คุณเคยเจอ "พรมลิขิต" ไหม??

กระทู้คำถาม
นานาสวัสดีเพื่อนๆคนไหนมีเรื่องพรมลิขิตของตัวเองก็เอามาเล่ามาแชร์สู่กันฟังได้นะคะ
อาจจะมีสมหวังบ้าง ผิดหวังก็มากกก แต่สำหรับฉันจะผิดหวัง หรือ สมหวัง ....."แค่ได้มาพบกันฉันก็เรียกมันว่าพรมลิขิต"

ส่วนเรื่องพรมลิขิตของฉันน่ะหร๋อ ฟิน มันแบ่งออกเป็นหลายตอนม้วกกกๆๆ
แต่วันนี้มาเสนอตอน"พรมลิขิต ชีวิตไม่กั้ก"

file:///C:/Users/TOSHIBA/Documents/%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2/10859636_1022350091112351_1745443596_n.jpg

พรมลิขิตของฉันในตอนนี้เกิดขึ้นกับเจ้าหนังสือ 2 เล่มนี้ เม่าอ่าน
(ยืมมาตั้งนานแหละ จนเจ้าของเค้าลืมไปแล้วมั้ง555**)

เรื่องมันมีอยู่ว่า"ฉันมีโอกาสได้เข้าไปร่วมงานในบริษัทเดียวกันกับเจ้าของหนังสือ 2 เล่มนี้ (ขออนุญาติใช้นามย่อว่า พี่ตอ. ล่ะกัน) วันแรกที่เข้าไปทำงานเรียกว่า แทบจะไม่มีที่สิงสถิตเลยที่เดียว ต้องร่อนเร่ ไปขอนั่งแผนกนู้นที แผนกนี้ที เห้อ!! คิดถึงตอนนั้นก็รู้สึกใจหาย ผ่านมาเร็วมากๆ
จนกระทั่ง 1 อาทิตย์ต่อมาถึงได้ที่สิงอย่างเป็นทางการสะที ไปอยู่กับหัวหน้าฝรั่งซะด้วย ฟังรู้บ้าง เดาบ้าง ถามพี่ๆบ้าง และโอกาสนั้นเองที่ฉันได้มีโอกาสได้เข้าไปใช้ออกซิเจนเดียวกันกับ พี่ตอ. แต่ในช่วงแรกๆยังไม่สนิทกันเท่าไหร่ จะไปสนิทกับพี่ๆQC ซะมากกว่า เพราะมึนๆดื้อๆเหมือนกัน เข้าไปในนั้นฉันก็เป็นน้องสุด ซึ่งดูเหมือนจะได้รับการปกป้องและดูแลเป็นอย่างดี แต่ๆๆๆ!!! ไมเใช่อย่างที่คิดเลย T__T กลับโดนแกล้งเยอะกว่าคนอื่นซะงั้น แต่ฉันก็ไม่เคยรู้สึกโกรธพี่เค้านะ เพราะคิดในแง่ที่ว่า ถ้าเค้าไม่เอ็นดูเค้าก็ไม่เล่นด้วย พี่ๆเค้าน่ารักมากๆเลย ชวนกินทั้งวัน ช่วยเหลือตลอดถึงมีชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้ เหอะๆๆ((พูดแแล้วก็อดคิดถึงไม่ได้)) เข้าเรื่องพี่ตอ. ต่อเลยดีกว่า ในjobนั้นฉันย้ายไปย้ายมาช่วยงานอยู่ประมาณ 333 แผนก (อันนี้เว่อร์ไป) แต่ก็ย้ายไปเกือบทุกแผนกอ้ะ จนรองสุดท้ายย้ายมาที่แผนกพี่ตอ. มาช่วยงานพี่เค้าก็ต้องเขยิ้บๆเขยิบๆ มานั่งโต๊ะใกล้ๆกันมากขึ้น ก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น พี่ตอ. เป็นคนนิสัยเรียบร้อย พูดจานิ่มๆ หรือจะเรียกว่าผู้ชายอ่อนโยนเลยก็ได้นะ เพราะพี่เค้าไม่ชอบความรุนแรง ((**แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันจำได้ พี่ตอ.กลัวแมงมุม 555**)) พี่ตอ. กับฉันเราชอบชวนกันไปดูหนัง กินข้าว บ่อยมากๆ พูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆมากมาย จนฉันเกิดความรู้สึกดีๆกับพี่เค้าขึ้นมา แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่เค้าจะรู้สึกอย่างฉันบ้างหรือป่าว?? พี่ตอ. จะมีมุมมองเป็นของเค้าเอง มีความคิดที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ชอบสะสมการ์ตูน สมัยก่อนๆ หนังสืออีกมากมาย รวมทั้งหนังสือ 2 เล่มนี้ด้วย พี่ตอ. ให้ฉันยืมมานานมากกก จนพี่เค้าบอกว่า ไม่ต้องคืนแล้วพี่ซื้อใหม่แหละ 555** และมีอยู่โอกาสหนึ่งซึ่งเป็นงานแต่งของพี่ที่ร่วมงานกัน และตามเคยฉันกับพี่ตอ. ไปด้วยกัน แต่เหตุไฉนเราจึงต้องนั่งแยกโต๊ะกัน แต่ไม่เป็นไรยังอยู่ในสายตา เราก็นั่งกันได้สัก 1 ชม. ก็ขอตัวออกมาไปต่ออีกที่ เราไปนั่งดูบอล จิบเบียร์ชิลล์กันโดยมีพี่ที่บริษัทอีก 1 คนไปด้วย นั่นเป็นครั้งแรกที่พี่ตอ.