กลับมาแล้วครับ ตอนนี้เนื้อหาอาจจะยาวหน่อย เพราะรูปประกอบเพียบครับ
ถ้าอยากรู้ว่าเป็นรูปอะไร ไปดูได้ในตอนท้ายเลยครับ
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 2: ค่าครองชีพ และ ของข้าวจำเป็นในการเริ่มต้นชีวิตที่ญี่ปุ่น
หลังจากที่ได้รับเงินเดือนเข้าบัญชีธนาคารมาเรียบร้อยแล้ว เราลองมาดูกันว่า ไอที่ได้รับมาเนี้ย...! มันเพียงพอรึเปล่ากับการดำรงชีวิตในแต่ละของมนุษย์เงินเดือนไส้แห้งอย่างเราๆ ..เริ่มต้นจาก.
ค่าใช้จ่ายต่างๆในชีวิตประจำวัน/ต่อเดือน
คำแนะนำแรกนะครับ คือ อย่าพยายาม แปลงค่าเงินเยน เป็น ค่าเงินบาท เลยครับ เพราะมันจะทำให้เรารุ้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราช่างแพงแสนแพงเสียเหลือเกินน ในเมื่อเราได้รับเงินเดือนญี่ปุ่น เราก็ต้องคิดเปรียบเทียบตามค่าครองชีพของเค้าครับ โดยผมใช้ หลัก 100 เยน =10 บาท คร้าบบ ย้ำนะครับว่าไม่ใช่การแปลงค่าเงิน เป็นแค่การเปรียบเทียบ ให้เข้ากับค่าครองชีพของญี่ปุ่นครับ เช่น โค้กกระป่องหนึ่ง ก็ 150 เยน ก็ เท่ากับ 15 บาท อุ้ววพอคิดแบบนี้แล้ว จะทำให้เรามีความสุขในการซื้อของมากขึ้นเยอะเลยครับ เชื่อผมสิ
รายได้ต่อเดือน(หักภาษีแล้ว) 161,449 เยน
รายจ่ายที่จำเป็น 139,709 เยน
คงเหลือ 21,740 เยน
ยังเหลือเงินให้กินขนม ท่องเที่ยว สังสรรค์ ช็อปปิ้งอีกเดือนละ 20000 กว่าเยน ซึ่งสำหรับผมก็ถือว่า เพียงพอครับ แต่สิ้นเดือนกิน มาม่านะคร้าบ .....T^T
ค่าหอ ทางบริษัทมีเงินช่วยเหลือ ออกให้ 90 % ผมออกเองแค่ 10% จาก 44,000 เยน ซึ่งโชคดีที่หอที่ผมอยู่รวมค่าน้ำไปในค่าส่วนกลางแล้วด้วย และก็ไม่ได้ใช้แก็ส เลยไม่มีค่าแก็สด้วยครับ ห้องขนาด 1K ห้องนอนขนาด 9 เสื่อ หรือประมาณ 16m2
ค่าไฟ ฤดูใบไม้ผลิ ร้อน ใบไม้ร่วง จะถูกกว่าเพราะไม่ได้เปิดฮีทเตอร์ตอนกลางคืน ส่วนฤดูหนาวก็เพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่โชคดีที่ค่าไฟหอผม ตอนกลางคืนจะถูกกว่าตอนกลางวัน 3 เท่า !! เปิดช่วง 19:00-00:00 ทุกวันก็เพิ่มมาแค่ 1500 เยน เองครับ
ค่าอินเตอร์เน็ต อันนี้ผมเลือกใช้ เป็น pocket wifi ของ wimax ครับ มันสะดวกตรงที่ว่าเราสามารถพกไปไหนก็ได้ ใช้ได้ทั้งกับคอมที่หอ และมือถือที่เอามาจากไทยด้วยครับ (ไม่ต้องติดเน็ตที่บ้าน และ ซื้อ ไอโฟน ประหยัดสองเด้ง) ความเร็วสูงแถมไม่จำกัดปริมาณการใช้งานด้วยนะครับ (ความเร็วเต็มสปีดตลอดกาล) แนะนำให้ใช้ครับสำหรับท่านที่ไม่ต้องการซื้อไอโฟน
