยวที่ไหนดี เราจะแนะนำว่ายังไง
กรรมการบอก หากไม่รู้จะกประเทศนี้ให้ไปถามกลุ่มอื่นได้ หากหาไม่ได้ให้ make ขึ้นมาค่ะ
บังเอิญเราพอจะรู้บ้าง เพื่อนอีกคนก็เคยไปเที่ยว ก็เลยรวมๆ ไอเดียกันค่ะ ว่าเออ อาร์เจนติน่าเป็นเมืองที่คนเป็นมิตร เฟรนด์ลี่ มีบ้านเก่าๆ สวยๆ ให้เดินดูในเมืองเยอะ ส่วนเราก็บอกที่นี่มีการเต้นที่โด่งดังคือ Argentine Tango หากไปเดินชมเมืองเสร็จแล้วก็ต้องต่อด้วยการนั่งทานอาหารจิบไวน์ ชมการแสดงการเต้น Argentine Tango
ระหว่างนั้น Christina ก็จะนั่งสังเกตุการณ์ค่ะ
เราถือว่าโชคดีมากๆ นอกจากจะช่วยกลุ่มตัวเองแล้ว มีอีก 2 กลุ่มหาคนที่รู้เรื่อง Bangkok กับ Tokyo ค่ะ เราก็เลยยกมือละบอก I'm from Bangkok, Thailand and I also know about travel attractions in Tokyo!! เพื่อน 2 ทีมเลยมารุมเราค่ะ
ณ จุดๆ นั้น ภาษาเราอาจจะด๋อยกว่าชาวบ้านเค้า แต่เราไม่อายที่จะยกมือ แล้วพูดเสียงดังๆ ว่าเรารู้ค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสให้ได้ช่วยเพื่อนแล้ว ยังเป็นโอกาศเรียกแขก (กรรมการ) ให้หันมามองสนใจเราค่ะ!!
ตอนนั้นกรรมการก็มองค่ะ เราก็ช่วยอีก 2 ทีมเต็มที่ มีอะไรในรูปที่เรารู้เรานี่ใส่ให้หมดค่ะ
พอหมดเวลาคุยเพื่อหาข้อมูลนำเสนอ กรรมการก็ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน 2 คนมาพูดค่ะ ในกลุ่มเราส่ง 2 สาว British ไปค่ะ
แล้วพอพรีเซนท์จลหมดกรรมการบอกให้ขึ้นไปเบรค 20 นาที แล้วลงมาจะเขอผลประกาศหน้าห้อง หากไม่มีหมายเลขก็กลับบ้านได้เลย และจะไม่มีการตอบคำถาม หรือบอกเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้งว่าเพราะอะไรถึงไม่ผ่าน
และหากใครผ่าน ให้เดินเข้ามาในห้อง อย่าส่งเสียงดัง หรือยืนขวางทางเดิน เพราะมีอีกห้องที่มีการจัดการประชุม จะเป็นการรบกวนเขาค่ะ
พอกรรมการพูดจบพวกเราก็ขึ้นมาดื่มกาแฟกันที่ Lobby ค่ะ พอครบเวลา พวกเราก็เดินลงมา
เราเห็นชื่อเราหมายเลข 3 ถูก ไฮไลท์!!
คนอื่นๆ ที่ผ่านก็ดีใจกรี๊ดกร๊าด ลืมที่ Christina บอกค่ะ!!
สักพักนางเปิดประตูออกมาถามว่าชั้นบอกว่ายังไง ถ้าใครผ่าน???
พวกเราก็ Sorry, we do apologise.
แล้วพอเข้าไปในห้อง เฮ้ย!!!
คัดออกไป 20 คน!!
แล้วกรรมการก็บอกว่า ให้ทุกคนไปเบาคได้ 2 ชั่วโมง ส่วนคนที่ไม่ได้ใช้อังกฤษเป็นภาษาหลัก และไม่ได้เรียนในระบบอังกฤษ หรือ UK Education System ต้องสอบภาษา
นี่เราก็คิดว่าเรารอด เพราะเราเรียนปริญญาโทอยู่ คิดเลยเดี๋ยวจะเดินไปสอย Subway มาทานสักหน่อย หิวมว๊ากกกกก
สรุปเราไม่รอด!!
