ทริปนี้มีเพื่อนร่วมเดินทางครับ ผม วีโก้ 4 ประตู 4 WD  และ  ซูซูกิ สวิฟ ออกเดินทางช้ากว่ากำหนด ตั้งใจจะออกเดินทาง เวลา 01.00 ของวันที่ 4 ธันวาคม 2557 แต่ติดภาระกิจเลยต้องเปลี่ยนเวลาเป็น 10.00 ของวันที่ 4 เริ่มเดินทางกันเลยครับ เส้นทาง กระบี่ - บึงฉวาก - เขาค้อ - ภูเรือ - เชียงคาน ภาพถ่ายเมื่อปรับขนาดภาพลงจะไม่ค่อยชัดเนื่องจากถ่ายกับ ไอแพด เป็นหลัก แต่บางรูปที่ชัดถ่ายกับ Nikon D5100

วันที่ 4 ธันวาคม 2557     เวลา 10.00 น ล้อเริ่มหมุนครับ อย่างที่ทราบ อยู่ทางใต้ จะไปเที่ยวภาคอื่น ต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย ในการจะเดินทางให้ถึง ภาคกลางก่อนจึงจะไปที่อื่นได้ ออกจากกระบี่ได้ไม่นานนัก กองทัพต้องเดินด้วยท้องแวะ ร้านอาหารคุณสาหร่าย ก่อน  เวลาบ่ายโมงกว่าๆ  ภาพ ช้าง ครัวคุณสาหร่าย อิ่มแล้วเดินทางต่อ เป้าหมายที่วางไว้คืนนี้เราจะไปค้างกันที่ บึงฉวาก สุพรรณบุรี แต่อย่างที่บอกเราเดินทางช้ากว่าที่ตั้งไว้ คืนนี้ ค้างนครปฐมก่อนแล้วกัน ถึงนครปฐมก็ประมาณทุ่มกว่า ที่พักคืนนี้ ห้อง ราคาไม่สูง หลักร้อย สภาพห้องก็ตามราคาละครับ แต่ที่ติดใจอย่างเดียวคือ wifi เสีย ไม่มีเน็ตเล่น นอนเอาแรงก่อนแล้วไป...

วันที่ 5 ธันวาคม 2557     ตื่นเช้า ออกจาก โรงแรมตั้งใจ หาอะไรให้เด็กทานก่อน แต่แปลกที่ผู้คนร้านค้า ปิดกันหมด อดสงสัยอยู่นาน นึกขึ้นได้วันนี้วันพ่อ คนเขาไปร่วมงานวัดพ่อ ตามที่ต่างๆ  ร้านค้าเลยปิดกันหมด ออกจากนครปฐม มุ่งหน้าเข้ากำแพงแสน เจออาหารใต้เข้าแล้ว แวะทานข้าวเสร็จ ไปกันต่อ และแล้วก็มาถึง บึงฉวาก เด็กๆชอบ ดูปลา   ตัวรับบริจาคครับ วันนี้วันพ่อการตกแต่งก็สถานที่ก็แบบวันพ่อครับ ..ใช้เวลาอยู่บึงฉวาก นานพอสมควร  ออกจากบึงฉวาก มุ่งหน้าเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์  ถึงตัวจังหวัดเย็นๆ มีเวลาเหลือๆ ไม่รีบมากนัก ออกจากตัวจังหวัด ได้ไม่นานรถเริ่มติด วึ่ง จาก ตัวจังหวัดไปเขาค้อประมาณ 37  กม.คิดว่าใช้เวลาเดินทางไม่นาน แต่เผอิญเส้นทางจะไปเขาค้อรถคันอื่นเกิดอุบัติเหตุขวางทางจราจร ทำให้รถติดยาวเป็นกิโล รถไปได้ที่ละนิดตัวผมไม่ลำบาก แต่ผู้ร่วมเดินทางกับผม รถ ซูซูกิ สวิฟเครื่อง 1.2 ลิตร อันนี้เริ่มลำบากครับ รถติดช่วงขึ้นเขา มีเหงื่อตกครับ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ กว่าจะถึงที่พักก็ประมาณ 2 ทุ่มครับ ที่พัก ภาพนี้ยามเช้า