ค่าโทรศํพท์ ผมเอาเครื่องเก่าของ Soft Bank ที่เคยใช้ตอนมาเรียนรอบที่แล้ว มาเปลี่ยนซิม แล้วก็เลือกแพคเกจที่ถูกที่สุด เพราะในความเป็นจริงเราแทบไม่ได้ใช้งานเลยครับ ใช้ line , facebook เสียมากกว่า แต่ ควรมีไว้นะครับ เพราะเวลาติดต่อโน้นนี้นั้น จำเป็นต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ครับ
ค่า NHK ค่าเคเบิลทีวีครับ สองเดือนจ่ายครั้ง ถ้าไม่มีทีวีก็ไม่ต้องเสียครับ (จริงๆ..เนียนๆไม่ต้องเสียก็ได้ครับ..เดียวมาเล่าต่อ...พูดแล้วยังเจ็บใจไม่หายย)
ค่าอาหาร ตอนเช้าก็กินขนมปัง ดื่มนม เล็กน้อยพออยู่ท้อง ส่วนตอนกลางวันผมก็สั่งข้าวกล่องมากินที่ออฟฟิสครับ 310 เยน (พวกคนโสด ในออฟฟิสกินเซตนี้กันทุกคนครับ ประหยัด เปลี่ยนเมนูทุกวัน ส่วนรสชาติก็พอกินได้) ตอนเย็นถ้าเป็นวันธรรมดาก็ซื้อเนื้อซื้อผักมาผัดๆ ย่างๆ กินเองครับ ทำครั้งหนึ่งกินได้ 2-3 มื้อ ตกมื้อละ 250-350 เยน ไม่งั้นก็ รอสัก สามทุ่มครึ่ง ที่ซุปเปอร์จะเริ่มลดราคาอาหารที่ทำเสร็จแล้ว (พวก เทมปุระ หมูทอด ไก่ทอด ยากิโทริ) ครึ่งราคาครับ จังหวะนี้ มือใครยาวก็สาวกันเข้าไปครับ ยิ่งย่านที่ผมอยู่ คนโสดมันอยู่เยอะ พอสักสามทุ่มสิบห้า นี้ มาป้วนเปี้ยน กันเต็มไปหมดด (ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น) ซื้อมาเก็บได้ 3-4 วันก็ไม่เสียครับของพวกนี้ แต่กินไปสักพักจะเริ่มเบื่อละ เพราะเมนูมันมีแต่ของทอด แล้วก็ซ้ำๆ ด้วยครับ
พอเสาร์-อาทิตย์ ก็ออกไปหาอะไรกินข้างนอก มื้อละประมาน 800-1200 เยน ถ้ากินบุฟเฟต์เนื้อย่าง พวกนี้ก็ตกหัวละ 2000-3000 เยน ครับ ค่าอาหารที่เขียนไว้นี้ รวมค่าอาหารนอกบ้านไว้แล้วนะครับ
สัดส่วนก็ประมาน
ค่าเบนโตะ 6000
ทำกินเอง+ขนมปัง+นม 12000
ทานข้าวนอกบ้าน 17000
เพราะฉะนั้น ถ้า ใครที่ไม่ค่อยออกไปกินข้าวนอกบ้าน..(แต่กินข้าวคนเดียวเหงามากเลยนะ) ก็จะสามารถประหยัดค่าอาหารไปได้อีกหลายพันเลยล่ะครับ
เงินส่งให้ครอบครัวและเงินเก็บ อันนี้ก็แล้วแต่คนครับว่าภาระมากน้อยแค่ไหน อยากเก็บเงินมากไหม
ค่าของใช้จำเป็น ทุกๆเดือนเสียไม่เยอะครับ แต่ ช่วงแรกที่มาใหม่นิ โอะ..โห้...หมดหลายหมื่นอยู่(เฉพาะของจุกจิกๆ นะครับ ไม่รวม ของใหญ่ๆ เช่น จักรยาน ที่นอน ผ้าม่าน โต้ะ)
สรุป
เงินเดือน 190000 เมื่อเทียบกับค่าครองชีพ เหลือเฟื้ออ กินอยู่สบาย เที่ยวได้ มีเงินเก็บอีกต่างหาก........แต่ !!! อย่าลืมนะครับว่าผมจ่ายค่าบ้านแค่ 4400 เยน หุหุ...ถ้าออกเองทั้งหมดก็ สาหัสอยู่ครับ เพราะฉะนั้นหากจะมาทำงานที่ญี่ปุ่นสิ่งสำคัญอีกอย่างนอกจากเงินเดือน ก็คือ เงินช่วยเหลือค่าที่พักนั้นเองครับ
ย้ายของเข้าหอ ต้องเตรียมอะไรบ้าง ?
