ละครเริ่มขึ้น เป็นเรื่องราวโศกนาฎกรรมของ พีรามุส และ ทิสบี หนุ่มสาวชาวบาบีโลนที่ความรักถูกขวางกั้นเพราะความเกลียดชังของทั้งสองตระกูล ทั้งคู่ต้องคอยกระซิบสื่อสารกันผ่านรอยแยกบนกำแพงรั้วที่แบ่งกั้นเขตบ้านซึ่งอยู่ติดกัน ทั้งสองตกลงใจหนีออกไปพบกันในคืนที่จันทร์กระจ่าง ณ สุสานแห่งหนึ่ง ทิสบีไปถึงที่นัดหมายก่อน แต่ต้องเผชิญหน้ากับสิงโตตัวหนึ่ง เธอจึงวิ่งหนีไป บังเอิญทำผ้าคลุมหล่นลงบนพื้น เจ้าสิงโตจึงคาบเอามาเคี้ยวเล่นก่อนผละจากไป เมื่อพีรามุสมาถึง เห็นผ้าผืนนั้นของทิสบี ที่ถูกขยี้ขาดกระจุย มีร่องรอยขย้ำของสิงโต ก็เข้าใจว่าเธอได้ถูกสิงโตฆ่าตายเสียแล้ว เขาใช้มีดแทงตัวเองตายตามไป ทิสบีย้อนกลับมา พบว่าชายคนรักเป็นแค่ร่างไร้วิญญาณ จึงเลือกฆ่าตัวตายตามไปเช่นกัน เรื่องราวจบลงด้วยความสูญเสีย แต่ผู้ชมก็มิได้ซาบซึ้งแต่อย่างใด เพราะเป็นละครที่น่าตลกขบขันมากกว่า เมื่อจบการแสดง เธซิอุสได้ส่งคู่รักทั้งสองเข้าสู่ห้องหอ
… เป็นอันสมหวังกันทุกผู้ ทุกฝ่าย
ภูตพัคปรากฏบนเวที กล่าวกับผู้ชม (ผู้ที่ชมละครเรื่องนี้) เก็บกวาดเวที และให้สัญญาว่าคู่รักทั้งหมด (สี่คู่ หกมนุษย์กับสองเทวา) จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดไป เขาปิดฉากเวทีด้วยการกล่าวว่า หากคุณรู้สึกว่าละครเรื่องนี้ (ฝัน…ในค่ำคืนกลางฤดูร้อน) ไร้สาระไม่สมเหตุผล คุณก็น่าจะปรบมือชื่นชมแล้วคิดเสียว่าทั้งหมดนี้ (รวมทั้งที่เขียนเล่ามานี้....และที่อ่านมายืดยาวนี้.....) เป็นแค่เพียงความฝัน ฯ
......
และแล้ว “ความฝันในค่ำคืนกลางฤดูร้อน” ก็จบลง เพียงชั่วข้ามคืน ดัลโพและอินฮา เห็นตรงกันที่จะเลือกตื่นจากโลกแห่งความฝัน... ความฝันที่มีแค่กันและกัน พร้อมแบ่งปันความสุขแห่งรักที่ดูเหมือนไร้สิ่งใดขวางกั้น... ตื่นขึ้นมาเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง โลกที่ดัลโพเองก็มีส่วนทำให้พี่ชายต้องถลำเข้าสู่เส้นทางอันมืดดำ โลกที่แม่ของอินฮาได้ทำให้ครอบครัวของดัลโพต้องพบกับหายนะ โลกที่พี่ชายของดัลโพเป็นฆาตกร โลกที่ดัลโพต้องรับภาระแก้แค้นเอาคืนและช่วยเหลือพี่ชาย... ขณะเดียวกัน ในโลกแห่งความเป็นจริงนี้เช่นกัน ที่ปู่และพ่อของอินฮาได้ช่วยเหลือดูแลเขาไว้ ช่วยฟูมฟักและนำทางให้ดัลโพอยู่แต่ในด้านสว่าง และเป็นอินฮานั่นเองที่เป็นเสมือนพลังแห่งชีวิตของเขา... เมื่อ “มุมมอง” ผันแปรไปตามเวลาและสถานการณ์ “ยางไม้แห่งรัก” ที่ถูกป้ายเอาไว้ในใจของทั้งสองก็คงสำแดงฤทธิ์....ฯ
Pinocchio ซีรีส์ -- เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยชวนให้ติดตาม -- ชื่อตอน ตอนที่ 11 (ต่อ....)
ภูตพัคปรากฏบนเวที กล่าวกับผู้ชม (ผู้ที่ชมละครเรื่องนี้) เก็บกวาดเวที และให้สัญญาว่าคู่รักทั้งหมด (สี่คู่ หกมนุษย์กับสองเทวา) จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดไป เขาปิดฉากเวทีด้วยการกล่าวว่า หากคุณรู้สึกว่าละครเรื่องนี้ (ฝัน…ในค่ำคืนกลางฤดูร้อน) ไร้สาระไม่สมเหตุผล คุณก็น่าจะปรบมือชื่นชมแล้วคิดเสียว่าทั้งหมดนี้ (รวมทั้งที่เขียนเล่ามานี้....และที่อ่านมายืดยาวนี้.....) เป็นแค่เพียงความฝัน ฯ
...... และแล้ว “ความฝันในค่ำคืนกลางฤดูร้อน” ก็จบลง เพียงชั่วข้ามคืน ดัลโพและอินฮา เห็นตรงกันที่จะเลือกตื่นจากโลกแห่งความฝัน... ความฝันที่มีแค่กันและกัน พร้อมแบ่งปันความสุขแห่งรักที่ดูเหมือนไร้สิ่งใดขวางกั้น... ตื่นขึ้นมาเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง โลกที่ดัลโพเองก็มีส่วนทำให้พี่ชายต้องถลำเข้าสู่เส้นทางอันมืดดำ โลกที่แม่ของอินฮาได้ทำให้ครอบครัวของดัลโพต้องพบกับหายนะ โลกที่พี่ชายของดัลโพเป็นฆาตกร โลกที่ดัลโพต้องรับภาระแก้แค้นเอาคืนและช่วยเหลือพี่ชาย... ขณะเดียวกัน ในโลกแห่งความเป็นจริงนี้เช่นกัน ที่ปู่และพ่อของอินฮาได้ช่วยเหลือดูแลเขาไว้ ช่วยฟูมฟักและนำทางให้ดัลโพอยู่แต่ในด้านสว่าง และเป็นอินฮานั่นเองที่เป็นเสมือนพลังแห่งชีวิตของเขา... เมื่อ “มุมมอง” ผันแปรไปตามเวลาและสถานการณ์ “ยางไม้แห่งรัก” ที่ถูกป้ายเอาไว้ในใจของทั้งสองก็คงสำแดงฤทธิ์....ฯ