ดูดบุหรี่ต่อหน้าฉัน และบ่อยมาก จนฉันก็อดคิดไม่ได้ งานพี่เค้าคงหนักมาก หรือไม่ก็มีเรื่องอื่นให้คิด แต่ฉันก็ไม่กล้าถาม จนพี่เค้าไปส่งฉันกลับบ้าน และประโยคเดิมที่ฉันชอบถามพี่ตอ.เมื่อเช็คว่าพี่ตอ.ว่าถึงบ้านแล้วจริงๆ "ครบ 32 ใช่ไหม" ตอนร่วมงานกันเราก็คุยกันทุกวันทุกวันนะ ไม่ใช่เฉพาะที่ทำงาน แต่หลังเลิกงานก็คุยกันบ้าง นัดดูหนังกินข้าวกันบ้าง แต่พอหลังจบงานนั้นเราก็เริ่มห่างกัน แค่ตอนทำงานไม่ได้เจอกัน เพราะพี่ตอ. ต้องไปดูงานอีกโครงการหนึ่ง แต่ตอนเย็นเราก็ยังไลน์คุยกันอยู่ และก็เช่นเคยดูหนัง  กินข้าวตามปกติ และก็มีบ้างบางโอกาสที่เราได้ร่วมงานกันแต่ก็แปปเดียว เวลาสั้นๆไม่เหมือนก่อนหน้านี้ ........................แต่มีอยู่วันหนึ่งที่เรานัดดูหนังกันรอบ 18:30 น. แต่ฉันมาสายเกือบดูไม่ทันแนะ พี่ตอ.ก็ยืนรอที่เก่าที่เดิม และดูท่าเหมือนจะงอนนิดๆ และบอกว่าไม่ดูแล้ว ดูไม่ทันแล้ว หิวข้าว จะไปกินข้าว ฉันก็เลยไปเกาะแขนพี่ตอ.และลากพี่ตอ.ขึ้นบันไดเลื่อนตรงไปโรงหนังและบอกว่า "ทันยังไงก็ทัน" นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันกับพี่ตอ. ถูกเนื้อต้องตัวกัน (อ้อ ลืมบอกไปว่าทุกทีที่มาดูหนังกัน พี่ตอ. ก็จะเป็นคนมารอก่อนเสมอ และฉันก็สายเสมอ **ฟังแล้วดูแย่เนอะ**) พอดูหนังจบ พี่ตอ. ก็บ่นหิวข้าว เราก็เลยนัดกันว่าไปต่อร้านหัวนม อย่าคิดทะลึ่งนะคะ เป็นร้านอาหารแบบเปิดธรรมดาค่ะ แต่ฉันยังไม่เคยไปร้านนี้นะ พี่ตอ.ก็เลยบอกว่างั้นลองไปกัน แบบว่าต่างคนต่างแว้นมาก็ตามๆตูดกันไปเลยค่ะ แต่พอออกจากห้างมาได้นิดหน่อย ฉันก็ต้องตะโกนบอกพี่ตอ.ว่าไปต่อไม่ได้แล้ว มีธุระด่วน!! พี่ตอ.ก็ไม่ว่าอะไร เราก็แยกกันตรงนั้น **ถ้าย้อนเวลาได้ฉันจะไม่ทำแบบนั้น**..............และหลังจากนั้นฉันกับพี่ตอ.ก็ห่างกันไป ไลน์ก็ไม่ค่อยได้คุยกัน  นานๆทีพี่ตอ.จะตอบมา ว่างานพี่ยุ่งมาก ฉันก็เข้าใจนะ เพราะต้องไปทำงานที่แหลมฉบัง ไปก็เช้ากลับก็ดึก พี่ตอ. คงเหนื่อยจริงๆ และมีอยู่วันหนึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ฉันไม่คิดว่าจะทำให้พี่ตอ.ตัดขาดไปจากฉัน วันนั้นเราบังเอิญไปเจอกันบนห้างประจำที่เราเคยไปดูหนังด้วยกันบ่อยๆ พี่ตอ. ก็ยังคงมาคนเดียวอย่างเช่นเคย แต่ฉันกลับมากับใครอีกคนที่พี่ตอ.ก็รู้จัก และพี่ตอ.ก็ทักและยกมือไหว้คนๆนั้น และเดินผ่านมาที่ฉันและทำหน้าแปลกใจนิดๆและไม่ได้พูดอะไร แล้วก็เดินผ่านไป....................
      จากวันนั้นจนถึงวันนี้ฉันก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่ตอ. อีกเลย พี่ตอ.คงโกรธหนูมากร้องไห้ หนูจะไม่แก้ตัวหรือพูดใดๆทั้งสิ้น  แต่ถึงพี่จะไม่คิดอะไรกับหนูมากกว่าพี่ชายกับน้องสาวก็ตาม หนูก็ไม่อยากจะเสียพี่ชายที่แสนดีไปนาาาา และหนูรู้ว่าพี่ตอ. ก็ชอบเล่นพันทิป และหวังว่าพี่จะได้อ่านกระทู้นี้ของหนู  ถ้าพี่รู้สึกยังไงก็บอกกันให้รู้บ้างนะคะ................คิดถึงพี่ชายเสมอนะคะ อมยิ้ม03อมยิ้ม04
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่