เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีโอกาสไปชม เห็นแก่ลูก เดอะ มิวสิคัล รอบ 12.00 เป็นละครเพลงที่จัดโดยโรงเรียนศิลปะการแสดงกาดสวนแก้ว ปีนี้เป็นปีที่ 3 ที่ได้ไปชม จากเรื่องแรก มู่หลาน พันท้ายนรสิงห์ และปีนี้เป็นคิวของ เห็นแก่ลูก ผมเองก็ไม่พลาดที่จะไปชมผลงานของค่ายนี้ทุกปี
เริ่มต้นที่เนื้อเรื่อง บท และการดำเนินเรื่อง
สำหรับสำหรับเนื้อเรื่องและบท ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว รักษาเสน่ห์และอารมณ์ของบทละครพูดดั้งเดิมไว้ได้เกือบทั้งหมด แต่ยังมีบางส่วนที่ควรจะดัดแปลงให้มีความกระชับมากขึ้น ให้บทส่งอารมณ์กับ Quote ที่ได้โฆษณาไว้ว่า ความรัก ความแค้น ความจริงใด ๆ ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่า 'ความเป็นพ่อ' ให้มากกว่านี้ ให้สุดกว่านี้จะดีมากครับ การนำเอาเรื่องราวและเหตุการณ์ในสมัยนั้นมาเล่าเพิ่มเติมและเชื่อมเข้าหากัน และเนื้อเรื่องที่แสดงให้เห็นว่านายล้ำและพระยาภักดีผูกพันกันมาในอดีตอย่างไร ถือว่าทำได้อย่างดี เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย และเชื่อในสิ่งทีเป็นมา
แต่! มีอยู่เรื่องนึง ที่ทีมงานควรทำวิจัยมาให้ดีกว่านี้ ผมเองก็ไม่มั่นใจในสิ่งที่ศึกษามาเท่าไหร่นัก คือฉากที่ประตูช่องกุด ซึ่งเสด็จพระองค์หญิงเสด็จออกทางนี้ ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ เพราะประตูนี้เป็นประตูซึ่งราษฎรสามัญใช้เข้า-ออกติดต่อกับคนภายในวัง และอีกเรื่องคือ ตอนที่เสด็จประทานรดน้ำให้แม่นวลและนายล้ำนั้นก็ไม่น่าเป็นไปได้อีกเช่นกัน เพราะเสด็จอยู่ฝ่ายในการจะออกไปร่วมงานแต่งงานของแม่นวลน่าจะยุ่งยาก (ตรงนี้ถ้าใครมีข้อมูลเพิ่มเติมช่วยชี้แจงให้กระจ่างด้วยครับ)
ดนตรี เนื้อร้อง และการเรียบเรียง
สำหรับเพลงในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะใช้เพลงไทยเดิมมาใส่เนื้อร้องเข้าไป จากปีที่แล้วที่ผมเคยติว่าเพลงที่แต่งมาเมโลดี้ไม่ติดหู ปีนี้เลยเอาเพลงที่ติดหูอยู่แล้วมาเล่นเลยว่างั้น ซึ่งมีเพลงหลักอยู่ไม่กี่เพลง ในส่วนนี้การนำเมโลดี้มา Loop ซ้ำไปซ้ำมา ทำให้ซ้ำซากและน่าเบื่อซะส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหลาย ๆ เพลงใช้การร้อง ๆ หยุด ๆ แล้วใช้การร้องเอื้อนมาเชื่อม มันก็ได้อารมณ์ไทยเดิมดีอยู่หรอก แต่มันทำให้ประติดประต่อยาก ทำให้ไม่อิน เจอเพลงแนวนี้ทีไรก็กลายเป็นเฉย ๆ หรือน่าเบื่อไปเลย (สังเกตจากอารมณ์ตัวเองที่เริ่มง่วงและปฏิกิริยาคนรอบข้าง) ถ้าทำให้รื่นหูกว่านี้น่าจะดีขึ้นนะ แต่ชอบที่เอาเพลงสรรเสริญพระบารมีเวอร์ชั่นเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ สำหรับละคอนดึกดำบรรพ์ วังบ้านหม้อ มาใช้ในเรื่องครับ ได้ยินแล้วตื่นเต้นมาก
