[CR] Review วันที่ 2 เที่ยวเมืองโอซาก้า Osaka Castle กระเช้ายักษ์Tempozan เดินเล่นย่านนัมบะ ดูวิวยามค่ำที่ Umeda Sky Building

กระทู้หลัก Link >>> http://pantip.com/topic/32995388

เที่ยวเมืองโอซาก้า ชม Osaka Castle, Museum of History, ล่องเรือ Santa Maria, นั่งกระเช้าลอยฟ้า Tempozan Giant Ferris Wheel, เดินเล่นย่าน Tenjinbashi, กระเช้าตอนดึกที่ HEP FIVE Ferris Wheel, ชมเมืองโอซาก้าที่ Umeda Sky Building, ปิดท้ายเดินเล่นยามค่ำที่ย่านนัมบะ

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน ผมขอรีวิวต่อจากตอนเดิมนะครับ สำหรับทริปแบกเป้ 7วัน จากฟูกุโอกะ ถึง โตเกียว เพื่อนๆสามารถย้อนไปอ่านรายละเอียดการเดินทางของผมทั้งหมดได้ที่ลิงค์กระทู้หลักด้านบนครับผม

5 ธันวาคม 2557 : วันนี้ผมตื่นเช้าตั้งแต่ตี 5ครึ่งครับ เนื่องจากเมื่อคืนได้นอนหลับเต็มอิ่มตั้งแต่หัวค่ำโดยวันนี้ผมมีโปรแกรมที่จะนั่งชิงคันเซ็นเข้าเมืองโอซาก้า โดยได้จองไว้รอบ 06.54 โมงเช้าครับ ตอน 6โมงกว่าลงมาเช็คเอ้าท์ ยังไม่มีใครตื่นครับ Lobby เงียบมาก ผมวางกุญแจห้องไว้แล้วก็จากไป

อากาศตอนเช้าๆนี่หนาวมากๆเลยครับ รอบนี้หายใจเป็นไอชัดเจน อุณหภูมิน่าจะอยู่ที่ราวๆ 2-3 องศาเซลเซียสได้ ฟ้ายังไม่สว่างเลยครับ ผมใช้เวลาประมาณ 10นาทีเพื่อเดินไปที่ป้ายสถานีรถราง

หน้าตารถรางที่นั่งมาครับ สาย 2 ตอนนั่งนี่จะขึ้นป้ายว่า Hiroshima Station นะครับ พอถึงปุ๊ปก็จะเปลี่ยนป้ายเป็น Miyajimaguchi เพื่อตีรถกลับทางเก่าครับ

ตอนเช้าๆที่สถานีคนยังไม่เยอะเท่าไหร่ครับ ผมมีเวลาเดินไปหาซื้อของกินที่ Shop แถวนั้นก่อน

แล้วก็มาเข้าคิวรอรถไฟชิงคันเซ็นที่ช่อง Reserve ครับ

พออีก 2นาทีจะถึงกำหนดเวลารถไฟออก รถไฟชิงคันเซ็นก็วิ่งมาแล้วครับ เห็นหัวกระสุนมาแต่ไกล ตรงเวลาเป๊ะๆเลย

รถไฟหัวกระสุนสาย Kodama728 ที่จะนั่งวันนี้ครับ

โดยรถไฟจะใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 2ชั่วโมงครึ่ง จากฮิโรชิมา สู่ โอซาก้าครับ พอมีเวลาก็รีบหยิบอาหารเช้ามารับประทานครับ เป็นข้าวปั้นที่ซื้อที่ Shop ในสถานีฮิโรชิมา มื้อนี้จ่ายไป 303เยน ครับ อิ่มแน่นท้องเลยทีเดียว

หลังจากได้หลับไปตื่นนึง เวลา 09.23 น. ตามกำหนดเวลา ก็เดินทางมาถึงสถานีชินโอซาก้าครับ จัดว่าเป็นสถานีที่ใหญ่มากๆ ผู้คนก็เดินกันเยอะเลยทีเดียว

สิ่งแรกที่ทำหลังจากถึงสถานีชินโอซาก้าก็คือการเดินหา Tourist Information ครับ เพื่อขอซื้อบัตร Osaka Amazing 1Day Pass ซึ่งเป็นบัตรที่ทำให้เราสามารถโดยสารรถไฟใต้ดินได้ฟรีและยังสามารถเข้าสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆอีกหลายแห่งของเมืองนี้ได้ฟรีอีกด้วยครับ ถือว่าคุ้มมากๆเลย กับราคา 2,300 เยน อีกทั้งเมืองโอซาก้าเป็นเมืองที่ใช้การเดินทางโดยรถไฟใต้ดินเป็นหลักครับ ซึ่งจะครอบคลุมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆได้มากกว่ารถไฟ JR
ตัวอย่างหน้าตา Osaka 1 Day Pass ครับ เดินหา Tourist Information อยู่นานเลย ปรากฎตั้งอยู่หน้าทางเข้า Subway ครับ

