ดูหนังไซ-ไฟ รวมพลดาราเด็กรุ่นใหม่ ตีแผ่ความร้ายกาจในจิตใจของผู้ใหญ่ Ender's Game



แม้จะไม่ถึงกับโด่งดังเปรี้ยงปร้างนัก แต่หนังไซ-ไฟอย่าง Ender's Game ที่สร้างมาจากนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อเดียวกันของออร์สัน สก็อตต์ การ์ด ก็ถือว่านำเสนอเรื่องราวของโลกอนาคต ที่ความใสซื่อของเด็กถูกใช้เป็นเครื่องจักรสังหารโดยบรรดาผู้ใหญ่ ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวภัยอันตรายต่างๆ ในแบบวิตกจริตจนเกินเหตุ ได้อย่างชัดเจน

หนังเป็นผลงานการสร้าง และกำกับการแสดงของกาวิน ฮูด ผู้กำกับเจ้าของผลงานอย่าง Tsotsi หนังรางวัลออสการ์ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมเมื่อปี 2005 รวมไปถึงเป็นผู้กำกับของ X-Men Origins: Wolverine หนังตอนแยกเรื่องแรกของหนังชุด X-Men ที่ก็น่าจะพอบ่งบอกให้เห็นถึงการทำงานที่ตัวภาพยนตร์จะมีความจริงจังหนักแน่น อยู่ในตัว ซึ่งก็เหมาะสมกันดีกับเรื่องราวของ Ender's Game ที่เป็นเรื่องราวในอนาคต เมื่อโลกถูกรุกรานจากสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ถูกเรียกว่า "ฟอร์มิคส์" จนโลกประสบความเสียหายอย่างหนัก ก่อนที่จะสามารถขับไล่พวกมันไปได้ ซึ่งก็อาจจะเป๋นเพียงเวลาชั่วคราว ทำให้เกิดโปรเจ็คท์พิเศษ รวบรวมบรรดาเด็กๆ ที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ มาทำการฝึกในสถานีอวกาศ เพื่อไปเป็นผู้บังคับบัญชายานรบที่จะบุกโจมตีพวกฟอร์มิคส์ ที่มีการคาดกันว่าน่าจะกลับมาโจมตีโลกอีกครั้ง

และหนึ่งในเด็กๆ ที่เขารับการฝึกก็คือ แอนดรูว์ วิกกิน หรือ เอนเดอร์ ที่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติและวิธีทำการรบ ที่เหนือกว่าเด็กคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะผ่านการฝึกไปได้อย่างที่หวัง เมื่อเพื่อนๆ บางคนก็มองเห็นเขาเป็นศัตรู ขณะที่การฝึกก็เต็มไปด้วยความหนักหน่วง โดยเฉพาะการบีบคั้นเพื่อรีดความสามารถของเขาออกมาให้ได้มากที่สุดของผู้พันไฮรัม กราฟฟ์ และผู้กองเกว็น แอนเดอร์สัน

นอกจากจะว่าด้วยเรื่องของผู้ใหญ่ ที่เอาความสามารถแบบใสซื่อของเด็กมาใช้เป็นเครื่องมือแล้ว Ender's Game ยังตีแผ่ให้เห็นถึงความวิตก หรือจิตใจที่ดำมืดของผู้ใหญ่ ที่ปิดบังความจริง หรือข้อสงสัยบางอย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งบางทีอาจจะเป็นเพราะโมหะจริต หรือว่าความแค้น ความเกลียดชัง ที่ทำให้สันติภาพไม่อาจจะก่อเกิดได้ ทั้งๆ ที่ในบางครั้งศัตรู หรืออีกฝั่งฝ่ายก็อ่อนล้า หรืออยากจะถอนตัวจากศึกเต็มที

มาถึงตรงนี้ หนังไซ-ไฟโลกอนาคตเรื่องนี้ ก็น่าจะสามารถทาบทับ แทนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ อย่าง การใช้เด็กมาจับปืนต่อสู้แทนตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย รวมไปถึงความวิตกต่ออันตราย หรือความไม่ไว้ใจ ที่ทำให้โลกทุกวันนี้ยากจะเต็มไปด้วยสันติ และมิตรภาพ ยกเว้นจะมองด้วยสายตาของเด็กๆ ที่อาจจะเห็นบางอย่างซึ่งแตกต่างออกไป แต่น่าเสียดาย ที่พวกเขาไม่ใช่คนที่กุมอำนาจ หรือมีพลังอยู่ในมือ  

ถือได้ว่าหนังมาพร้อมกับประเด็นที่น่าสนใจดีทีเดียว ขณะที่การนำเสนอ ก็มีฉากที่โดดเด่นอยู่หลายๆ ฉาก โดยเฉพาะฉากการฝึกในสภาวะแรงโน้มถ่วงของเอนเดอร์และเพื่อน รวมไปถึงฉากบัญชาการรบในตอนท้าย ที่ทำได้อย่างน่าตื่นตา

ขณะที่การแสดงนั้น หนังได้บรรดานักแสดงรุ่นเยาว์หลายต่อหลายยคนมาประกบกัน ไม่ว่าจะเป็น อาซา บัตเตอร์ฟิลด์ จาก Hugo ของมาร์ติน สกอร์เซซี มารับบทเอนเดอร์, ไฮลี สไตน์เฟลด์ ที่เข้าชิงออสการ์จากหนัง True Grit และลูกสาวจอมเซอร์ของมาร์ค รัฟฟาโลใน Begin Again มาเล่นเป็นพีตรา อาร์คาเนียนเพื่อนซี้ของเอนเดอร์, อบิเกล เบรสลิน ที่เล่นหนังมาตั้งแต่ตัวกระเปี้ยกมาเล่นเป็นพี่สาวของเอนเดอร์ ร่วมด้วยบรรดานักแสดงรุ่นใหญ่ ที่มาเสริมให้แข็งแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แฮร์ริสัน ฟอร์ด ในบทผู้ควบคุมการฝึกสุดเฺฮี้ยบ-ผู้พันกราฟฟ์, เบน คิงสลีย์ เล่นเป็นเมเซอร์ แรคแฮม วีรบุรุษผุ้ช่วยโลก และไวโอลา เดวิส ผู้พันเกว็นแอนเดอร์สัน

อย่างที่บอก หนังอาจจะไม่ถึงกับโด่งดังนัก แต่สารที่หนังต้องการจะสื่อนั้น แข็งแรงและมีความร่วมสมัย ในแบบที่ไม่มีวันเชย โดย Ender's Game จะมีให้ชมกันทางช่อง Fox Movies Premium ในวันที่ 15 (สี่ทุ่มครึ่ง), 19 (บ่ายโมง) และ 31 (เที่ยงวันยี่สิบห้านาที) ติดตามชมกันได้ แล้วจะรู้ว่า ความกลัวของผู้ใหญ่ สร้างความเลวร้ายอะไรให้เกิดขึ้นบ้าง โดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่ความคิดยังใสสะอาด ที่มองเห็นทางออกบางอย่างที่ผู้ใหญ่ใจมัวไม่เคยมองเห็น

อ่านแล้วถูกใจคลิกชอบได้ที่ www.facebook.com/Sadaos

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่