ปกติ ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะเข้าใจคนอื่น รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ประเภทอกเขาอกเรา อกเต่าอกจระเข้ รู้สึกได้ถึงความผิดหวังของคนอื่น ไม่ตัดสวาทขาดอีโต้ใคร รักทุกคน..โคตระพระเอก(เลยกรรู !)
หลังจากยึดอำนาจโดย คสช.แล้ว ก็เข้าสู่โหมดการปฏิรูปประเทศ มีการตั้ง สนช. ตั้ง สปช. แต่งตั้งกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อกลับไปสู่การเลือกตั้งภายในปี 2558 ตามที่หัวหน้า คสช.กำหนดไว้ ตามแผนบันได 3 ขั้น..เพื่อชิงแชมป์โลก !
ก็รู้ๆ เห็นๆกันอยู่ สนช.เป็นใคร สปช.เป็นใคร กมธ.เป็นใคร คงไม่ต้องบอกว่าเกินครึ่ง อยู่ตรงข้ามกับฝั่งทักษิณทั้งสิ้น ทุกคนต่างกระเหี้ยนกระหือรือจะกำจัดทักษิณ และระบอบทักษิณให้พ้นจากแผ่นดินอันฮดฮามทั้งนั้น เหมือนที่เจิมศักดิ์ ปิ่นทองพูดไว้ว่า “ต้องเขียนรัฐธรรมกำจัดคนอย่างทักษิณให้ได้”..ว่างั้น !
แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า จะเขียนยังไงละ ? เพื่อที่จะกำจัดทักษิณเพียงผู้เดียว โดยสาระที่เขียน ต้องไม่ไปกระทบกับฝ่ายของตน(พรรคประชาธิปัตย์)เข้าด้วย จะเขียนอย่างไรชนิดเอามันส์ข้างเดียว แบบฟินสุดๆ โดยที่ฝ่ายตนไม่ต้องเดือดร้อน..ยากเหมือนกัน !
ทั้งๆที่เป้าหมายก็คือกำจัดทักษิณนั่นแหละ แต่ครั้นจะเขียนไว้ใน รธน.เสียเลยว่า
“ห้ามตระกูลชินวัตรทุกคน หรือผู้ที่เกี่ยวกับตระกูลชินวัตรทุกคนลงสมัครรับเลือกตั้งเด็ดขาด” มันก็จะโจ่งแจ้งส่อเจตนาจนน่าเกลียดเกินไป อีกฝ่ายคงรับไม่ได้และไม่มีทางสงบ แถมชาวโลกก็จะติเตียนเอาได้..ดูไม่ดีๆ
นี่เอง จึงเป็นความรู้สึกสับสนของพวกเหล่า สปช.สนช.กมธ. ต่างเอามือกุมไข่นั่งคิดถึงสูตรการเลือกตั้งต่างๆ ตามแต่จินตนาการของแต่ละคนจะไปถึง จนเริ่มทะเลาะกันเองแล้วว่า จะเอาเลือกตั้งแบบไทยสไตล์เยอรมัน หรือว่าจะเอาแบบไทยสไตล์อเมริกา คือเลือกนายกฯและ ครม.โดยตรง หรือว่าก็เอาแบบเดิมนี่แหละวะ แต่เพิ่มอำนาจองค์กรอิสระขึ้นมาอีก จะได้กระชับอำนาจหรือขยายขอบเขตอำนาจอย่างกว้างไกลไร้ขีดจำกัด..เถียงกันลั่น
เพราะคนเหล่านี้ ต่างรู้อยู่เต็มหัวใจว่า “ถ้ามีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะรูปแบบไหนๆ อย่างไรเสี่ยทักษิณก็นอนมา โดยไม่ต้องมีพระนำ” จึงเป็นสาเหตุของความหน้าดำคร่ำเครียดว่า จะเขียน รธน.อย่างไรดีหว่า ไม่ให้ทักษิณชนะเลือกตั้งได้ หรือถ้าชนะก็จับแพ้ฟาล์วให้ได้ ถ้ายังไม่ได้ ถึงจะเป็นรัฐบาลก็ให้ทำงานไม่ได้ ถ้ายังทำงานได้ ก็ต้องหาทางปลดให้ได้..คิดกันอย่างนี้ !
จึงเป็นที่มาของความเข้าใจและรู้สึกเห็นใจพวกท่านเหล่านี้อย่างมาก ที่ต้องพยายามหาทางกันสุดชีวิต เพื่อกำจัดทักษิณให้ได้ ด้วยหัวใจและสมองที่เต็มไปด้วยไฟกิเลสประเภท ราคะ โทสะ โมหะ อคติเกลียดชังสุมอยู่เต็มไปหมด ในขณะที่ทักษิณเองดูเหมือนไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย ..แค่ Wait and see
นึกถึงคำสอนของท่านพระพะยอม กัลยาโณ ที่ว่า “ โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ไม่โกรธดีกว่า จะได้ไม่บ้าไม่โง่” หากทำอะไรที่มันตรงไปตรงมา มันก็ไม่มีอะไรยาก แต่เพราะคิดจะทำให้มันบิดเบือนนี่เอง มันจึงยากจนถึงต้องนั่งกุมขมับ อารมณ์ครุกรุ่น เริ่มโกรธและโมโห เริ่มทำตาขวางน้ำลายยืดเข้าใส่กัน ครางฮื่อๆแฮ่ๆ ใครเผลออาจถูกโดดกัดหูขาด..ทั้งโง่ทั้งบ้าจริงๆ !!!
