คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
..ที่จริง หาอ่านรายละเอียดจากเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้นะคะ ..เข้าใจไม่ยากเท่าไหร่
และภาษี เป็นเรื่องที่เราสมควรทำความเข้าใจด้วยนะคะ ..
..แต่พี่ขอสรุปให้ฟังย่อๆ ละกันค่ะ
รายได้จากเงินเดือนอย่างเดียว ยื่นแบบ ภงด.91 ค่ะ
โดยปกติ บริษัทนายจ้าง จะออกหนังสือรับรองการหักภาษีให้ลูกจ้าง
ในนั้นจะระบุไว้หมดค่ะ ..รายได้ตลอดปี ..ภาษีที่หักนำส่งไว้แล้ว ..ประกันสังคม ..กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ถ้ามี)
..คุณก็นำเอกสารนี้เป็นตัวอ้างอิง "เงินได้"
ส่วนรายได้อื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ไปขายของตลาดนัด ..ขายหมูปิ้งหน้าบ้าน หรือแม้แต่ขายของในเน็ต ที่ไม่มีหลักฐานสาวไปถึงตัว
ก็ไม่มีหลักฐานไปนับเป็น "เงินได้ "
แต่ถ้าสามีไปรับจ้างทำงาน ที่ลูกค้าขอสำเนาบัตรประชาชนไป เพื่อออกหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย กรณีจ้างทำของ
แล้วลูกค้าหัก 3% นำส่งสรรพากรให้ แล้วมอบหนังสือรับรองฯ 50 ทวิ ให้เป็นหลักฐาน..
แบบนี้ ต้องนำรายได้ส่วนนี้มาคำนวณภาษีด้วย
..และต้องยื่นแบบ ภงด.90 แทน เพราะมีรายได้ประเภทอื่น นอกเหนือจากเงินเดือน
ส่วนภรรยา เป็นแม่บ้าน ไม่มีเงินได้ ..ก็ยื่นร่วมเข้าไปด้วยกันเลยค่ะ โดยติ๊กช่องคู่สมรส ไม่มีเงินได้
ไม่ว่าจะแบบ ภงด.90 หรือ 91
..รายการลดหย่อน..
- ตัวผู้มีเงินได้เอง หักได้ 2 ส่วน คือ 40% ไม่เกิน 60,000 + อีก 30,000
- หักลดหย่อนภรรยา ได้อีก 30,000
- ลูก ..คนที่เข้าเรียนหักลดหย่อนได้ 17,000 คนน้องยังไม่เข้าโรงเรียน ลดหย่อนได้ 15,000
- ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน ..หักได้ตามจริง สูงสุด 100,000 ... อันนี้ รอธนาคารจะส่งหนังสือรับรองดอกเบี้ยมาให้เองที่บ้าน ช่วงต้นปีค่ะ
ถ้ากู้ร่วม ดอกเบี้ย ต้องหารกับผู้กู้ร่วม ..ก็จะเหลือสิทธิคนละ 50,000 บ. ..
แม้ว่าจะแค่ยืมชื่อเค้ามากู้ร่วม แต่ตัวเองจ่ายทุกบาททุกสตางค์ ..ก็ต้องหารค่ะ
- เบี้ยประกันชีวิต ..ทั้งของผู้มีเงินได้ - คู่สมรส - พ่อแม่ผู้มีเงินได้ - พ่อแม่คู่สมรส ..ได้หมดค่ะ..