กรรมการเรียกค่ะ!!
Christina: Please take a seat over there.
Me: Well!!! I am studying PG at University of Westminster. I mean I am studying in UK Education System so do I still need to take an English test??
Christina: Yes, you do.
Me: OMG but I checked...
Christina: You must study in UK Education System more than 5 years.
Me: Awwww I got it. T^T (ณ จุดๆ นี้ หางลู่ หูตกอ่ะ จ๋อยอย่างแรงงงงงง)
Christina: You will be ok. (แล้วก็ยิ้มหวานๆ มาให้)
Me: Nooo, I don't think so. (พี่ก็ง่ายสิ พี่มาสอบแทนหนูม้ายยยยยย)
Christina: You have 60 minutes to complete. Good luck (ยิ้มหวานๆ กระชากใจอีกหนึ่งช๊อต)
Me: Thank you. (โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ)
งานงอกก็มี งานเงิบก็มา T^T
นั่งทำไปด้วยใจแป้วๆ
ข้อสอบ Multiple Choices มันไม่ยาก แต่เพราะนอยด์กลัวตก เพราะเค้าเอาผ่านที่ 80 หรือ 90 นี่แหละ พอดีตอนนั้นช๊อค หูวิ้งเลย คิดแต่ "ตายละเรา!!"
สรุปทำจนหมดเวลาอ่า
พอ Christina เก็บข้อสอบไปก็บอกให้เราไปเบรค แล้วลงมาก่อนที่คนอื่นจะลงมานะ เต้าจะแจ้งผลให้ส่วนตัว และหากไม่ผ่าน ก็กลับได้เลย
เวลาผ่านไป 40 นาที เรารีบลงมาเลย สรุป ผ่าน!!
แล้วเค้าก็แบ่งกลุ่มทำกรุ๊ป ทีนี้แบ่งทีละ 10 เราโดนอยู่กลุ่มแรก
โจทย์คือ ถ้าเราเป็นแมเนเจอร์เรือ ที่จะเป็นเที่ยวสุดท้ายของปีนี้แล้ว แต่เกิดเหตุขัดข้องของระบบ มัน Error ทำให้มีคนจองมาพร้อมกัน 8 คน ซึ่ง Over book ไป 6 คน เราจะต้องเลือกว่าจะเอาใครไป โดยแต่ละคนต้องช่วยกันนำเสนอ แล้วออกไอเดียซัพพอร์ท ซึ่งตอนที่เตนียมไอเดีย Christina จะเรียกออกไป arm reach ทีละคน
พอเราเอื้อมแตะเสร็จเดินกลับมาเข้ากลุ่ม
พี่มืดในกลุ่มเล่นเราเลยจ้าาา
Oh you just back!! Do you have any idea??
เราก็แบบ เฮ้ย ตายๆ ยังไม่ทันตั้งตัวเลย แต่ก็แบบปากก็ยิ้ม ละพูดไปว่า
Well, If I am a manager of this cruise I will bring a magazine editor because blah blahhh blahhhh.
พอพูดจบก็ยิ้มงามๆ ทีนึง
คือ ตอนเราเดินมา Christina ก็เดินมาละไง นี่ก็มาดนางงามตอบคำถามสุดๆ
แล้วพอจบได้ข้อสรุปจะเอา 2 คนไหนไป
Christina ก็ทำ role play เป็น ลค คนท่เราไม่เลือกอ่า เราก็ต้องแบบตอบแก้ปัญหา Offer นั่นนี่อ่านะ แต่อันนี้เราไมืได้พูด เพราะพี่มืดแย่งพูด อีกอันหนุ่มบริติชไวกว่า ยกมือละคอบเลย
เรานี่แบบ เราจะรอดรอบนี้ป่าวว้าาาาา
พอจบ Role play แล้ว Christina ก็บอกให้ชึ้นไปเบรค 1 ชั่วโมง 30 นาที ละลงมาจะมีประกาศหน้าห้อง
พอเราขึ้นมา อีกกรุ๊ปก็ลงไปทำต่อ
พอถึงเวลา เฮ้ย เราผ่าน!!!