เยอะมากครับ....!!!!! จินตนาการตามนะครับ อพาร์ตเมนต์ญี่ปุ่น จะมีแต่ห้องโล่งๆ กับ ห้องครัวและห้องน้ำให้เรา อาจจะมีแอร์ติดมาด้วย ส่วนที่เหลือไม่มี...!!! ลืมภาพหอพักที่เมืองไทยไปได้เลย ที่มีครบคร้นทั้งโต้ะเครื่องแป้ง เตียงนอนพร้อมฟูก กระจก โต้ะทำงาน .....หึหึ....ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูรายก่อนของจำเป็นที่เราต้องซื้อเข้าหอกันเลยดีกว่าครับ
อันนี้แปลนห้องผมเองครับ ทางซ้ายจะเป็นห้องนอน ขวาบน เป็นทางเดินเข้าห้อง ตรงกลางเป็น ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ(แยกกันนะครับ) ขวาล่างก็เป็นห้องครัว กับ ที่วางเครื่องซักผ้าครับ
-
ที่นอน มีทั้งแบบเตียงและ แบบ ฟูตง ふとんครับ แต่ส่วนมากห้องจะแคบเพราะฉะนั้นแนะนำให้ใช้ฟูตงจะดีกว่า แล้วก็อย่าลืมซื้อ ผ้าปูฟูตงมาด้วยนะครับ
-
ผ้าม่าน ไม่มีผ้าม่านนะครับ !!! ต้องซื้อเอง วัดขนาดให้ดี ก่อนไปซื้อ
-
โต้ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ โคทัตสึ เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ แนะนำให้ไปซื้อที่ร้านมือสองครับ ราคาถูกกว่าของใหม่หลายเท่าตัว (แต่ต้องมีรถไปขนด้วยนะครับ)
-
ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หม้อหุ่งข้าว ไมโครเวฟ แนะนำให้ซื้อของใหม่ที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าครับ เพราะมือสองก็ราคาไม่ต่างกันมาก
-
เครื่องครัว บางอย่างก็ซื้อที่ร้าน 100 เยนได้นะครับ แต่ถ้าของดีๆหน่อย ให้ซื้อ ที่ร้าน HOME CENTER ครับ
-
เตาแก็ส (บางหอ ก็ไม่มีให้นะครับ)
-
ผ้าห่มกันหนาว จะมีขายเป็นเซตกับ ฟูตง หรือซื้อแบบดีๆ แยกต่างหากก็ได้ครับ
-
ฮีทเตอร์ สำหรับห้องที่ไม่มีแอร์ (แอร์ที่ญี่ปุ่นสามารถใช้ทำความร้อนได้ครับ)
- ขอแนะนำอีกอย่างสำหรับคนที่จะใช้หัวปลั๊กแบบ กลม หรือ แบบ 3 ขา ต้องเอา
ปลั๊ก 3 ตาจากไทยไปด้วยนะครับ เพราะที่ญี่ปุ่น มีแต่ ปลั๊กหัวแบน 2 รู เท่านั้น (ปลั๊กพ่วงอาจจะมี 3 รู แต่ก็ไม่มี หัวกลม อยู่ดีนะครับ)
-
จักรยาน เอาแบบมีเกียร์ ล้อใหญ่ๆ ก็ ประมาน 16000 เยนครับ
รวมๆแล้วซื้อของเข้าหอ ใช้เงินประมาณ 2-3 แสนเยนครับ ของที่แพงที่สุดคือ เครื่องซักผ้า กับตู้เย็น สองอันนี้ประมาณ 50,000-100,000 เยน ฉะนั้นหากมีใครเสนอ ตู้เย็น เครื่องซักผ้าให้แล้วละก็ ให้รีบตอบตกลงให้เร็วเลยครับ ชีวิตจะสบายขึ้นเยอะ
ลืมบอกไปว่าบางบริษัท(เช่นบริษัทผม)มีการให้เงินเตรียมตัวด้วยในวันแรกที่เรามาถึงผมได้รับมา 100,000เยน ก็ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายไปได้เยอะทีเดียวครับ ตอนสมัครงานก็ลองสอบถามถึง เงินตัวนี้ดูนะครับ ว่ามีให้รึไม่ จะได้ไม่พลาดอะไรดีๆไป...
