นอนกัดฟันสียงดังจนผู้ร่วมห้องไล่ให้ออกไปเร็วๆ และสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้น.........

ขอเล่าแบบย่อๆ นะคะ แท็กผิดหรือผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยคะ
เรากับบี(นามสมมุติ) สอบได้งานพร้อมกัน มาจากจังหวัดเดียวกัน ตำแหน่งงานต่างกัน ห้องทำงานอยู่ใกล้กัน
พี่เขยบีหาห้องให้อยู่ในสำนักงานเป็นห้องเล็กๆ เหมาะที่จะอยู่ 2 คน แบบไม่ต้องเสียค่าห้อง
อยู่ได้ประมาณเดือนกว่าๆ
บี: เราต้องย้ายแล้วนะ พี่เค้าจะใช้ห้องแล้ว
เรา: ยังไม่อยากย้ายเลยอ่ะ ขออยู่ต่ออีกสัก 1-2 เดือน ได้ป่าว
บี: แต่พี่เค้าจะใช้ห้อง วันนี้บีก็เป็นคนไปช่วยพวกพี่เค้าขนของมาที่ห้อง ดูซิยังมีอีกเยอะที่ยังไม่ได้เอามา
เรา: แล้วจะไปหาห้องใหม่กันวันไหน (ยังไม่อยากย้ายอ่ะ เงินเดือนน้อย555)
บี: พรุ่งนี้ตอนเลิกงาน(เธอมุ่งมั่นจะหาห้องใหม่ให้ได้ ให้เราพาไปดูทุกที่ตามคำแนะนำของเพื่อนๆเรา)
บีจะเอาห้องที่มีฟอร์นิเจอร์(เงินเดือนสูงกว่าเราเท่าตัว)
*** และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ตอนเช้านั่งแต่งหน้าก่อนไปทำงาน ***
บี: นี่ดูแก้มหนูซิสิวขึ้นเนี่ย(หน้าและแววตาเหมือนนางร้ายในละคร แต่สิวก็เม็ดใหญ่นะ555)
นอนไม่หลับมาหลายคืนละ เพราะพี่นอนกัดฟันเสียงดัง ตอนแรกก็ไม่ดังมากแต่มันก็หนักขึ้นเรื่อยๆ
แล้วเมื่อไรจะย้าย
เรา: พี่รอหอใกล้ๆว่าง ก่อน
บีเริ่มเสียงดังและหน้าตาท่าทางยิ่งกว่านางร้ายในละคร บอกตรงๆว่าไม่เคยเจอคนแบบนี้
บี: ถ้าหอใกล้มันไม่ว่างล่ะ ไปหาหอให้เบอร์โทรเค้าไว้มั๊ย ไม่ให้เบอร์โทรเค้าแล้วจะรู้มั๊ยว่าหอว่าง
โทรไปถามเค้ารึยัง เมื่อไรจะว่าง ถ้าไม่ว่างไปหาหออื่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรอแต่หอใกล้ ถ้ามันไม่ว่างเป็นปีล่ะ บลาๆๆๆๆ
แล้วนี่บอกที่บ้านรึยัง ปรึกษาที่บ้านรึยัง ปรึกษาแฟนรึยัง บลาๆๆๆ ตกลงจะเอายังไง
เรา: (นั่งใบ้- น้ำตาซึม แทบอยากจะร้องไห้ดังๆ ณ ตอนนั้น) ถ้าบีอยากย้ายไปออกไปก่อนก็ได้นะ
บี : ทำไมบีต้องย้าย
เรา : ไหนบีว่าจะย้ายไม่ใช่เหรอ
บี: ใครว่าบีจะย้าย พี่นั่นแหละต้องย้ายก่อน (อ้าวเธอเป็นคนกระตือรือร้นที่จะหาห้องอยู่ใหม่? บอกว่าพี่ๆจะต้องใช้ห้องเพื่อเก็บเอกสารต่างๆ)
เราก็เลยโทรไปหาห้องเช่าห่างที่ทำงานประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร
วันศุกร์ตอนกลางวันเราก็เลยให้เพื่อนผู้ชาย 2 คนที่ห้องทำงานเดียวกันช่วยย้ายของ เราไม่ได้บอกบีนะว่าจะย้ายวันไหน
*****************
1 อาทิตย์ผ่านไปพี่เขยของบีก็โทรมา (เราย้ายไปอยู่ห้องใหม่แล้ว)