ส่วนพี่มืดตก!!!
อีกกลุ่มก็มีคนตกคนนึงเหมือนกัน
สรุปมีรอดเข้า Final Interview 18 คน
Christina แจ้งว่า พรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายของปีที่จะสัมภาษณ ไฟนอล แล้วมี slot ให้แค่ 4 คนเท่านั้น ซึ่งเค้าเลือกไว้แล้ว ส่วนที่เหลือจะเริ่มเรียกสัมภาษณ์หลังอาทิตย์ที่ 2 ของ มกราคม 2015
เราก็คิด เราคงไม่ติดหรอก เราคงโดนช่วงมกราไปแล้วแน่ๆ
สรุปเราเป็นชื่อที่ 2 ที่โดนคร่าาาา
ดีใจเบาๆ ช๊อคเบาๆ ><
//
Final Interview
December 17, 2014
เรามาก่อนเวลา 30 นาที นั่งดูคนที่อยู่ออฟฟิศ London ทำงานค่ะ นั่งให้หายตื่นเต้น นั่งสวยๆ เก๋ๆ รอกรรมการมารับค่ะ
สักพัก Christina ก็เดินมารับไปห้องสัมภาษณ์
คำถามจะเน้นเรื่องงานที่เราทำ ให้ยกตัวอย่าง รวมถึงวิธีการคิดแก้ปัญหาของเรา
แล้วก็จบค่ะ!!
พอกลับมาเราเช็ค Submission Status ของเราเปลี่ยรเป็น Interview Completed ในช่วงเย็นวันที่ 17 Dec 2014
ตอนนี้ได้แต่รอผล ><
//
สรุป คร่าวๆ
การสมัครในต่างประเทศไม่ได้ง่ายกว่าไทยค่ะ ยากกว่ามากๆ จะดูเหมือนง่ายเพราะคู่แข่งน้อยมากๆ แต่มันยากตรงที่ภาษาเราต้องสู้เค้าได้ค่ะ เราต้องพูดแล้วคนอื่นฟังเข้าใจ และเราต้องฟังที่เพื่อนๆ พูดเข้าใจได้ดีด้วยค่ะ ยิ่ง Accent แถบที่เรามานี่โอย British Accent ก็มึนละ เจอแบบ Scottish เข้าไปอีก >< แต่ละคน Thick Accent กันทั้งนั้น >< นอกจากนั้นความมั่นใจในตัวเองค่ะ เราต้องกลมกลืนไปกับเค้า ซึ่งเราโชึดีที่มาเรียน PG เราก็จะชอนกับการ discuss และการพูดนำเสนออยู่แล้ว ซึ่งก็พอจะถูไถเอาตัวรอดไปได้
//
เคล็ดลับ
ยิ้มเยอะๆ ค่ะ เฟรนด์ลี่แต่แบบไม่ใช่ยิ้มเรื่อยเปื่อย เฟรนด์ลี่เรื่อยเปื่อยนะคะ เอาแบบพอดีๆ ค่ะ
ส่วนเรื่องแต่งหน้า เราได้แนบรูปวัน AD กับ FI มาให้ดูด้วยค่ะ เผื่อจะเป็นแนวทางนะคะ
Makeup ของวัน Assessment Day
Makeup ของวัน Final Interview
//
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์นะคะ
ผลบุญจากการแชร์ความรู้นี้ขอให้หนูสมหวัง และขอให้เจ้ากรรม นายเวร และ หรือ วิญญาณต่างๆ สัมภเวสี ที่มีจิตคิดร้าย คิดอาฆาตกับเราจงได้รับส่วนบุญ ส่วนกุศลนี้ และงดโทษ อดโทษกับเราด้วยเถิด สาธุ
ประสบการณ์สมัคร และสัมภาษณ์กับ Emirates Airline ณ London ประเทศอังกฤษ