สุดท้ายนี้ ฝากไว้ด้วยรูปห้องนอนของผม ในวันแรกที่ มาถึงครับ (แต่ห้องครัวนี้..ถ่ายหลังจากซื้อของเข้าหมดแล้วนะครับ) อิอิ...เอามาอวดให้ชมครับ
ขอบคุณอีกเช่นเคยนะครับ ที่เข้ามาอ่านกัน เหะ เหะ แล้วเตรียมพบกันใหม่ ใน...
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 3: ฤดูกาล และ แฟชั่นตามฤดูกาล
แล้วพบกันใหม่นะครับ～～～～～
ตอนที่ 1
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MEN IN JAPAX ตอนที่ 1 : รายได้ สวัสดิการและภาษี
http://pantip.com/topic/32988822
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 3 : ฤดูกาล และ แฟชั่นตามฤดูกาล
http://pantip.com/topic/33007984
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 4: 9 เรื่อง ที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น
http://pantip.com/topic/33098342
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 5: Review ทริปใบไม้เปลี่ยนสี Kurobe goroge
http://pantip.com/topic/33255311
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 6: “ครั้งแรก” ของผม กับการผ่าตัด และนอนโรงพยาบาลในต่างแดน
http://pantip.com/topic/33316789
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 2: ค่าครองชีพ และ ของข้าวจำเป็นในการเริ่มต้นชีวิตที่ญี่ปุ่น
หลังจากที่ได้รับเงินเดือนเข้าบัญชีธนาคารมาเรียบร้อยแล้ว เราลองมาดูกันว่า ไอที่ได้รับมาเนี้ย...! มันเพียงพอรึเปล่ากับการดำรงชีวิตในแต่ละของมนุษย์เงินเดือนไส้แห้งอย่างเราๆ ..เริ่มต้นจาก.