พี่เขยบี: เป็นยังไงกันไม่ถูกกันเลยเหรอ อยู่ด้วยกันไม่ได้เหรอ คุยกับแฟนบ่อยเหรอ ยังคุยกับแฟนเก่าอยู่เหรอ(ปกติเราคุยแต่กับแม่ไม่ต่ำกว่า 20 น.- 1 ชม.) มีปัญหาอะไรกันบอกพี่ได้นะ พี่ก็เอ็นดูเราเหมือนน้อง พี่ก็ตักเตือนบีไปแล้วว่าบีก็มีแฟนคุยกันเป็นเรื่องธรรมดา (ไม่รู้มันไปเล่าอะไรให้กันฟัง แต่ฝันไปเถอะว่าเราจะเล่าอะไรให้ฟัง) แล้วไปพักอยู่ที่ไหน
เรา: ไม่มีอะไรคะ หนูคุยแต่กับแม่ ได้หอพัก..เอ.. ค่ะ ค่าเช่า ..... บาท (เงินเดือนอันน้อยนิด)
พี่เขยบี : หอนั้นแพงนะ ทำไมไม่พักหอใกล้สถานีตำรวจละ ถึงจะเป็นบ้านไม้แต่ราคาก็ถูกสภาพดีด้วย(1500/เดือน)
เรา : ก็หนูต้องรีบย้ายคะ(ไล่กูซะขนาดนั้น ห้องถูกๆที่ไหนมันจะว่างให้ทันใจ)
พี่เขยบี : แล้วบีเค้าว่าไงละ เล่าให้พี่ฟังได้นะ
เรา : หนูนอนกัดฟันเสียงดังคะ ทำให้บีนอนไม่หลับ แต่บีก็พูดแรงไป เอาเป็นว่าให้มันจบตรงที่หนูย้ายห้องแล้วกันนะคะ
หนูไม่อยากพูดถึงมันอีก
พี่เขยบี : เราไม่มีแฟนแน่เหรอ พี่ไม่อยากรบกวนเวลา เดี๋ยวไปหาแฟนจะว่าเอา
เรา : ไม่มีคะ โสดสนิท (คุยกันแบบเพื่อนมากกว่า)
พี่เขยบี : งั้นพี่ไปหาเราได้ไหม
เรา : ได้คะ ไม่มีปัญหา (เราคิดว่าเค้าจะมาเยี่ยมแบบพี่เป็นห่วงน้อง)
พี่เขยบี : ถ้าพี่ไปหาเราให้พี่นอนด้วยได้มั๊ย ถึงพี่จะไม่รวย แต่พี่ก็พอช่วยเราได้นะ
เรา : (อึ้งไปแป๊บ นี่มันจะเอาเรานอนด้วยเพื่อแลกค่าห้องเหรอ) หนูว่ามันไม่เหมาะมั้งพี่ หนูไม่อยากมีปัญหา
พี่เขยบี : มันไม่มีทางเป็นปัญหาหรอก เพราะที่นั่นพี่รู้จักทุกซอกทุกมุม พี่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน ไม่มีใครรู้หรอก
ถ้าพี่จะชวนเราออกไปกินข้าว แบบไม่มีบี ไม่มีพี่สาวของบี เราจะสะดวกมั๊ย
เรา : ได้คะ (เล่นด้วยซะเลย) แต่พี่ต้องโทรบอกหนูก่อนนะ
พี่เขยบี : ได้พี่ต้องบอกเราก่อนแน่ ครั้งหน้าพี่โทรไปหาไม่ใช่ว่าเราไม่ยอมรับสายพี่นะ
เรา : หนูไม่ทำอย่างนั้นหรอกคะ (555)
แล้ววันต่อมามันก็โทรมาหา เราก็ปล่อยให้ดังไป
รุ่นน้อง ผญ : พี่ไม่รับสายเหรอ
เรา : ไม่อะ พี่รู้สึกขยะแขยง ยิ้มคิดได้ไงวะ(รุ่นน้องผญ รู้แค่ว่ามีผช ที่มีเมียแล้วโทรมาหา แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร)
เพื่อนร่วมงานและทุกคนในที่ทำงาน ก็เข้ามาถามเรา ว่าทำไมถึงย้ายออกล่ะ ที่นี่ไม่ดีเหรอ พวกพี่ไม่ได้จะใช้ห้องเร็วขนาดนั้นหรอก รีบย้ายจัง (เราก็พูดได้เพียงเล็กน้อยว่า เราอยากอยู่ข้างนอก)
                มันมีเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เรารู้สึกไม่ดีกะบี พี่เขยบี และพี่สาวบี สิ่งที่เราผิด ทำไม่ถูกเราก็ขอโทษไปแล้ว เพราะพี่สาวบีบอกว่ามันไม่เหมาะสมนะ ถ้าจะทำแบบนั้น เรายอมรับผิด แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือ ทำไมบีต้องโทรไปฟ้องพี่สาว โทรไปเล่าให้ฟังเกือบทุกเรื่องของเรา ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะที่อะไรไม่พอใจก็แหกปากฟ้องพ่อแม่ ฟ้องผู้ปกครอง
พี่สาวบี : อยู่กันดีๆนะ อย่าทะเลาะกันนะ อยู่ด้วยกันต้องรักกันนะ ของนั้นมันวางไม่เหมาะสม บลาๆๆๆๆ
เรา : ขอโทษคะ ไม่รู้ เดี๋ยวย้ายกลับที่เดิม ทำไมบีเค้าไม่บอกเองละ (พี่สาวบีเงียบ)
พี่สาวบี : แล้วครีมอาบน้ำ (เงียบอีกครั้ง)
          เราก็คิดในใจละ นี่มันเอาทุกอย่างไปเล่าให้พี่สาวมันฟังตลอดเลยเหรอ บีเคยถามเราว่าเห็นสบู่มั๊ย (เรากะบีใช้สบู่เบนเนทสีส้ม ตัดเป็นก้อน เราใช้สูตรมะขามด้วย แต่เราเก็บไว้ในกล่องเสื้อผ้า(ใส่ถุงและมัดปากถุงอย่างดี เพราะที่ห้องมีหนู ของบีวางไว้ใต้ที่ตากผ้า) เราก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะมันเป็นเรื่องเล็กน้อย เราคิดว่าหนูมันคงมาลากไป
          แล้ววันที่เรารู้สึกไม่ไหวละ ก็เกิดขึ้น
พี่เขยบีโทรมาอีกครั้ง ถามงานเป็นไงบ้าง ทำได้ไหม ยากไหม บลาๆๆๆๆๆๆ รู้ไหมที่นั่นนะมันมีกล้องวงจรปิดนะ ไม่ว่าเราจะทำอะไร หรือใครมาเค้ารู้หมด (เอาไว้หลอกเด็กเถอะไอ้พวกบ้า) สรุปนี่พวกมันคิดว่าเราขโมยสบู่ก้อนเล็กๆ นั้นเหรอ ของเราก็ยังใช้ไม่หมดเลย
          ผ่านไป 4 เดือน บีก็ยังไม่ย้ายออก ได้อยู่ฟรีๆ ไม่ต้องเสียค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ เราผิดที่เรานอนกัดฟัน เราเข้าใจ แต่ทำไมพวกมันต้องพูดจาทำร้ายจิตใจเราซ้ำแล้วซ้ำอีก เราก็เคยคุยกับที่บ้านว่าจะย้ายเหมือนกันเพราะเกรงใจบี ที่บ้านก็ไม่ได้ว่าอะไร เอาตามความสบายใจของเราแต่อยากให้อยู่หอใกล้ๆที่ทำงาน เราไม่เคยเล่าเรื่องบีให้ที่บ้านฟัง จนวันนี้ความอดทนสิ้นสุดลง แต่เราก็ยังไม่เล่าเรื่องพี่เขยมันที่จะเอาเราเป็นเมียน้อย กลัวที่บ้านไม่สบายใจ กลัวคิดมาก
เราควรเล่าความจริงให้ที่บ้านฟังดีไหม แล้วนอนกัดฟันจะแก้ยังไง เวลาเรานอนกัดฟันมันน่ากลัวมากเพื่อๆเราเคยบอก
*** ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านคะ เล่าแบบย่อๆ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
กัดฟันมากๆหันจะสึกค่ะ ไปหาหมอฟันนะคะ หมอจะให้ใส่ที่ครอบฟันพลาสติคตอนนอนค่ะ ช่วยป้องกันหันสึกและลดเสียงกัดฟันได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่