วันนี้อยากจะมาแบ่งปัญประสบการของเราที่ได้มีโอกาสได้เข้ารอบ Assessment Day ของ Emirates ที่ London นะคะ
ในการสมัครครั้งนี้ เราผ่านจนได้เข้ารับการสัมภาษณ์ในรอบ Final Interview ค่ะ
ก่อนอื่นขอสรุปตัว Timeline ให้ดังนี้นะคะ
Apply: mid October 2014
AD: November 24, 2014
ขอเลื่อนวันเนื่องจากติดสอบ
AD: December 16, 2014
FI: December 17, 2014
เพิ่มเติมข้อความนะคะ ตอนนี้เรายังรอผลรอบ Final ที่พึ่งสัมภาษณ์ไปนะคะ เรายังเป็น Candidate ที่รอผลนะคะ สำหรับคำชม พร และอวยพรที่ทุกๆ ท่านมอบให้ ขอน้อมรับไว้ และขอบพระคุณค่ะ นั่นคือสิ่งที่หวัง และอยากได้ค่ะ
เราจะขอข้ามเรื่องชั้นตอนdารสมัคร และกรอกเอกสารนะคะ เพราะส่วนนี้ก็ทำในเว็บไซท์ตามระบบของเค้าไปเท่านั้น
แต่หากใครติดขัด และต้องการคำแนะนำ เช่นทำไมถึงถูกปฏิเสธใบสมัคร เรายินดีจะตอบ หากเรามีข้อมูลค่ะ
ในวัน AD เราไปถึง Radisson Blu Hotel ก่อนเวลา 30 นาทีค่ะ
เมื่อไปถึงก็เจอสาวๆ British, Irish, Scot, Polish, France, Italy และ Spain นั่งจับกลุ่มกันอยู่ตรง Lobby โรงแรมค่ะ บอกเลยเห็นแต่สาวผมทอง speak English กันไฟแล่บแปล้บๆ นี่ก็ใจแป้ว ><
และด้วยความที่เราแตกต่างคือ ผมดำ เป็นคน Asia ทุกคนค่อนข้างจะสนใจ ก็เลยได้คุยสอบถามข้อมูลกัน make friend สุดๆ ค่ะตอนนั้น
และพอถึงเวลา กรรมการก็มาเรียกให้เข้าห้องค่ะ แอบช๊อคเบาๆ กรรมการสวย เป็นผู้หญิงที่เวลามองหน้าแล้วอยากจะมองไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ มองไม่เบื่อ >< (อร๊างงงงงงงงง)
พอลงไปข้างล่างกรรมการก็บอกให้ข้าแถวแล้วเซ็นชื่อ เพื่อรับสติ๊กเกอร์มาแปะที่เสื้อ ซึ่งจะบิกชื่อ และหมายเลขของเราค่ะ
เราได้หมายเลข 3
ได้สติ๊กเกอร์แล้วเราก็เลือกที่นั่งค่ะ เราเลือกนั่งแถวหน้าตรงกับกรรมการเลย แบบประจันหน้าตรงเป๊ะๆ กับเค้าเลยค่ะ จัดท่านั่งสวยๆ ยิมงามๆ ดูแบบเฟรนด์ลี่กับทุกคน อะเลิร์ทนิดๆ ดูเป็นคนเฟรช และมีเอเนจี้เยอะ ประมาณนั้น แต่แบบทุกอย่างแสดงออกเบาๆ พอกรุบกริบ ไม่เยอะเวอร์
เหตุผลที่เราเลือกนั่งตรงนี้ เพราะวันนั้นเราประเมิณแล้ว เราโดดเด่นที่เป็น Asia หัวดำคนเดียว และการแต่งหน้าทำผมเราจัดเป๊ะกว่าสาวๆ คนอื่นค่ะ เพราะฉนั้น อย่ากระนั้นเลย วันนี้ขอจัดที่นั่งเด่นๆ ชนหน้ากรรมการเลยละกัน!! (ยืนยันเลย คนไทยแต่งกาย และมารยาทเป๊ะค่ะเวลาไปเทียบกับสาวๆ ประเทศอื่นๆ)