จากนั้นเราจะนั่ง Subway เพื่อเอาของเป้กับสัมภาระไปเก็บที่สถานีใต้ดิน Umeda ครับ กะว่าเที่ยวทั้งวันให้เสร็จก่อนแล้วจะกลับมาเอาของอีกทีตอนดึกครับ จะได้ไม่เมื่อยไหล่ อีกทั้งที่พักคืนนี้จองไว้ที่ย่าน Daikokucho ซึ่งอยู่ใกล้กับรถไฟใต้ดินด้วยครับ จะได้นั่งรถไฟใต้ดินกลับทีเดียวเลย

เกือบ 10โมงแล้วครับ เดินมารอรถไฟใต้ดิน คนเยอะมากๆเลยครับ นี่ขนาดว่าเลยช่วงเวลาเร่งด่วนมาแล้วนะ ไม่งั้นได้เป็นปลากระป๋องในรถไฟใต้ดินแน่ๆ

จากนั้นมาถึงสถานีใต้ดิน Umeda ก็เอามาฝากของเข้า Locker ทันทีครับ ค่า Locker 500เยน ข้างในกว้างยัดเป้ได้ 2ใบสบาย เลยหารกับเพื่อนเอาครับ ยังไงก็คุ้มกว่าแบกของเที่ยวทั้งวันครับเมื่อยไหล่แน่นอน สำหรับใครที่มาฝากของอย่าลืมจดหมายเลข Locker ของตัวเองนะครับ เดี๊ยวตอนมาเอาจะลืมซะก่อนว่าเบอร์อะไร

จากนั้นผมนั่งรถไฟใต้ดินจาก Umeda มาลงสถานี Tanimachi Yonchome เพื่อเที่ยวปราสาทโอซาก้ากับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ หรือ Museum of History ครับ สำหรับใครที่จะเที่ยวปราสาทโอซาก้าสามารถเดินทางโดยรถไฟใต้ดินได้หลายสถานี แต่สถานีนี้จะอยู่ใกล้ Museum of History มากกว่าครับ เดินไปใช้ทางออกหมายเลข 9 ได้เลย

ขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดินมาพร้อมกับแดดที่แรงมากๆแต่อากาศเย็นเจี๊ยบ ก็จะพบกับตึก NHK หรือ Museum of History ทันทีครับ ตึกใหญ่ๆด้านขวา แต่เราจะยังไม่เข้าไปครับ ผมเลือกเดินผ่านเพื่อไปเที่ยวปราสาทโอซาก้าก่อน เดี๊ยวจะกลับมาเก็บรูปที่พิพิธภัณฑ์นี่ขากลับครับ

จากนั้นก็เดินไปด้านหลังพิพิธภัณฑ์เพื่อเข้าไปบริเวณปราสาทโอซาก้าครับ เดินค่อนข้างไกลเลยทีเดียวครับ เพราะบริเวณปราสาทโอซาก้านั้นกว้างใหญ่มากๆ ส่วนรูปนี้ถ่ายระหว่างทางครับ ต้นไม้สองข้างทางสวยทีเดียว

มายืนรอที่ทางม้าลายเพื่อข้ามถนนไปอีกฝั่งครับ เดินตามทางไปเรื่อยๆ

บริเวณนี้เป็นสวนสาธารณะครับ มีเด็กๆหลายๆกลุ่มมาทรรศนศึกษาเยอะเลยทีเดียว

เริ่มเห็นบริเวณปราสาทแล้วครับ พร้อมกับผู้คนนักท่องเที่ยวมากมาย วันนั้นเป็นวันศุกร์ครับ คนก็ยังไม่แน่นเท่าวันเสาร์ครับ ยังดี

เดินเข้ามาบริเวณด้านในของปราสาทก็จะเจอกับประตูใหญ่ครับ จะเห็นปราสาทโอซาก้าอยู่ด้านหลังด้วยครับ

นี่ถ้านับตั้งแต่ผมขึ้นจากรถไฟใต้ดินจนถึงตอนนี้น่าจะร่วมๆ 20นาทีแล้วครับ เดินไกลพอสมควรเลยครับ ในที่สุดก็เริ่มเห็นปราสาทอยู่ไกลๆแล้วครับ ใครจะมาเที่ยวที่นี่ถ้าอยากเข้าไปถ่ายรูปในปราสาทเลยต้องเผื่อเวลาเดินตรงบริเวณสวนของปราสาทไว้เยอะๆหน่อยนะครับ