ในส่วนของเนื้อร้อง แต่งได้ดี บางส่วนที่เป็น dialog ร้องสนทนากันก็พอใช้ได้ แต่ยังไม่โดนครับ มันควรจะบอกอารมณ์ได้มากกว่านี้ ถึงแม้นักแสดงจะสุดแล้วก็ตาม
สำหรับเรื่องของการเรียบเรียงเสียงประสาน และการใช้เพลงเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ถือว่าทำได้ดีมากกกกกก พัฒนาจากปีที่แล้วเยอะมาก จากเพลงปีที่แล้วที่เพลงฟังดูก๊องแก๊งไม่แน่นไม่แม่นยำ ปีนี้ดีขึ้นจริง ๆ ครับ ตรงนี้ขอชื่นชมผู้เรียบเรียง ที่ทำให้ฟังดูเป็นมืออาชีพ ส่งอารมณ์ได้ดี และดนตรีแน่นดีมาก แต่ก็ยังมีปัญหาบางจุด ที่คีย์อาจจะต่ำไป ดูนักแสดงอึดอัดในการร้อง
นักแสดง
สำหรับนักแสดง ถือว่าแทบไม่มีข้อติ มีเท่าไหร่ใส่กันเต็มที่ นักแสดงบางคนผมจำได้จากปีที่แล้ว ปีนี้ทำได้ดีขึ้น แต่อองซอมก็มีขาด ๆ เกิน ๆ บ้างพอดีบ้างเคล้ากันไปครับ เพราะเวลาที่อองซอมออกมาร้องเพลงเล่าเรื่องกัน รวมทั้งขนอุปกรณ์ฉากเข้ามาดูอารมณ์บางคนเหมือนผีที่ไร้อารมณ์เดินเข้ามาเสียมากกว่า สำหรับนักแสดงหลักถือว่าเล่นได้พอดีไม่ขาดไม่เกิน ส่งอารมณ์มาได้ดี มีแค่บางทีที่ดูยังไม่สุดเท่านั้นเอง บทแม่นวลดูจะกังวลกับการร้องมากไปหน่อยแค่นั้น
ฉาก แสง เสียง
ปีนี้ถือว่าทำได้ดีครับ การแบ่งส่วนของเวที ถือว่าเล่นกับพื้นที่เวทีได้อย่างชาญฉลาด แม้ฉากส่วนใหญ่จะเป็นฉาก 2d แต่ก็ทำได้สวยงามดูมีมิติ การใช้อองซอมขนอุปกรณ์เข้าฉากก็ทำได้ค่อนข้างดีค่อนข้างแนบเนียน การเข้าออกขึ้นลงของฉากถือว่าทำได้ดี ไม่มีเงอะงะ แต่ก็ยังต้องพัฒนาให้เข้ากับเพลงและจังหวะมากขึ้นไปอีก ติดแค่จอตรงที่เวทีด้านบนออร์เคสตร้าฉายภาพต่ำและเล็กไป โดนที่นั่งที่วางไว้บนเวทีบังไปไม่น้อยเช่นกัน
ภาพรวมของการจัดงาน
มีหลายอย่างที่ยังบกพร่องอยู่ ตั้งแต่ซื้อบัตร มีขายให้เฉพาะ 3 แถวแรกแบบราคาแพงสุดเท่านั้น เรื่องราคาผมไม่ติดใจเท่าไหร่ครับ แต่ติดตรงที่มันใกล้เกินไป ตอนซื้อบัตรบอกว่าประตูโรงละครจะเปิด 11.45 แต่เอาเข้าจริง ๆ ประตูเปิด 12.15 ซึ่งช้ากว่าเวลาที่กำหนดไป 30 นาที และกว่าจะโหลดคนเข้าโรง กว่าจะได้เริ่มเล่นก็ 12.30 นอกจากละครจะเริ่มเลทแล้ว ยังมีผู้ชมที่เลทกว่าละครอีก คือเข้ามาหลังจากละครเล่นไปแล้วเกือบ 20 นาที เท่านั้นไม่พอ มนุษย์ป้าดันเปิดไฟฉายจากมือถือกวัดแกว่งส่องหาไปทั่ว ซึ่งอยู่ถัดจากผมไปทางขวาไม่กี่ที่นั่ง ตรงนี้ทีมงานและเจ้าหน้าที่โรงละครควรจะดูแลมากกว่าจะให้ผู้ชมไร้มารยาทเหล่านั้นดูแลตัวเองนะครับ