วันนั้นกรรมการแจ้งว่า มีผู้ส่งใบสมัครทั้งใน UK และประเทศรอบๆ มาทั้งสิ้นประมาณ 25,000 ใบสมัคร แต่คัดมาเพียง 45 คน ซึ่ง ตอนหลังเหลือแค่ 40 เพราะมีตก Grooming ไป 5 คน
พอทุกคนนั่งที่เรียบร้อย กรรมการก็แนะนำตัว ชื่อ Christina เป็น Cabin Crew มา 10 ปี ตอนนี้ย้ายมาทำ Recruitment ประจำสำนักงาน London ได้ 2 ปีแล้ว
แล้วก็เปิดรายละเอียดเกี่ยวกับสายการบิน และดูไบให้ดูค่ะ
หลังจากนั้นให้กรอกเอกสารว่าชื่ออะไร สัญชาติอะไร ได้หมายเลขอะไร ใช้ภาษาอะไรเป็นหลัก แล้วก็ขึ้นไปเบรคค่ะ 15 นาที
เอกสารตัวนี้เราใส่ไปว่าเรา Thai: Native, English: study and working knowledge
หลังจากเบรคก็เดินกลับมาที่ห้องกัน กรรมการบอกให้นั่งเรียนตาม Numeric Order เราก็นั่งเรียงค่ะ แล้วกรรมการก็จับกลุ่มให้ กลุ่มละ 3 คน
ในกลุ่มเรามีสาว กับหนุ่ม British เป็นเพื่อนร่วมทีมค่ะ
หลังจากแนะนำตัวกันแล้ว กรรมการก็แจกรูปให้กลุ่มละรูปค่ะ แล้วบอกให้ create สิว่าเราจะเอาของในรูปมาทำอะไรได้บ้าง
กลุ่มเราได้ต้นไม้ค่ะ เราเลยบอกเพื่อนว่า เราว่าจะทำเป็น Tree house เพื่อน ญ เลยบอก งั้นจะทำ swing นะ ส่วนเพื่อน ช บอก งั้นจะเอาตัวต้นไม้มาเป็นที่ให้เด็กหัดทำงานศิลปะ แบบเอากระดาษทาบละเอาสีมาฝนๆ เงี้ยค่ะ
ผ่านไป 5 นาที Christina ก็บอกให้แต่ละกลุ่มยืนขึ้นมาละนำเสนอไอเดีย โดยคนในกลุ่มต้องพูดทุกคน
กลุ่มเราโดนเป็นกลุ่มแรกค่ะ เรานี่แอบกรีดร้องในใจเลยค่ะ แบบ เฮ้ยยย สาวๆ ผมทองเต็มห้อง ให้กลุ่มเรากลุ่มแรกเลยก็ดีนะ แต่เรากลัวสำเนียงเรามันตลกๆ อ่ะ เพราะรอบกายมีแต่บริติช นี่มาแบบสำเนียงลูกผสมสุดๆ ไทย บริติช เมกัน ><
แต่พวกเราก็รีบลุกยืนทำตามที่กรรมการบอกค่ะ ณ จุดๆ นี้ จะตื่นเต้น จะอะร ไม่พร้อมยังไง เราต้องฮึบมันไว้ข้างใน เราต้องแสดงออกแบบ ได้ค่ะ พร้อม!! ชิลล์ๆ มั่นใจ แค่นี้ทำได้!! (เหรอว้าาาาาา)
ผช พูดก่อนว่าทีมเราได้รูปอะไร เค้าจะเสนอว่าทำเป็นอะไร แล้วเราก็นำเสนอของเราต่อ ละจบด้วยเพื่อนอีกคนที่ทำชิงช้าค่ะ
พอนำเสนอเสร็จทุกกลุ่มแล้ว กรรมการก็จับกลุ่มให้ใหม่ค่ะ คราวนี้กลุ่มละ 6 คน
รอบนี้ในกลุ่มเราได้รูปของประเทศ Argentina ค่ะ กรรมการบอกรูปที่ทุกกลุ่มได้นั้นเป็น Destination ของ EK ค่ะ
กรรมการบอก สมมุติว่าพวกเราเป็นลูกเรือกำลังทำไฟลท์ไปที่นั่นละผู้โดยมาถามคำถามว่าไปเที่ยวที่ไหนดี เราจะแนะนำว่ายังไง
กรรมการบอก หากไม่รู้จะกประเทศนี้ให้ไปถามกลุ่มอื่นได้ หากหาไม่ได้ให้ make ขึ้นมาค่ะ
บังเอิญเราพอจะรู้บ้าง เพื่อนอีกคนก็เคยไปเที่ยว ก็เลยรวมๆ ไอเดียกันค่ะ ว่าเออ อาร์เจนติน่าเป็นเมืองที่คนเป็นมิตร เฟรนด์ลี่ มีบ้านเก่าๆ สวยๆ ให้เดินดูในเมืองเยอะ ส่วนเราก็บอกที่นี่มีการเต้นที่โด่งดังคือ Argentine Tango หากไปเดินชมเมืองเสร็จแล้วก็ต้องต่อด้วยการนั่งทานอาหารจิบไวน์ ชมการแสดงการเต้น Argentine Tango
ระหว่างนั้น Christina ก็จะนั่งสังเกตุการณ์ค่ะ
เราถือว่าโชคดีมากๆ นอกจากจะช่วยกลุ่มตัวเองแล้ว มีอีก 2 กลุ่มหาคนที่รู้เรื่อง Bangkok กับ Tokyo ค่ะ เราก็เลยยกมือละบอก I'm from Bangkok, Thailand and I also know about travel attractions in Tokyo!! เพื่อน 2 ทีมเลยมารุมเราค่ะ
ณ จุดๆ นั้น ภาษาเราอาจจะด๋อยกว่าชาวบ้านเค้า แต่เราไม่อายที่จะยกมือ แล้วพูดเสียงดังๆ ว่าเรารู้ค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสให้ได้ช่วยเพื่อนแล้ว ยังเป็นโอกาศเรียกแขก (กรรมการ) ให้หันมามองสนใจเราค่ะ!!
ตอนนั้นกรรมการก็มองค่ะ เราก็ช่วยอีก 2 ทีมเต็มที่ มีอะไรในรูปที่เรารู้เรานี่ใส่ให้หมดค่ะ
พอหมดเวลาคุยเพื่อหาข้อมูลนำเสนอ กรรมการก็ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน 2 คนมาพูดค่ะ ในกลุ่มเราส่ง 2 สาว British ไปค่ะ
แล้วพอพรีเซนท์จลหมดกรรมการบอกให้ขึ้นไปเบรค 20 นาที แล้วลงมาจะเขอผลประกาศหน้าห้อง หากไม่มีหมายเลขก็กลับบ้านได้เลย และจะไม่มีการตอบคำถาม หรือบอกเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้งว่าเพราะอะไรถึงไม่ผ่าน
และหากใครผ่าน ให้เดินเข้ามาในห้อง อย่าส่งเสียงดัง หรือยืนขวางทางเดิน เพราะมีอีกห้องที่มีการจัดการประชุม จะเป็นการรบกวนเขาค่ะ
พอกรรมการพูดจบพวกเราก็ขึ้นมาดื่มกาแฟกันที่ Lobby ค่ะ พอครบเวลา พวกเราก็เดินลงมา
เราเห็นชื่อเราหมายเลข 3 ถูก ไฮไลท์!!
คนอื่นๆ ที่ผ่านก็ดีใจกรี๊ดกร๊าด ลืมที่ Christina บอกค่ะ!!
สักพักนางเปิดประตูออกมาถามว่าชั้นบอกว่ายังไง ถ้าใครผ่าน???
พวกเราก็ Sorry, we do apologise.
แล้วพอเข้าไปในห้อง เฮ้ย!!!
คัดออกไป 20 คน!!