สถานที่ตั้งอยู่สูงสวยครับ แต่ดูทางรีสอร์ท ไม่ค่อยได้ดูแล ถ้ามีการดูแลตกแต่งน่าจะสวยกว่านี้มากครับ  แต่ราคาที่พัก ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไรครับ ถ้าเทียบกับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง  อาการการกิน ผู้ร่วมเดินทาง ต้องเข้าครัวทำเองครับ เพราะรอเจ้าของรีสอร์ทไม่ไหว ที่รีสอร์ทไม่มีพนักงานครับ มีเจ้าของกับลูกสาวดูแลกันเองครับ จากการพูดคุย เจ้าของเป็นครูครับ ไม่ค่อยได้มาดูแลเท่าไร ไม่ได้จ้างพนักงานเป็นเรื่องเป็นราว อาหารมื้อนี้ ทำกินกันเองครับ  มีมาม่าผัด เครื่องแกงกุ้ง น้ำพริก ถั่วฝักยาว ไข่เจียว ขาดไปอย่างเดียวคือปลากระป๋อง ถึงจะต้องทำเองแต่ก็อร่อยมากครับ เจ้าของรีสอร์ทเป็นกันเองครับ เจ้าของคือผู้หญิงคนที่ สองนับจากขวาครับ เป็นครูสอนภาษาไทยครับ ทานข้าวเสร็จ ต่างคนก็ไปพักผ่อน จบไปอีกหนึ่งวัน

วันที่ 6 ธันวาคม 2557     เวลา 6.30 ทะเลหมอก แต่เสียดายคืนที่ไปพัก หมอกไม่หนามาก ก่อนผมจะมาเจ้าของรีสอร์ทบอก หมอกหนามองที่พักไม่เห็น ทราบข่าวหลังจากผมกลับหมอกหนามากครับ ออกจากรีสอร์ท มุ่งหน้าไปพระตำหนักเขาค้อครับ คราวนี้ให้อีกคัน (สวิฟ) จอดข้างถนนทางขึ้นพระตำหนัก ส่วนการขึ้นพระตำหนักขึ้นกับรถผมครับ กลัวจะไม่ไหว เพราะทางขึ้นมีชันบ้างเป็นช่วงครับ ถึงพระตำหนักเขาค้อ รูปต่อไป สโลแกน เขาค้อ . อากาศสำหรับผู้ใหญ่ไม่หนาวครับ แต่ผมมีเด็กไปด้วย สำหรับเด็กกำลังดีครับ ใช้เวลาไม่นาน ต่อด้วย โชคดีที่มาเร็วตอนขาลงกลับผู้คนเริ่มเดินทางมากันมากรถเริ่มติดแต่ขาลงกลับ รถโล่งออกจากเขาค้อมุ่งหน้าภูทับเบิก และภูเรือ ทางผ่าน แวะ วัดผาซ่อนแก้วหยุดซื้อกาแฟสดสักแก้ว จัดร้านน่านั่งครับ  แต่ละที่จากการพูดคุยไม่แนะนำขึ้นภูทับเบิกเลยครับ ระยะทางจากเขาค้อ สู่ วัดผาซ่อนแก้ว 20 กว่ากิโลใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.ครับ รถติดมากครับ ทางขึ้นวัดก็ชันบ้างบางช่วง รถเล็กต้องทิ้งระยะคันหน้า แล้ววิ่งทีเดินข้ามเนินเขาไป ถ้าไปติดกลางเนินเขาเครื่องมีดับครับ  ต้องโทษการบริหารจัดทางของพื้นที่ครับ  วัดมีที่จอดรถน้อย ควรจะทำที่จอดด้านล่าง แล้วมีบริการรับส่งจะคิดค่าบริการ 10 บาท 20 บาท ต่อคนก็ว่ากันไป ดีกว่าไปติดแน่นกันในวัด รถติดยาว ประมาณ 3-4 กม. ติดทั้งขาขึ้นและขาลงครับ รถเดินทางเดียว วัดสวยครับ มีหลายมุมที่ไม่ได้ถ่ายครับ กว่าจะมาถึงหงุดหงิด กับรถติดครับ อากาศก็ร้อยครับ   