แต่ดูตามเงื่อนไข ว่าต้องสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ( ประกันอุบัติเหตุ หรืออนุสัญญา ..ลดหย่อนไม่ได้ ) และไม่เกินเท่าไหร่
..อันนี้บริษัทประกัน ก็จะส่งหนังสือรับรองมาให้ที่บ้านเช่นกันค่ะ
- บุพการี อายุยังไม่เกิน 60 นำมาใช้เป็นสิทธิลดหย่อนไม่ได้ค่ะ ..ตามเงื่อนไขต้อง 60 ขึ้นไป และท่านต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 ต่อปีด้วย
..พวกจ่ายหนี้บัตรเครดิต ผ่อนรถยนต์ ซื้อข้าวของเข้าบ้าน ..ไม่เกี่ยวนะคะ ..น่าจะรวมอยู่ในรายการลดหย่อนของตัวผู้มีเงินได้เองนั่นแล้ว
นอกจากนี้ ก็ยังมีพวกเงินบริจาค , บริจาคเพื่อการศึกษา , เป็นผู้อุปการะผู้พิการ , LTF - RMF , กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ,
ประกันสังคม .. เป็นต้น
นำเงินได้ ลบบรรดารายการลดหย่อนต่างๆ เหลือเท่าไหร่ นำมาดูว่าเข้าเกณฑ์ต้องเสียภาษีเท่าไหร่
โดย 150,000 แรก ได้รับยกเว้น
..คำนวณได้ตัวเลขแล้ว ก็นำภาษีที่บริษัทหักนำส่งไว้ มาเปรียบเทียบ ..ว่าจะต้องจ่ายเพิ่ม หรือจะได้คืนค่ะ
ปล. หากเพิ่งเคยเข้ามาดูแลเรื่องภาษีของครอบครัวเป็นครั้งแรก ..ก็อาจดูเหมือนจะงงๆ
แต่เชื่อพี่ค่ะ พี่เรียนคณิตศาสตร์ครั้งสุดท้าย ตอน ม.3 ปี 2528 .. เพราะ ม.ปลาย พี่เรียนศิลป์-ฝรั่งเศส
แต่พี่ดูแลเรื่องภาษีของครอบครัวมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว ..( คุณสามีพี่ จบด้านวิศวกรรมศาสตร์ เค้าเก่งเลขกว่าพี่เยอะ 555 )
..มันไม่ยากค่ะ ..เรื่องหมูๆ ^^

และภาษี เป็นเรื่องที่เราสมควรทำความเข้าใจด้วยนะคะ ..
..แต่พี่ขอสรุปให้ฟังย่อๆ ละกันค่ะ
รายได้จากเงินเดือนอย่างเดียว ยื่นแบบ ภงด.91 ค่ะ
โดยปกติ บริษัทนายจ้าง จะออกหนังสือรับรองการหักภาษีให้ลูกจ้าง
ในนั้นจะระบุไว้หมดค่ะ ..รายได้ตลอดปี ..ภาษีที่หักนำส่งไว้แล้ว ..ประกันสังคม ..กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ถ้ามี)
..คุณก็นำเอกสารนี้เป็นตัวอ้างอิง "เงินได้"
ส่วนรายได้อื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ไปขายของตลาดนัด ..ขายหมูปิ้งหน้าบ้าน หรือแม้แต่ขายของในเน็ต ที่ไม่มีหลักฐานสาวไปถึงตัว
ก็ไม่มีหลักฐานไปนับเป็น "เงินได้ "
แต่ถ้าสามีไปรับจ้างทำงาน ที่ลูกค้าขอสำเนาบัตรประชาชนไป เพื่อออกหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย กรณีจ้างทำของ
แล้วลูกค้าหัก 3% นำส่งสรรพากรให้ แล้วมอบหนังสือรับรองฯ 50 ทวิ ให้เป็นหลักฐาน..
แบบนี้ ต้องนำรายได้ส่วนนี้มาคำนวณภาษีด้วย
..และต้องยื่นแบบ ภงด.90 แทน เพราะมีรายได้ประเภทอื่น นอกเหนือจากเงินเดือน
ส่วนภรรยา เป็นแม่บ้าน ไม่มีเงินได้ ..ก็ยื่นร่วมเข้าไปด้วยกันเลยค่ะ โดยติ๊กช่องคู่สมรส ไม่มีเงินได้
ไม่ว่าจะแบบ ภงด.90 หรือ 91
..รายการลดหย่อน..