แล้วกรรมการก็บอกว่า ให้ทุกคนไปเบาคได้ 2 ชั่วโมง ส่วนคนที่ไม่ได้ใช้อังกฤษเป็นภาษาหลัก และไม่ได้เรียนในระบบอังกฤษ หรือ UK Education System ต้องสอบภาษา
นี่เราก็คิดว่าเรารอด เพราะเราเรียนปริญญาโทอยู่ คิดเลยเดี๋ยวจะเดินไปสอย Subway มาทานสักหน่อย หิวมว๊ากกกกก
สรุปเราไม่รอด!!
กรรมการเรียกค่ะ!!
Christina: Please take a seat over there.
Me: Well!!! I am studying PG at University of Westminster. I mean I am studying in UK Education System so do I still need to take an English test??
Christina: Yes, you do.
Me: OMG but I checked...
Christina: You must study in UK Education System more than 5 years.
Me: Awwww I got it. T^T (ณ จุดๆ นี้ หางลู่ หูตกอ่ะ จ๋อยอย่างแรงงงงงง)
Christina: You will be ok. (แล้วก็ยิ้มหวานๆ มาให้)
Me: Nooo, I don't think so. (พี่ก็ง่ายสิ พี่มาสอบแทนหนูม้ายยยยยย)
Christina: You have 60 minutes to complete. Good luck (ยิ้มหวานๆ กระชากใจอีกหนึ่งช๊อต)
Me: Thank you. (โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ)
งานงอกก็มี งานเงิบก็มา T^T
นั่งทำไปด้วยใจแป้วๆ
ข้อสอบ Multiple Choices มันไม่ยาก แต่เพราะนอยด์กลัวตก เพราะเค้าเอาผ่านที่ 80 หรือ 90 นี่แหละ พอดีตอนนั้นช๊อค หูวิ้งเลย คิดแต่ "ตายละเรา!!"
สรุปทำจนหมดเวลาอ่า
พอ Christina เก็บข้อสอบไปก็บอกให้เราไปเบรค แล้วลงมาก่อนที่คนอื่นจะลงมานะ เต้าจะแจ้งผลให้ส่วนตัว และหากไม่ผ่าน ก็กลับได้เลย
เวลาผ่านไป 40 นาที เรารีบลงมาเลย สรุป ผ่าน!!
แล้วเค้าก็แบ่งกลุ่มทำกรุ๊ป ทีนี้แบ่งทีละ 10 เราโดนอยู่กลุ่มแรก
โจทย์คือ ถ้าเราเป็นแมเนเจอร์เรือ ที่จะเป็นเที่ยวสุดท้ายของปีนี้แล้ว แต่เกิดเหตุขัดข้องของระบบ มัน Error ทำให้มีคนจองมาพร้อมกัน 8 คน ซึ่ง Over book ไป 6 คน เราจะต้องเลือกว่าจะเอาใครไป โดยแต่ละคนต้องช่วยกันนำเสนอ แล้วออกไอเดียซัพพอร์ท ซึ่งตอนที่เตนียมไอเดีย Christina จะเรียกออกไป arm reach ทีละคน
พอเราเอื้อมแตะเสร็จเดินกลับมาเข้ากลุ่ม
พี่มืดในกลุ่มเล่นเราเลยจ้าาา
Oh you just back!! Do you have any idea??
เราก็แบบ เฮ้ย ตายๆ ยังไม่ทันตั้งตัวเลย แต่ก็แบบปากก็ยิ้ม ละพูดไปว่า
Well, If I am a manager of this cruise I will bring a magazine editor because blah blahhh blahhhh.
พอพูดจบก็ยิ้มงามๆ ทีนึง
คือ ตอนเราเดินมา Christina ก็เดินมาละไง นี่ก็มาดนางงามตอบคำถามสุดๆ
แล้วพอจบได้ข้อสรุปจะเอา 2 คนไหนไป
Christina ก็ทำ role play เป็น ลค คนท่เราไม่เลือกอ่า เราก็ต้องแบบตอบแก้ปัญหา Offer นั่นนี่อ่านะ แต่อันนี้เราไมืได้พูด เพราะพี่มืดแย่งพูด อีกอันหนุ่มบริติชไวกว่า ยกมือละคอบเลย
เรานี่แบบ เราจะรอดรอบนี้ป่าวว้าาาาา
พอจบ Role play แล้ว Christina ก็บอกให้ชึ้นไปเบรค 1 ชั่วโมง 30 นาที ละลงมาจะมีประกาศหน้าห้อง
พอเราขึ้นมา อีกกรุ๊ปก็ลงไปทำต่อ
พอถึงเวลา เฮ้ย เราผ่าน!!!