ยังไงแล้ว ผมก็ยังจะติดตามละครเวทีของค่ายนี้ต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุก ๆ คนครับ พัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ทำต่อไปเรื่อย ๆ ผมก็จะคอยดูต่อไปเรื่อย ๆ ครับ
[CR] รีวิว ละครเวที เห็นแก่ลูก เดอะ มิวสิคัล
เริ่มต้นที่เนื้อเรื่อง บท และการดำเนินเรื่อง
สำหรับสำหรับเนื้อเรื่องและบท ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว รักษาเสน่ห์และอารมณ์ของบทละครพูดดั้งเดิมไว้ได้เกือบทั้งหมด แต่ยังมีบางส่วนที่ควรจะดัดแปลงให้มีความกระชับมากขึ้น ให้บทส่งอารมณ์กับ Quote ที่ได้โฆษณาไว้ว่า ความรัก ความแค้น ความจริงใด ๆ ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่า 'ความเป็นพ่อ' ให้มากกว่านี้ ให้สุดกว่านี้จะดีมากครับ การนำเอาเรื่องราวและเหตุการณ์ในสมัยนั้นมาเล่าเพิ่มเติมและเชื่อมเข้าหากัน และเนื้อเรื่องที่แสดงให้เห็นว่านายล้ำและพระยาภักดีผูกพันกันมาในอดีตอย่างไร ถือว่าทำได้อย่างดี เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย และเชื่อในสิ่งทีเป็นมา
แต่! มีอยู่เรื่องนึง ที่ทีมงานควรทำวิจัยมาให้ดีกว่านี้ ผมเองก็ไม่มั่นใจในสิ่งที่ศึกษามาเท่าไหร่นัก คือฉากที่ประตูช่องกุด ซึ่งเสด็จพระองค์หญิงเสด็จออกทางนี้ ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ เพราะประตูนี้เป็นประตูซึ่งราษฎรสามัญใช้เข้า-ออกติดต่อกับคนภายในวัง และอีกเรื่องคือ ตอนที่เสด็จประทานรดน้ำให้แม่นวลและนายล้ำนั้นก็ไม่น่าเป็นไปได้อีกเช่นกัน เพราะเสด็จอยู่ฝ่ายในการจะออกไปร่วมงานแต่งงานของแม่นวลน่าจะยุ่งยาก (ตรงนี้ถ้าใครมีข้อมูลเพิ่มเติมช่วยชี้แจงให้กระจ่างด้วยครับ)
ดนตรี เนื้อร้อง และการเรียบเรียง
สำหรับเพลงในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะใช้เพลงไทยเดิมมาใส่เนื้อร้องเข้าไป จากปีที่แล้วที่ผมเคยติว่าเพลงที่แต่งมาเมโลดี้ไม่ติดหู ปีนี้เลยเอาเพลงที่ติดหูอยู่แล้วมาเล่นเลยว่างั้น ซึ่งมีเพลงหลักอยู่ไม่กี่เพลง ในส่วนนี้การนำเมโลดี้มา Loop ซ้ำไปซ้ำมา ทำให้ซ้ำซากและน่าเบื่อซะส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหลาย ๆ เพลงใช้การร้อง ๆ หยุด ๆ แล้วใช้การร้องเอื้อนมาเชื่อม มันก็ได้อารมณ์ไทยเดิมดีอยู่หรอก แต่มันทำให้ประติดประต่อยาก ทำให้ไม่อิน เจอเพลงแนวนี้ทีไรก็กลายเป็นเฉย ๆ หรือน่าเบื่อไปเลย (สังเกตจากอารมณ์ตัวเองที่เริ่มง่วงและปฏิกิริยาคนรอบข้าง) ถ้าทำให้รื่นหูกว่านี้น่าจะดีขึ้นนะ แต่ชอบที่เอาเพลงสรรเสริญพระบารมีเวอร์ชั่นเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ สำหรับละคอนดึกดำบรรพ์ วังบ้านหม้อ มาใช้ในเรื่องครับ ได้ยินแล้วตื่นเต้นมาก