ค่าใช้จ่ายต่างๆในชีวิตประจำวัน/ต่อเดือน
คำแนะนำแรกนะครับ คือ อย่าพยายาม แปลงค่าเงินเยน เป็น ค่าเงินบาท เลยครับ เพราะมันจะทำให้เรารุ้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราช่างแพงแสนแพงเสียเหลือเกินน ในเมื่อเราได้รับเงินเดือนญี่ปุ่น เราก็ต้องคิดเปรียบเทียบตามค่าครองชีพของเค้าครับ โดยผมใช้ หลัก 100 เยน =10 บาท คร้าบบ ย้ำนะครับว่าไม่ใช่การแปลงค่าเงิน เป็นแค่การเปรียบเทียบ ให้เข้ากับค่าครองชีพของญี่ปุ่นครับ เช่น โค้กกระป่องหนึ่ง ก็ 150 เยน ก็ เท่ากับ 15 บาท อุ้ววพอคิดแบบนี้แล้ว จะทำให้เรามีความสุขในการซื้อของมากขึ้นเยอะเลยครับ เชื่อผมสิ
รายได้ต่อเดือน(หักภาษีแล้ว) 161,449 เยน
รายจ่ายที่จำเป็น 139,709 เยน
คงเหลือ 21,740 เยน
ยังเหลือเงินให้กินขนม ท่องเที่ยว สังสรรค์ ช็อปปิ้งอีกเดือนละ 20000 กว่าเยน ซึ่งสำหรับผมก็ถือว่า เพียงพอครับ แต่สิ้นเดือนกิน มาม่านะคร้าบ .....T^T
ค่าหอ ทางบริษัทมีเงินช่วยเหลือ ออกให้ 90 % ผมออกเองแค่ 10% จาก 44,000 เยน ซึ่งโชคดีที่หอที่ผมอยู่รวมค่าน้ำไปในค่าส่วนกลางแล้วด้วย และก็ไม่ได้ใช้แก็ส เลยไม่มีค่าแก็สด้วยครับ ห้องขนาด 1K ห้องนอนขนาด 9 เสื่อ หรือประมาณ 16m2
ค่าไฟ ฤดูใบไม้ผลิ ร้อน ใบไม้ร่วง จะถูกกว่าเพราะไม่ได้เปิดฮีทเตอร์ตอนกลางคืน ส่วนฤดูหนาวก็เพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่โชคดีที่ค่าไฟหอผม ตอนกลางคืนจะถูกกว่าตอนกลางวัน 3 เท่า !! เปิดช่วง 19:00-00:00 ทุกวันก็เพิ่มมาแค่ 1500 เยน เองครับ
ค่าอินเตอร์เน็ต อันนี้ผมเลือกใช้ เป็น pocket wifi ของ wimax ครับ มันสะดวกตรงที่ว่าเราสามารถพกไปไหนก็ได้ ใช้ได้ทั้งกับคอมที่หอ และมือถือที่เอามาจากไทยด้วยครับ (ไม่ต้องติดเน็ตที่บ้าน และ ซื้อ ไอโฟน ประหยัดสองเด้ง) ความเร็วสูงแถมไม่จำกัดปริมาณการใช้งานด้วยนะครับ (ความเร็วเต็มสปีดตลอดกาล) แนะนำให้ใช้ครับสำหรับท่านที่ไม่ต้องการซื้อไอโฟน
ค่าโทรศํพท์ ผมเอาเครื่องเก่าของ Soft Bank ที่เคยใช้ตอนมาเรียนรอบที่แล้ว มาเปลี่ยนซิม แล้วก็เลือกแพคเกจที่ถูกที่สุด เพราะในความเป็นจริงเราแทบไม่ได้ใช้งานเลยครับ ใช้ line , facebook เสียมากกว่า แต่ ควรมีไว้นะครับ เพราะเวลาติดต่อโน้นนี้นั้น จำเป็นต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ครับ