- ตัวผู้มีเงินได้เอง หักได้ 2 ส่วน คือ 40% ไม่เกิน 60,000 + อีก 30,000
- หักลดหย่อนภรรยา ได้อีก 30,000
- ลูก ..คนที่เข้าเรียนหักลดหย่อนได้ 17,000 คนน้องยังไม่เข้าโรงเรียน ลดหย่อนได้ 15,000
- ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน ..หักได้ตามจริง สูงสุด 100,000 ... อันนี้ รอธนาคารจะส่งหนังสือรับรองดอกเบี้ยมาให้เองที่บ้าน ช่วงต้นปีค่ะ
ถ้ากู้ร่วม ดอกเบี้ย ต้องหารกับผู้กู้ร่วม ..ก็จะเหลือสิทธิคนละ 50,000 บ. ..
แม้ว่าจะแค่ยืมชื่อเค้ามากู้ร่วม แต่ตัวเองจ่ายทุกบาททุกสตางค์ ..ก็ต้องหารค่ะ
- เบี้ยประกันชีวิต ..ทั้งของผู้มีเงินได้ - คู่สมรส - พ่อแม่ผู้มีเงินได้ - พ่อแม่คู่สมรส ..ได้หมดค่ะ..
แต่ดูตามเงื่อนไข ว่าต้องสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ( ประกันอุบัติเหตุ หรืออนุสัญญา ..ลดหย่อนไม่ได้ ) และไม่เกินเท่าไหร่
..อันนี้บริษัทประกัน ก็จะส่งหนังสือรับรองมาให้ที่บ้านเช่นกันค่ะ
- บุพการี อายุยังไม่เกิน 60 นำมาใช้เป็นสิทธิลดหย่อนไม่ได้ค่ะ ..ตามเงื่อนไขต้อง 60 ขึ้นไป และท่านต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 ต่อปีด้วย
..พวกจ่ายหนี้บัตรเครดิต ผ่อนรถยนต์ ซื้อข้าวของเข้าบ้าน ..ไม่เกี่ยวนะคะ ..น่าจะรวมอยู่ในรายการลดหย่อนของตัวผู้มีเงินได้เองนั่นแล้ว
นอกจากนี้ ก็ยังมีพวกเงินบริจาค , บริจาคเพื่อการศึกษา , เป็นผู้อุปการะผู้พิการ , LTF - RMF , กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ,
ประกันสังคม .. เป็นต้น
นำเงินได้ ลบบรรดารายการลดหย่อนต่างๆ เหลือเท่าไหร่ นำมาดูว่าเข้าเกณฑ์ต้องเสียภาษีเท่าไหร่
โดย 150,000 แรก ได้รับยกเว้น
..คำนวณได้ตัวเลขแล้ว ก็นำภาษีที่บริษัทหักนำส่งไว้ มาเปรียบเทียบ ..ว่าจะต้องจ่ายเพิ่ม หรือจะได้คืนค่ะ
ปล. หากเพิ่งเคยเข้ามาดูแลเรื่องภาษีของครอบครัวเป็นครั้งแรก ..ก็อาจดูเหมือนจะงงๆ
แต่เชื่อพี่ค่ะ พี่เรียนคณิตศาสตร์ครั้งสุดท้าย ตอน ม.3 ปี 2528 .. เพราะ ม.ปลาย พี่เรียนศิลป์-ฝรั่งเศส
แต่พี่ดูแลเรื่องภาษีของครอบครัวมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว ..( คุณสามีพี่ จบด้านวิศวกรรมศาสตร์ เค้าเก่งเลขกว่าพี่เยอะ 555 )
..มันไม่ยากค่ะ ..เรื่องหมูๆ ^^
แสดงความคิดเห็น
ลดหย่อนภาษีทำยังไง