ในส่วนของเนื้อร้อง แต่งได้ดี บางส่วนที่เป็น dialog ร้องสนทนากันก็พอใช้ได้ แต่ยังไม่โดนครับ มันควรจะบอกอารมณ์ได้มากกว่านี้ ถึงแม้นักแสดงจะสุดแล้วก็ตาม
สำหรับเรื่องของการเรียบเรียงเสียงประสาน และการใช้เพลงเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ถือว่าทำได้ดีมากกกกกก พัฒนาจากปีที่แล้วเยอะมาก จากเพลงปีที่แล้วที่เพลงฟังดูก๊องแก๊งไม่แน่นไม่แม่นยำ ปีนี้ดีขึ้นจริง ๆ ครับ ตรงนี้ขอชื่นชมผู้เรียบเรียง ที่ทำให้ฟังดูเป็นมืออาชีพ ส่งอารมณ์ได้ดี และดนตรีแน่นดีมาก แต่ก็ยังมีปัญหาบางจุด ที่คีย์อาจจะต่ำไป ดูนักแสดงอึดอัดในการร้อง
นักแสดง
สำหรับนักแสดง ถือว่าแทบไม่มีข้อติ มีเท่าไหร่ใส่กันเต็มที่ นักแสดงบางคนผมจำได้จากปีที่แล้ว ปีนี้ทำได้ดีขึ้น แต่อองซอมก็มีขาด ๆ เกิน ๆ บ้างพอดีบ้างเคล้ากันไปครับ เพราะเวลาที่อองซอมออกมาร้องเพลงเล่าเรื่องกัน รวมทั้งขนอุปกรณ์ฉากเข้ามาดูอารมณ์บางคนเหมือนผีที่ไร้อารมณ์เดินเข้ามาเสียมากกว่า สำหรับนักแสดงหลักถือว่าเล่นได้พอดีไม่ขาดไม่เกิน ส่งอารมณ์มาได้ดี มีแค่บางทีที่ดูยังไม่สุดเท่านั้นเอง บทแม่นวลดูจะกังวลกับการร้องมากไปหน่อยแค่นั้น
ฉาก แสง เสียง
ปีนี้ถือว่าทำได้ดีครับ การแบ่งส่วนของเวที ถือว่าเล่นกับพื้นที่เวทีได้อย่างชาญฉลาด แม้ฉากส่วนใหญ่จะเป็นฉาก 2d แต่ก็ทำได้สวยงามดูมีมิติ การใช้อองซอมขนอุปกรณ์เข้าฉากก็ทำได้ค่อนข้างดีค่อนข้างแนบเนียน การเข้าออกขึ้นลงของฉากถือว่าทำได้ดี ไม่มีเงอะงะ แต่ก็ยังต้องพัฒนาให้เข้ากับเพลงและจังหวะมากขึ้นไปอีก ติดแค่จอตรงที่เวทีด้านบนออร์เคสตร้าฉายภาพต่ำและเล็กไป โดนที่นั่งที่วางไว้บนเวทีบังไปไม่น้อยเช่นกัน
ภาพรวมของการจัดงาน
มีหลายอย่างที่ยังบกพร่องอยู่ ตั้งแต่ซื้อบัตร มีขายให้เฉพาะ 3 แถวแรกแบบราคาแพงสุดเท่านั้น เรื่องราคาผมไม่ติดใจเท่าไหร่ครับ แต่ติดตรงที่มันใกล้เกินไป ตอนซื้อบัตรบอกว่าประตูโรงละครจะเปิด 11.45 แต่เอาเข้าจริง ๆ ประตูเปิด 12.15 ซึ่งช้ากว่าเวลาที่กำหนดไป 30 นาที และกว่าจะโหลดคนเข้าโรง กว่าจะได้เริ่มเล่นก็ 12.30 นอกจากละครจะเริ่มเลทแล้ว ยังมีผู้ชมที่เลทกว่าละครอีก คือเข้ามาหลังจากละครเล่นไปแล้วเกือบ 20 นาที เท่านั้นไม่พอ มนุษย์ป้าดันเปิดไฟฉายจากมือถือกวัดแกว่งส่องหาไปทั่ว ซึ่งอยู่ถัดจากผมไปทางขวาไม่กี่ที่นั่ง ตรงนี้ทีมงานและเจ้าหน้าที่โรงละครควรจะดูแลมากกว่าจะให้ผู้ชมไร้มารยาทเหล่านั้นดูแลตัวเองนะครับ
ยังไงแล้ว ผมก็ยังจะติดตามละครเวทีของค่ายนี้ต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุก ๆ คนครับ พัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ทำต่อไปเรื่อย ๆ ผมก็จะคอยดูต่อไปเรื่อย ๆ ครับ