ออกจากวัด จะขึ้นภูทับเบิก แต่ติดที่ สงสารเพื่อนร่วมเดินทาง รถก็เยอะครับ กลัวจะไปติด ตรงทางขึ้นภูทับเบิก อีก เลยผ่านภูทับเบิก มุ่งหน้าสู่ ภูเรือครับ ถึงภูเรือประมาณ หนึ่งทุ่มครับ ได้ที่พักอย่างรวดเร็ว แต่ราคาก็สูงเอาเรื่องครับ ที่พักยามค่ำคืน ราคาสูงเอาเรื่องแต่สภาพภายในกับสิ่งอำนวยความสะดวกโอเคเลยครับ ห่างจากจุดชมวิวภูเรือ 7 กม.ภายในห้องพัก อีกมุม เก็บสัมภาระเสร็จ ออกไปถ่ายรูปลานคริตมาร์ส หน้าอุทยานภูเรือยามค่ำคืนกันก่อน .............ประดับไฟสวยครับ เพียงแต่ภาพถ่ายไม่เหมือนที่ตาเห็นครับ กลับที่พัก พรุ่งนี้ต้องตื่นเร็วเพื่อขึ้นไปจุดชมวิวตอนรุ่งๆครับ

วันที่ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 05.30 ต้องตื่นเร็วครับ เพื่อจะขับรถขึ้นเขาไปจุดชมวิวและทะเลหมอกครับ เหมือนเดิมครับ สวิฟจอดที่พัก ขึ้นไปกับผมเช่นเดิม เมื่อขับรถไปสักพักคิดในใจ มีคนยังไม่รู้บนจุดชมวิวมันมืดอยู่เลย รถก็ไม่มีสวน พอไปถึงลานจอดรถ โอโห้ รถจอดกันเต็มแล้ว คนมากเหมือนงานแต่ง เวียนอยู่แป็บเดียวได้ที่จอด มีรถอีกหลายคันหาที่จอดไม่ได้และอีกหลายคันมีติด เพราะพื้นที่จอดไม่เรียบพวกรถโหลดลำบากเลยครับ แต่เสียดายไม่มีหมอกครับ มีแต่พระอาทิตย์ขึ้นเฉยๆๆ   ใช้เวลาไม่นาน ..ไม่มีหมอกกลับที่พัก ท่านอาหารเช้าของทางรีสอร์ทเสร็จ แวะเก็บภาพ ลานคริตมาร์สตอนกลางวันก่อนลาภูเรือ .. อีกมุม   เก็บภาพเสร็จ ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ อ.เชียงคาน จังหวัดเลย ไปถึงเชียงคานประมาณ บ่าย 3 กว่าๆ หาที่พักได้ลำบากพอควร เพราะมีเด็กไปด้วยพักบ้านไม้ไม่ได้เดียวเด็กจะทำเสียงดัง สุดท้ายได้ที่พักที่ วิวสวย อากาศดี แต่ทางเข้าถ้ามาถึงเวลากลางคืนคงไม่กล้าเข้ามาละครับ สภาพที่พัก .. เจ้าของเป็นผู้หญิงหน้าตาดุมากแต่ พูดจาดีมากครับ ตั้งแต่พักหลายๆที อันนี้โอเคสุดเลยครับ ทั้งราคาที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง และอาหารเช้า วิวรอบๆรีสอร์ท.....จากนั้นออกไปหาอะไรทาน แวะแก่งคุดคู้ อาหารจะเป็นปลาเสียส่วนใหญ่ ผมไม่ท่านปลาน้ำจืด เลยสั่งไก่ยางส้มตำมาแทน เพื่อร่วมเดินทาง คนอื่นสั่ง ปลาแม่น้ำโขงต้มยำ ต้มโคล้ง ต้มแซบ อะไรสักอย่าง นี่แหละผมลองชิมน้ำ รสจัดจ้านมากแซบถึงทรวงเลยครับ ทานเสร็จกับที่พัก นอนเอาแรงกันสักแป็บ  ใกล้ๆค่ำออกมาชมบรรยากาศถนนคนเดิน ............  ชื้อของฝากเสร็จกลับที่พัก หมดไปอีกวัน