ผมเป็นผู้ชายคนนึง ใครเป็นเหมือนผมรึป่าวไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ รู้สึกเขินมากเวลาไปซื้อถุงยางในเซเว่น
แล้วยิ่งเวลาแคชเชียร์เป็นผู้หญิง ผมนี่เนียนเดินผ่านเชลฟ์ถุงยางไปเลย ทั้งที่ตอนแรกกะเข้าตรงเข้าไปซื้อถุงยาง
แล้วยิ่งบางครั้งรีบ มันไม่ได้จะซื้อเก็บไง ซื้อกะใช้เลยมีคนรออยู่
เข้าใจอารมณ์มั้ยแบบถุงยางมันก็มีให้เลือกเยอะไง เรียบหรือขรุขระ แล้วมีไซส์อีก อย่างของผม 52mm
ถ้าจะให้ใส่อันเล็กมันคับ แล้วไหนจะรสชาติ เอ้ย! กลิ่นอีก ผมว่ามันก็เหมือนเวลาผู้หญิงเลือกเครื่องสำอางค์
อยากจะให้ย้ายเชลฟ์ถุงยางไปไว้ด้านในหน่อย เวลาไปซื้อจะได้เอาขนมถุง ลูกอม หยิบปนๆกันไปคิดเงิน
ลดความเขินลงบ้าง การที่ต้องไปยืนที่หน้าแคชเชียร์เพื่อเลือกถุงยาง มันจินตนาการเหมือนมีเสียงเบาๆลอยมา
"ว้ายยย ยั้ยยั้ยยยย กำลังจะ..... ใช้มั้ยใช่มั้ย "
เคยจะต้องรีบหยิบมั่วๆจ่ายตังแล้วเดินออกมา ปรากฎได้แบบขรุขระ ปกติใช้แบบเรียบกับแฟนผมมาตลอด
พอวันนี้ผมก็ไม่ได้บอกนะครับ ซื้อมาแล้วก็ต้องใช้ วันนี้ดูเธอมีความสุขกว่าทุกครั้ง ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเลยจัดแบบนี
แล้วขนาดผมยังเขินเวลาซื้อถุงยาง แล้วถ้าเด็กกว่าผมว่ายิ่งไม่กล้าจะซื้อเลย คราวนี้ก็วกเข้ามาเรื่องประเพณีไทยบ้านเรา
สอนให้เด็กไม่กล้า เรื่องเพศเป็นเรื่องที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้ ให้ใครรู้ไม่ได้ อาจจะด้วยความไม่กล้าที่จะไปซื้อถุงยาง
ตรงนี้ผมว่ามีส่วนนะ มันก็เลยทำให้สังคมไทยประสบปัญหาท้องในวัยเรียน
สุดท้ายในความคิดของผม ผมมองว่า การที่ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยา แล้วไม่ได้ใส่ถุงยาง ถือเป็นการกระทำ
ที่ไม่มีความรับผิดชอบและเห็นแก่ตัว คิดสั้นๆหวังแต่ความสุขที่กำลังจะเกิด แต่ไม่คิดยาวๆ ถึงอนาคตที่จะตามมา
บางคนมาคุยกับผม ไม่ต้องใช้หรอกถุงยาง ดึงออกก่อน ผมว่าคนที่ทำแบบนี้ผมไม่รู้นะว่า เค้ามั่นใจมากหรือประหยัดค่าถุงยาง
เพราะทางการแพทย์ก็บอกไว้ว่ามีสิทธิท้อง และคนรอบตัวที่ท้องแบบไม่ตั้งใจ มันก็มีจุดเริ่มต้นมาจาก ดึงออกก่อน ทั้งนั้น
ผมว่าไม่ว่าจะอ้างอะไรก็แล้ว มันคือความเห็นตัว
กลับเข้าเรื่อง ช่วยย้ายที ไปไว้ตรงมุมหนังสือก็ได้ครับ เชื่อผม มันช่วยได้จริงๆ
ถ้ามีคนถามทำไมไม่ไปซื้อร้านขายยา อันนั้นยิ่งแล้วใหญ่ เดินเข้าไปถึงต้องโดนยิงคำถามก่อนเลย ว่าจะเอาอะไร
