***** ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ อย่าใส่ใจอะไรมากกับคนเพ้อเจ้ออย่างผม *****
ณ.ตอนนี้มีสัญญาณที่บ่องบอกถึงสิ่งผิดปกติที่เริ่มเกิดขึ้นในตลาดโลกซึ้งจะลุกลามเป็นวิกฤติในอนาคตครับ ทั้งสงครามทุบราคาน้ำมัน ซึ้งผลกระทบดังกล่าวทำให้ธุรกิจน้ำมันในตลาดโลกเกิดการขาดทุนสต๊อกซึ้งมีมูลค่ามหาศาล ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดังกล่าวทรุดตัวลง และแน่นอนว่ารายได้ที่ลดลงมหาศาลทำให้ประเทศเหล่านั้นต้องออกนโยบายเข้มงวดทางการเงินเป็นอย่างมาก ซึ้งมีผลต่อการใช้จ่ายของภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคครัวเรือน..........การผลิตสินค้าจึงต้องชะงักลงและการนำเข้าสินค้าต้องชะงักลงตามมา ===> ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปสู่ประเทศคู่ค้าที่ส่งออกสินค้าไปยังประเทศดังกล่าว ทำให้ต้องลดกำลังผลิตลงเช่นกัน.........
และในประวิตศาสตร์ทางเศรษฐกิจโลก การลดกำลังการผลิตสินค้าของภาคอุตสาหกรรมลง จะทำให้เกิด over supply ในสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตร เพราะลดกำลังการผลิตลงได้ยากและต้องใช้เวลา ===> แน่นอนว่าผลกระทบของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง จะฉุดรายได้ทางเศรษฐกิจของประเทศที่ผลิตสินค้าดังกล่าวให้ลดลงตามมา เป็น Domino
*** ถ้าสถานการณ์มาถึงตอนนี้ก็เห็นแล้วว่าลุกลามไปหลายประเทศทั่วโลกแล้วล่ะครับ ***
* ประกอบการสงครามค่าเงิน * การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประเทศต่างๆโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 58 จะทำให้เงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกรวมถึงไทยเรา ===> แน่นอนว่าประเทศตลาดเกิดใหม่ เมื่อเงินทุนไหลออกค่าเงินก็อ่อนลง เมื่อถึงระดับหนึ่งรัฐบาลจะต้องใช้เงินทุนสำรองแทรกแทรงค่าเงินเพื่อไม่ให้อ่อนค่าลงมากเกินไป จะเป็นมูลค่าเท่าไร่ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ.....รีบจบครับ....ก่อนที่คนมีหุ้นจะรุมกินโต๊ะผม !
แปลกใหมครับ ในวันที่ SET และตลาดหุ้นทั่วโลกเขียวสด ผมกลับมองว่าวิกฤติใหญ่กำลังจะมาในอีกไม่นาน
ณ.ตอนนี้มีสัญญาณที่บ่องบอกถึงสิ่งผิดปกติที่เริ่มเกิดขึ้นในตลาดโลกซึ้งจะลุกลามเป็นวิกฤติในอนาคตครับ ทั้งสงครามทุบราคาน้ำมัน ซึ้งผลกระทบดังกล่าวทำให้ธุรกิจน้ำมันในตลาดโลกเกิดการขาดทุนสต๊อกซึ้งมีมูลค่ามหาศาล ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดังกล่าวทรุดตัวลง และแน่นอนว่ารายได้ที่ลดลงมหาศาลทำให้ประเทศเหล่านั้นต้องออกนโยบายเข้มงวดทางการเงินเป็นอย่างมาก ซึ้งมีผลต่อการใช้จ่ายของภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคครัวเรือน..........การผลิตสินค้าจึงต้องชะงักลงและการนำเข้าสินค้าต้องชะงักลงตามมา ===> ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปสู่ประเทศคู่ค้าที่ส่งออกสินค้าไปยังประเทศดังกล่าว ทำให้ต้องลดกำลังผลิตลงเช่นกัน.........
และในประวิตศาสตร์ทางเศรษฐกิจโลก การลดกำลังการผลิตสินค้าของภาคอุตสาหกรรมลง จะทำให้เกิด over supply ในสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตร เพราะลดกำลังการผลิตลงได้ยากและต้องใช้เวลา ===> แน่นอนว่าผลกระทบของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง จะฉุดรายได้ทางเศรษฐกิจของประเทศที่ผลิตสินค้าดังกล่าวให้ลดลงตามมา เป็น Domino
*** ถ้าสถานการณ์มาถึงตอนนี้ก็เห็นแล้วว่าลุกลามไปหลายประเทศทั่วโลกแล้วล่ะครับ ***
* ประกอบการสงครามค่าเงิน * การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประเทศต่างๆโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 58 จะทำให้เงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกรวมถึงไทยเรา ===> แน่นอนว่าประเทศตลาดเกิดใหม่ เมื่อเงินทุนไหลออกค่าเงินก็อ่อนลง เมื่อถึงระดับหนึ่งรัฐบาลจะต้องใช้เงินทุนสำรองแทรกแทรงค่าเงินเพื่อไม่ให้อ่อนค่าลงมากเกินไป จะเป็นมูลค่าเท่าไร่ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ.....รีบจบครับ....ก่อนที่คนมีหุ้นจะรุมกินโต๊ะผม !