ข้างทางก็จะพบกับขนม ของกินมาวางขายเต็มไปหมดครับ พร้อมๆกับเด็กนักเรียน นักศึกษาที่มาทรรศนศึกษากัน และยังมีนักท่องเที่ยวอีกมากมายเลยครับ

แอบถ่ายด้านหลังกลุ่มนักศึกษาที่มาตั้งแถวถ่ายรูปหมู่กันอยู่ครับ

เหลือบไปเห็นข้างทางมีขายมันเผาร้อนๆแล้วทนไม่ไหวครับ ซื้อมากินแก้หนาว ช่วยได้เยอะเลยครับ อร่อยมากๆ มันเผาลูกนี้ราคา 250 เยนครับ 70กว่าบาท

ตรงบริเวณสวนรอบๆก็สามารถที่จะถ่ายตัวปราสาทโอซาก้าชัดๆได้ครับ

จากนั้นก็ไม่พลาดที่จะเดินเข้าไปยังด้านในครับ ถ้าใครที่ถือบัตร Osaka Amazing 1 Day Pass ก็นำไปให้เจ้าหน้าที่สแกนบัตร เข้าได้ฟรีครับ

ข้างในปราสาทจะแบ่งออกเป็นหลายชั้นมากๆครับ สำหรับคุณลุงคุณป้าที่เดินขึ้นบันไดไม่ไหวก็มีลิฟท์ไว้บริการขึ้นไปชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด เป็นจุดชมวิวครับ แต่อาจจะต้องรอคิวนานนิดนึง ส่วนบริเวณด้านในห้ามใช้กล้องถ่ายรูปครับ เลยไม่ได้เก็บภาพออกมา เดินชมอย่างเดียวครับส่วนใหญ่ก็จะเป็นชีวประวัติของโชกุน โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้สร้างที่นี่ครับ


ผมใช้เวลาอยู่ที่ปราสาทโอซาก้าประมาณเกือบๆ 2ชั่วโมงรวมเวลาเดินครับ พอประมาณ 12.10 ก็เดินออกจากปราสาทครับ ก่อนกลับถ่ายปราสาทโอซาก้าเป็นที่ระลึกอีกครั้ง

ระหว่างทางกลับเหลือบไปเห็นอนุเสาวรีย์ของท่าน โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ด้วยครับ ตั้งอยู่บริเวณศาลเจ้าด้านข้างปราสาท

จากนั้นก็เดินกลับออกมายังตึก NHK ใกล้ๆสถานีใต้ดินอีกครั้งครับ เพื่อเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์ที่เก็บเรื่องราวประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นและเมืองโอซาก้าเอาไว้ครับ

โดยข้างในนั้นจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ชั้น 7 -10 ครับ เราจะต้องขึ้นลิฟท์ไปชั้น 10 ก่อน แล้วค่อยๆเดินลงมาทีละชั้น ส่วนชั้น 6 เอาไว้สำหรับจัดกิจกรรมพิเศษครับ เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องใช้ another ticket ครับ
ขึ้นมาแล้วครับ ชั้น10 สู๊ง สูง

บรรยากาศข้างในครับ เหมือนมาเรียนวิชาประวัติศาสตร์อยู่ครับ มีวิดีโอ Sub อังกฤษบรรยายเรื่องราวประวัติศาสตร์ของโอซาก้า เสียดายไม่มีแปลไทย ส่วนอื่นก็จะเป็นพวกโมเดลจำลองบ้านเรือนสมัยก่อนครับ ค่อยๆไล่ประวัติศาสตร์จากอดีตมาถึงปัจจุบัน ทีละชั้นครับ


พอลงมาด้านล่างบ้านเรือนจะเริ่มใหม่ทันสมัยขึ้นครับ

ที่ชั้น 8 จะมีมุมสำหรับฝึกค้นคว้า วิจัยครับ น่าสนใจมาก ถ้าใครมีเวลามากพอผมขอแนะนำให้ลองมาโซนนี้ดูครับ ได้จำลองว่าเราเป็นนักโบราณคดี ได้ฝึกสมองดีครับ ผมลองเล่นเกมส์ต่อแจกัน สนุกมากๆ ขอแนะนำครับ

อันนี้ชั้น 7 ครับ เริ่มเข้าสู่ยุคใหม่แล้วครับ สังเกตุจากการแต่งตัวของหุ่นขี้ผึ้ง


ผมใช้เวลาที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ พอ 13.15 ก็เดินทางกลับ ตอนลงมาก็จะเจอกับมุมสูบเงินครับ ร้านขายของที่ระลึก มีสินค้าน่าสนใจเยอะเลยครับ แต่ราคาค่อนข้างสูง
ชื่อสินค้า:   Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่