ค่า NHK ค่าเคเบิลทีวีครับ สองเดือนจ่ายครั้ง ถ้าไม่มีทีวีก็ไม่ต้องเสียครับ (จริงๆ..เนียนๆไม่ต้องเสียก็ได้ครับ..เดียวมาเล่าต่อ...พูดแล้วยังเจ็บใจไม่หายย)
ค่าอาหาร ตอนเช้าก็กินขนมปัง ดื่มนม เล็กน้อยพออยู่ท้อง ส่วนตอนกลางวันผมก็สั่งข้าวกล่องมากินที่ออฟฟิสครับ 310 เยน (พวกคนโสด ในออฟฟิสกินเซตนี้กันทุกคนครับ ประหยัด เปลี่ยนเมนูทุกวัน ส่วนรสชาติก็พอกินได้) ตอนเย็นถ้าเป็นวันธรรมดาก็ซื้อเนื้อซื้อผักมาผัดๆ ย่างๆ กินเองครับ ทำครั้งหนึ่งกินได้ 2-3 มื้อ ตกมื้อละ 250-350 เยน ไม่งั้นก็ รอสัก สามทุ่มครึ่ง ที่ซุปเปอร์จะเริ่มลดราคาอาหารที่ทำเสร็จแล้ว (พวก เทมปุระ หมูทอด ไก่ทอด ยากิโทริ) ครึ่งราคาครับ จังหวะนี้ มือใครยาวก็สาวกันเข้าไปครับ ยิ่งย่านที่ผมอยู่ คนโสดมันอยู่เยอะ พอสักสามทุ่มสิบห้า นี้ มาป้วนเปี้ยน กันเต็มไปหมดด (ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น) ซื้อมาเก็บได้ 3-4 วันก็ไม่เสียครับของพวกนี้ แต่กินไปสักพักจะเริ่มเบื่อละ เพราะเมนูมันมีแต่ของทอด แล้วก็ซ้ำๆ ด้วยครับ
พอเสาร์-อาทิตย์ ก็ออกไปหาอะไรกินข้างนอก มื้อละประมาน 800-1200 เยน ถ้ากินบุฟเฟต์เนื้อย่าง พวกนี้ก็ตกหัวละ 2000-3000 เยน ครับ ค่าอาหารที่เขียนไว้นี้ รวมค่าอาหารนอกบ้านไว้แล้วนะครับ
สัดส่วนก็ประมาน
ค่าเบนโตะ 6000
ทำกินเอง+ขนมปัง+นม 12000
ทานข้าวนอกบ้าน 17000
เพราะฉะนั้น ถ้า ใครที่ไม่ค่อยออกไปกินข้าวนอกบ้าน..(แต่กินข้าวคนเดียวเหงามากเลยนะ) ก็จะสามารถประหยัดค่าอาหารไปได้อีกหลายพันเลยล่ะครับ
เงินส่งให้ครอบครัวและเงินเก็บ อันนี้ก็แล้วแต่คนครับว่าภาระมากน้อยแค่ไหน อยากเก็บเงินมากไหม
ค่าของใช้จำเป็น ทุกๆเดือนเสียไม่เยอะครับ แต่ ช่วงแรกที่มาใหม่นิ โอะ..โห้...หมดหลายหมื่นอยู่(เฉพาะของจุกจิกๆ นะครับ ไม่รวม ของใหญ่ๆ เช่น จักรยาน ที่นอน ผ้าม่าน โต้ะ)
สรุป
เงินเดือน 190000 เมื่อเทียบกับค่าครองชีพ เหลือเฟื้ออ กินอยู่สบาย เที่ยวได้ มีเงินเก็บอีกต่างหาก........แต่ !!! อย่าลืมนะครับว่าผมจ่ายค่าบ้านแค่ 4400 เยน หุหุ...ถ้าออกเองทั้งหมดก็ สาหัสอยู่ครับ เพราะฉะนั้นหากจะมาทำงานที่ญี่ปุ่นสิ่งสำคัญอีกอย่างนอกจากเงินเดือน ก็คือ เงินช่วยเหลือค่าที่พักนั้นเองครับ
ย้ายของเข้าหอ ต้องเตรียมอะไรบ้าง ?