ถะ ถะ ถะ ถุงยาง เฮ่อเขินหนัก ผมไม่เอาด้วยหรอกครับวิธีนี้
ถึง 7-elevenทักสาขา ช่วยย้ายตำแหน่งวางขายถุงยาง กราบบบบ
แล้วยิ่งเวลาแคชเชียร์เป็นผู้หญิง ผมนี่เนียนเดินผ่านเชลฟ์ถุงยางไปเลย ทั้งที่ตอนแรกกะเข้าตรงเข้าไปซื้อถุงยาง
แล้วยิ่งบางครั้งรีบ มันไม่ได้จะซื้อเก็บไง ซื้อกะใช้เลยมีคนรออยู่
เข้าใจอารมณ์มั้ยแบบถุงยางมันก็มีให้เลือกเยอะไง เรียบหรือขรุขระ แล้วมีไซส์อีก อย่างของผม 52mm
ถ้าจะให้ใส่อันเล็กมันคับ แล้วไหนจะรสชาติ เอ้ย! กลิ่นอีก ผมว่ามันก็เหมือนเวลาผู้หญิงเลือกเครื่องสำอางค์
อยากจะให้ย้ายเชลฟ์ถุงยางไปไว้ด้านในหน่อย เวลาไปซื้อจะได้เอาขนมถุง ลูกอม หยิบปนๆกันไปคิดเงิน
ลดความเขินลงบ้าง การที่ต้องไปยืนที่หน้าแคชเชียร์เพื่อเลือกถุงยาง มันจินตนาการเหมือนมีเสียงเบาๆลอยมา
"ว้ายยย ยั้ยยั้ยยยย กำลังจะ..... ใช้มั้ยใช่มั้ย "
เคยจะต้องรีบหยิบมั่วๆจ่ายตังแล้วเดินออกมา ปรากฎได้แบบขรุขระ ปกติใช้แบบเรียบกับแฟนผมมาตลอด
พอวันนี้ผมก็ไม่ได้บอกนะครับ ซื้อมาแล้วก็ต้องใช้ วันนี้ดูเธอมีความสุขกว่าทุกครั้ง ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเลยจัดแบบนี
แล้วขนาดผมยังเขินเวลาซื้อถุงยาง แล้วถ้าเด็กกว่าผมว่ายิ่งไม่กล้าจะซื้อเลย คราวนี้ก็วกเข้ามาเรื่องประเพณีไทยบ้านเรา
สอนให้เด็กไม่กล้า เรื่องเพศเป็นเรื่องที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้ ให้ใครรู้ไม่ได้ อาจจะด้วยความไม่กล้าที่จะไปซื้อถุงยาง
ตรงนี้ผมว่ามีส่วนนะ มันก็เลยทำให้สังคมไทยประสบปัญหาท้องในวัยเรียน
สุดท้ายในความคิดของผม ผมมองว่า การที่ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยา แล้วไม่ได้ใส่ถุงยาง ถือเป็นการกระทำ
ที่ไม่มีความรับผิดชอบและเห็นแก่ตัว คิดสั้นๆหวังแต่ความสุขที่กำลังจะเกิด แต่ไม่คิดยาวๆ ถึงอนาคตที่จะตามมา
บางคนมาคุยกับผม ไม่ต้องใช้หรอกถุงยาง ดึงออกก่อน ผมว่าคนที่ทำแบบนี้ผมไม่รู้นะว่า เค้ามั่นใจมากหรือประหยัดค่าถุงยาง
เพราะทางการแพทย์ก็บอกไว้ว่ามีสิทธิท้อง และคนรอบตัวที่ท้องแบบไม่ตั้งใจ มันก็มีจุดเริ่มต้นมาจาก ดึงออกก่อน ทั้งนั้น
ผมว่าไม่ว่าจะอ้างอะไรก็แล้ว มันคือความเห็นตัว
กลับเข้าเรื่อง ช่วยย้ายที ไปไว้ตรงมุมหนังสือก็ได้ครับ เชื่อผม มันช่วยได้จริงๆ
ถ้ามีคนถามทำไมไม่ไปซื้อร้านขายยา อันนั้นยิ่งแล้วใหญ่ เดินเข้าไปถึงต้องโดนยิงคำถามก่อนเลย ว่าจะเอาอะไร
ถะ ถะ ถะ ถุงยาง เฮ่อเขินหนัก ผมไม่เอาด้วยหรอกครับวิธีนี้