...ผมเข้าใจความรู้สึกของพวกคุณนะ !...
หลังจากยึดอำนาจโดย คสช.แล้ว ก็เข้าสู่โหมดการปฏิรูปประเทศ มีการตั้ง สนช. ตั้ง สปช. แต่งตั้งกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อกลับไปสู่การเลือกตั้งภายในปี 2558 ตามที่หัวหน้า คสช.กำหนดไว้ ตามแผนบันได 3 ขั้น..เพื่อชิงแชมป์โลก !
ก็รู้ๆ เห็นๆกันอยู่ สนช.เป็นใคร สปช.เป็นใคร กมธ.เป็นใคร คงไม่ต้องบอกว่าเกินครึ่ง อยู่ตรงข้ามกับฝั่งทักษิณทั้งสิ้น ทุกคนต่างกระเหี้ยนกระหือรือจะกำจัดทักษิณ และระบอบทักษิณให้พ้นจากแผ่นดินอันฮดฮามทั้งนั้น เหมือนที่เจิมศักดิ์ ปิ่นทองพูดไว้ว่า “ต้องเขียนรัฐธรรมกำจัดคนอย่างทักษิณให้ได้”..ว่างั้น !
แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า จะเขียนยังไงละ ? เพื่อที่จะกำจัดทักษิณเพียงผู้เดียว โดยสาระที่เขียน ต้องไม่ไปกระทบกับฝ่ายของตน(พรรคประชาธิปัตย์)เข้าด้วย จะเขียนอย่างไรชนิดเอามันส์ข้างเดียว แบบฟินสุดๆ โดยที่ฝ่ายตนไม่ต้องเดือดร้อน..ยากเหมือนกัน !
ทั้งๆที่เป้าหมายก็คือกำจัดทักษิณนั่นแหละ แต่ครั้นจะเขียนไว้ใน รธน.เสียเลยว่า “ห้ามตระกูลชินวัตรทุกคน หรือผู้ที่เกี่ยวกับตระกูลชินวัตรทุกคนลงสมัครรับเลือกตั้งเด็ดขาด” มันก็จะโจ่งแจ้งส่อเจตนาจนน่าเกลียดเกินไป อีกฝ่ายคงรับไม่ได้และไม่มีทางสงบ แถมชาวโลกก็จะติเตียนเอาได้..ดูไม่ดีๆ
นี่เอง จึงเป็นความรู้สึกสับสนของพวกเหล่า สปช.สนช.กมธ. ต่างเอามือกุมไข่นั่งคิดถึงสูตรการเลือกตั้งต่างๆ ตามแต่จินตนาการของแต่ละคนจะไปถึง จนเริ่มทะเลาะกันเองแล้วว่า จะเอาเลือกตั้งแบบไทยสไตล์เยอรมัน หรือว่าจะเอาแบบไทยสไตล์อเมริกา คือเลือกนายกฯและ ครม.โดยตรง หรือว่าก็เอาแบบเดิมนี่แหละวะ แต่เพิ่มอำนาจองค์กรอิสระขึ้นมาอีก จะได้กระชับอำนาจหรือขยายขอบเขตอำนาจอย่างกว้างไกลไร้ขีดจำกัด..เถียงกันลั่น
เพราะคนเหล่านี้ ต่างรู้อยู่เต็มหัวใจว่า “ถ้ามีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะรูปแบบไหนๆ อย่างไรเสี่ยทักษิณก็นอนมา โดยไม่ต้องมีพระนำ” จึงเป็นสาเหตุของความหน้าดำคร่ำเครียดว่า จะเขียน รธน.อย่างไรดีหว่า ไม่ให้ทักษิณชนะเลือกตั้งได้ หรือถ้าชนะก็จับแพ้ฟาล์วให้ได้ ถ้ายังไม่ได้ ถึงจะเป็นรัฐบาลก็ให้ทำงานไม่ได้ ถ้ายังทำงานได้ ก็ต้องหาทางปลดให้ได้..คิดกันอย่างนี้ !
จึงเป็นที่มาของความเข้าใจและรู้สึกเห็นใจพวกท่านเหล่านี้อย่างมาก ที่ต้องพยายามหาทางกันสุดชีวิต เพื่อกำจัดทักษิณให้ได้ ด้วยหัวใจและสมองที่เต็มไปด้วยไฟกิเลสประเภท ราคะ โทสะ โมหะ อคติเกลียดชังสุมอยู่เต็มไปหมด ในขณะที่ทักษิณเองดูเหมือนไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย ..แค่ Wait and see
นึกถึงคำสอนของท่านพระพะยอม กัลยาโณ ที่ว่า “ โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ไม่โกรธดีกว่า จะได้ไม่บ้าไม่โง่” หากทำอะไรที่มันตรงไปตรงมา มันก็ไม่มีอะไรยาก แต่เพราะคิดจะทำให้มันบิดเบือนนี่เอง มันจึงยากจนถึงต้องนั่งกุมขมับ อารมณ์ครุกรุ่น เริ่มโกรธและโมโห เริ่มทำตาขวางน้ำลายยืดเข้าใส่กัน ครางฮื่อๆแฮ่ๆ ใครเผลออาจถูกโดดกัดหูขาด..ทั้งโง่ทั้งบ้าจริงๆ !!!