เยอะมากครับ....!!!!! จินตนาการตามนะครับ อพาร์ตเมนต์ญี่ปุ่น จะมีแต่ห้องโล่งๆ กับ ห้องครัวและห้องน้ำให้เรา อาจจะมีแอร์ติดมาด้วย ส่วนที่เหลือไม่มี...!!! ลืมภาพหอพักที่เมืองไทยไปได้เลย ที่มีครบคร้นทั้งโต้ะเครื่องแป้ง เตียงนอนพร้อมฟูก กระจก โต้ะทำงาน .....หึหึ....ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูรายก่อนของจำเป็นที่เราต้องซื้อเข้าหอกันเลยดีกว่าครับ
- ที่นอน มีทั้งแบบเตียงและ แบบ ฟูตง ふとんครับ แต่ส่วนมากห้องจะแคบเพราะฉะนั้นแนะนำให้ใช้ฟูตงจะดีกว่า แล้วก็อย่าลืมซื้อ ผ้าปูฟูตงมาด้วยนะครับ
- ผ้าม่าน ไม่มีผ้าม่านนะครับ !!! ต้องซื้อเอง วัดขนาดให้ดี ก่อนไปซื้อ
- โต้ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ โคทัตสึ เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ แนะนำให้ไปซื้อที่ร้านมือสองครับ ราคาถูกกว่าของใหม่หลายเท่าตัว (แต่ต้องมีรถไปขนด้วยนะครับ)
- ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หม้อหุ่งข้าว ไมโครเวฟ แนะนำให้ซื้อของใหม่ที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าครับ เพราะมือสองก็ราคาไม่ต่างกันมาก
- เครื่องครัว บางอย่างก็ซื้อที่ร้าน 100 เยนได้นะครับ แต่ถ้าของดีๆหน่อย ให้ซื้อ ที่ร้าน HOME CENTER ครับ
- เตาแก็ส (บางหอ ก็ไม่มีให้นะครับ)
- ผ้าห่มกันหนาว จะมีขายเป็นเซตกับ ฟูตง หรือซื้อแบบดีๆ แยกต่างหากก็ได้ครับ
- ฮีทเตอร์ สำหรับห้องที่ไม่มีแอร์ (แอร์ที่ญี่ปุ่นสามารถใช้ทำความร้อนได้ครับ)
- ขอแนะนำอีกอย่างสำหรับคนที่จะใช้หัวปลั๊กแบบ กลม หรือ แบบ 3 ขา ต้องเอาปลั๊ก 3 ตาจากไทยไปด้วยนะครับ เพราะที่ญี่ปุ่น มีแต่ ปลั๊กหัวแบน 2 รู เท่านั้น (ปลั๊กพ่วงอาจจะมี 3 รู แต่ก็ไม่มี หัวกลม อยู่ดีนะครับ)
- จักรยาน เอาแบบมีเกียร์ ล้อใหญ่ๆ ก็ ประมาน 16000 เยนครับ
รวมๆแล้วซื้อของเข้าหอ ใช้เงินประมาณ 2-3 แสนเยนครับ ของที่แพงที่สุดคือ เครื่องซักผ้า กับตู้เย็น สองอันนี้ประมาณ 50,000-100,000 เยน ฉะนั้นหากมีใครเสนอ ตู้เย็น เครื่องซักผ้าให้แล้วละก็ ให้รีบตอบตกลงให้เร็วเลยครับ ชีวิตจะสบายขึ้นเยอะ
ลืมบอกไปว่าบางบริษัท(เช่นบริษัทผม)มีการให้เงินเตรียมตัวด้วยในวันแรกที่เรามาถึงผมได้รับมา 100,000เยน ก็ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายไปได้เยอะทีเดียวครับ ตอนสมัครงานก็ลองสอบถามถึง เงินตัวนี้ดูนะครับ ว่ามีให้รึไม่ จะได้ไม่พลาดอะไรดีๆไป...
สุดท้ายนี้ ฝากไว้ด้วยรูปห้องนอนของผม ในวันแรกที่ มาถึงครับ (แต่ห้องครัวนี้..ถ่ายหลังจากซื้อของเข้าหมดแล้วนะครับ) อิอิ...เอามาอวดให้ชมครับ
ขอบคุณอีกเช่นเคยนะครับ ที่เข้ามาอ่านกัน เหะ เหะ แล้วเตรียมพบกันใหม่ ใน...
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 3: ฤดูกาล และ แฟชั่นตามฤดูกาล
แล้วพบกันใหม่นะครับ～～～～～
ตอนที่ 1
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MEN IN JAPAX ตอนที่ 1 : รายได้ สวัสดิการและภาษี
http://pantip.com/topic/32988822
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 3 : ฤดูกาล และ แฟชั่นตามฤดูกาล
http://pantip.com/topic/33007984
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 4: 9 เรื่อง ที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น
http://pantip.com/topic/33098342
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 5: Review ทริปใบไม้เปลี่ยนสี Kurobe goroge
http://pantip.com/topic/33255311
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 6: “ครั้งแรก” ของผม กับการผ่าตัด และนอนโรงพยาบาลในต่างแดน
http://pantip.com/topic/33316789