ส่วนพี่มืดตก!!!
อีกกลุ่มก็มีคนตกคนนึงเหมือนกัน
สรุปมีรอดเข้า Final Interview 18 คน
Christina แจ้งว่า พรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายของปีที่จะสัมภาษณ ไฟนอล แล้วมี slot ให้แค่ 4 คนเท่านั้น ซึ่งเค้าเลือกไว้แล้ว ส่วนที่เหลือจะเริ่มเรียกสัมภาษณ์หลังอาทิตย์ที่ 2 ของ มกราคม 2015
เราก็คิด เราคงไม่ติดหรอก เราคงโดนช่วงมกราไปแล้วแน่ๆ
สรุปเราเป็นชื่อที่ 2 ที่โดนคร่าาาา
ดีใจเบาๆ ช๊อคเบาๆ ><
//
Final Interview
December 17, 2014
เรามาก่อนเวลา 30 นาที นั่งดูคนที่อยู่ออฟฟิศ London ทำงานค่ะ นั่งให้หายตื่นเต้น นั่งสวยๆ เก๋ๆ รอกรรมการมารับค่ะ
สักพัก Christina ก็เดินมารับไปห้องสัมภาษณ์
คำถามจะเน้นเรื่องงานที่เราทำ ให้ยกตัวอย่าง รวมถึงวิธีการคิดแก้ปัญหาของเรา
แล้วก็จบค่ะ!!
พอกลับมาเราเช็ค Submission Status ของเราเปลี่ยรเป็น Interview Completed ในช่วงเย็นวันที่ 17 Dec 2014
ตอนนี้ได้แต่รอผล ><
//
สรุป คร่าวๆ
การสมัครในต่างประเทศไม่ได้ง่ายกว่าไทยค่ะ ยากกว่ามากๆ จะดูเหมือนง่ายเพราะคู่แข่งน้อยมากๆ แต่มันยากตรงที่ภาษาเราต้องสู้เค้าได้ค่ะ เราต้องพูดแล้วคนอื่นฟังเข้าใจ และเราต้องฟังที่เพื่อนๆ พูดเข้าใจได้ดีด้วยค่ะ ยิ่ง Accent แถบที่เรามานี่โอย British Accent ก็มึนละ เจอแบบ Scottish เข้าไปอีก >< แต่ละคน Thick Accent กันทั้งนั้น >< นอกจากนั้นความมั่นใจในตัวเองค่ะ เราต้องกลมกลืนไปกับเค้า ซึ่งเราโชึดีที่มาเรียน PG เราก็จะชอนกับการ discuss และการพูดนำเสนออยู่แล้ว ซึ่งก็พอจะถูไถเอาตัวรอดไปได้
//
เคล็ดลับ
ยิ้มเยอะๆ ค่ะ เฟรนด์ลี่แต่แบบไม่ใช่ยิ้มเรื่อยเปื่อย เฟรนด์ลี่เรื่อยเปื่อยนะคะ เอาแบบพอดีๆ ค่ะ
ส่วนเรื่องแต่งหน้า เราได้แนบรูปวัน AD กับ FI มาให้ดูด้วยค่ะ เผื่อจะเป็นแนวทางนะคะ
Makeup ของวัน Assessment Day
Makeup ของวัน Final Interview
//
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์นะคะ
ผลบุญจากการแชร์ความรู้นี้ขอให้หนูสมหวัง และขอให้เจ้ากรรม นายเวร และ หรือ วิญญาณต่างๆ สัมภเวสี ที่มีจิตคิดร้าย คิดอาฆาตกับเราจงได้รับส่วนบุญ ส่วนกุศลนี้ และงดโทษ อดโทษกับเราด้วยเถิด สาธุ