เริ่มเลยนะคะ เจ้าของกระทู้อยากไปเที่ยวเกาะเชจูค่ะที่นี้ก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ และเห็นว่าการเที่ยวเกาะเชจูนั้นค่อนข้างจะลำบากค่ะถ้าไม่ขับรถเที่ยวเอง เจ้าของกระทู้ขับรถไม่เป็นค่ะและเพื่อนก็ไม่ถนัดที่จะขับรถพวงมาลัยซ้ายจึงตกลงกันว่าจะไปเที่ยวเลยลองไปกับทัวร์ค่ะหลังจากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับทัวร์โดยถามกับเพื่อนที่เคยไปกับทัวร์มาแล้วและหาบริษัททัวร์ที่ดูน่าเชื่อถือค่ะ หลังจากซื้อทัวร์เสร็จแล้วเจ้าของกระทู้ตกลงกับทางทัวร์ว่าเมื่อไปกับทัวร์จบจะไม่กลับพร้อมทัวร์ค่ะซึ่งสอบถามทาง บ ทัวร์แล้วเค้าก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะก็เลยทำการจองตั๋วเครื่องบินขากลับ ตั๋วเครื่องบินจากเชจูไปกิมโปและก็จองโรงแรมที่โซลค่ะ
วันแรก ไปถึงสนามบินเชจูพอออกจากส่วนที่ตรวจคนเข้าเมืองเดินออกมาจากการรับกระเป๋าก็จะโดนแบ่งเป็นบัสหลายๆบัสค่ะจะมีไกด์แต่ละบัสมาคอยรับลูกทัวร์ของตัวเองค่ะ หลังจากนั้นก็พาไปทานอาหารเที่ยงคือบิบัมบับหรือข้าวยำเกาหลีค่ะ พอทานเสร็จก็พาไปเที่ยวเขาฮัลลาซานค่ะ ระหว่างทางไกด์ก็จะมาเล่าประวัติเกาะค่ะที่เด็ดอยู่ตรงนี้ค่ะไกด์จะเริ่มเล่าค่ะว่าคนเกาหลีสุขภาพดีเพราะทานอะไร เช่นน้ำมันสนๆที่สามารถทานได้ต้องเป็นสนแดงเท่านั้น ทานโสม ทานน้ำฮอกเก้ค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะฟังเพลินๆ ไป วันแรกสนุกมากค่ะไปวัด สวนส้ม ชมภูเขา คิตตี้แลนด์ เรื่อน่าเบื่อมันจะเริ่มวันที่สองค่ะ
วันที่สอง ตื่นมาทานเข้าเช้าที่โรงแรมค่ะ พอทานเสร็จขึ้นรถไกด์ให้น้องที่ผู้ช่วยไกด์นำลูกพลับแห้งมาแจกให้ลูกทัวร์ชิมระหว่างนั้นไกด์ก็เริ่มบิวท์เรื่องน้ำมันสนค่ะโดยอ้างอิงว่ารู้จักดาราไทย คนมีชื่อเสียง ซีอีโอระดับใหญ่ๆ ค่ะบอกว่าทานน้ำมันสนแล้วดียังไงเป็นโรคก็หาย เป็นมะเร็งนี่นั่นไม่หายแต่ก็อยู่ได้นานขึ้นเป็นโรคไวรัสตับอักเสบทานแล้วหายค่ะ (อันนี้เราไม่แน่ใจนะคะว่าทานแล้วดีทานแล้วหายจริงๆ หรือเปล่า) พอไปถึงร้านน้ำมันสนเป็นห้องเล็กๆ ค่ะมีคนขายเป็นคนไทยเหมือนมีไว้คอยต้อนทัวร์โดยเฉพาะ ฆาตรกรรมห้องปิดตายเริ่มแล้วค่ะ (คือการปิดห้องขายของค่ะโดยลูกทัวร์เหมือนหมูโดนต้อนเข้าเล้าแล้วรอเชือด) พอโดนไกด์ต้อนเข้าห้องเจ้าหน้าที่ไทยก็จะเริ่มอธิบายสินค้าบลาๆ ค่ะ หลังจากนั้นก็ให้ลูกทัวร์ซื้อค่ะ ซึ่งราคาของมันแพงมาก !!! และเรื่องมาคุมันก็เริ่มขึ้นค่ะ คือเค้าไม่ได้บังคับซื้อนะคะแต่ลูกทัวร์ไม่สนใจซื้อเพราะราคามันแพงมากๆ และไม่รู้ว่ากินแล้วได้ผลหรือเปล่า ลูกทัวร์จึงทะยอยๆออกค่ะ เราก็เดินออกมานั่งรอบนรถค่ะมีลูกทัวร์กลุ่มหลังๆ ที่เดินออกมาบอกว่าแทบไม่มีคนสนใจซื้อ ไกด์ยืนตามประกบลูกทัวร์เลยค่ะแล้วเริ่มเหวี่ยงพูดจาไม่ค่อยดีกับลูกทัวร์ค่ะ และหลังจากนั้นก็มีพาไปเที่ยวเขาหลังจากเที่ยวเขาเสร็จคราวนี้ไกด์ก็มาเกริ่นเรื่องสาหร่ายค่ะว่าสาหร่ายที่ดีต้องเป็นแบบไหนพร้อมมีสาหร่ายให้ชิมและให้สั่งสาหร่ายกับลูกพลับเรากับเพื่อนไม่ได้สั่งนางก็ทำหน้าเหมือนไม่ค่อยพอใจค่ะ หลังจากนันทานข้าวดูโชว์ม้า และหลังจากโชว์ม้าเสร็จงานโฆษณามาอีกแล้วคราวนี้บอกเรื่องคนเกาหลีแข็งแรงเพราะทานกระดูกม้าเพื่อจะไปสู่สินค้าต่อไป (ป.ล. เค้าก็ไม่ได้บังคับซื้อนะคะแต่เรารู้สึกไม่ดีกับการขายแบบนี้) และที่สุดท้ายที่ไปวันนี้ก็คือร้านขายเครื่องสำอางค์ค่ะที่จัดไว้ให้สำหรับทัวร์เท่านั้น
พอสิ้นสุดวันที่สองพอกลับโรงแรมค่ะเราก็ไปแจ้งทางไกด์ค่ะ ว่าพรุ่งนี้เราจะขอแยกไปไม่กลับพร้อมทัวร์ค่ะ หน้านางเปลี่ยนเลยค่ะ นางทำหน้าเหวี่ยงบอกว่าทำไมพึ่งมาบอกวันนี้ไม่เห็นมีใครแจ้งนางเลยว่าจะมีคนไม่กลับพร้อมทัวร์ เราก็บอกว่าเราแจ้งทาง บ ที่ไทยแล้วว่าเราจะไม่กลับพร้อมทัวร์และทางเราก็ได้ส่งตั๋วเครื่องบินขากลับให้ บ ทัวร์ทางไทยแล้วนางบอกนางไม่ได้รับแจ้งค่ะ ไกด์บอกว่ากฏหมายที่เชจูไม่เหมือนที่โซลค่ะถ้าเราไม่กลับพร้อมเครื่องชื่อเราจะขึ้น no show ค่ะและมีปัญหาในการออกจากสนามบินเชจูและขาออกจากโซลค่ะ แล้วถ้าเรากลับมาเกาหลีอีกครั้งเราอาจจะโดน black list ค่ะ คืนนั้นเราเลย line ถามทางไทยค่ะให้เค้าโทรไปคุยกับทางไกด์ที่เกาหลีค่ะ เพราะดูเหมือนเค้าจะไม่ได้ประสานงานกัน บริษัททัวร์ที่ทางไทยบอกว่าจะคุยให้ค่ะ และเราก็ถามย้ำกับทางไทยว่าสามารถไปเที่ยวเองต่อได้ใช่มั้ยไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือเปล่าทางไทยย้ำค่ะว่าสามารถทำได้เรากับเพื่อนเลยกลับไปถามทางไกด์ค่ะไกด์บอกให้มาคุยเช้าวันรุ่งขึ้น
วันที่ 3 ค่ะ ตื่นเช้ามาเราก็ถามไกด์ค่ะว่าตกลงทางไทยโทรมาคุยหรือยังพร้อมทั้งแคปเจอร์ภาพที่คุยกับทาง บ ทัวร์ไทยให้ทางไกด์ดูค่ะ ส่วนไกด์ก็ยังยืนยันคำเดิมค่ะอ้างเรื่องกฏหมายเชจูไม่เหมือนที่โซลและรู้ถามว่ารู้มั้ยที่เชจูปรับค่าเหยียบแผ่นดินนาทีละ 20000 บาท ขู่ว่าจะโดน black list ถ้าไม่กลับพร้อมทัวร์เราเริ่มโมโหค่ะเลยตอบไกด์ไปว่าไม่เป็นไรค่ะจะ black list ก็ทำไปเลยเพราะมาเที่ยวสองครั้งแล้วไม่รู้จะกลับมาทำไมอีกเพราะเกาหลีไม่มีอะไร หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกค่ะ ทางทัวร์พาไปแวะร้านน้ำแฮกเก้ซึ่งเป็นฆาตรกรรมห้องปิดตาย และศูนย์โสมซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์เดียวกันและร้านละลายเงินวอนหรือ super market ซึ่งราคาสินค้าแพงกว่าร้านข้างนอกอีกค่ะไม่เชื่อลองเปรียบเทียบดู หลังจากออกจากร้านละลายเงินวอนทางไกด์ได้นำหนังสือขอแยกออกจากกลุ่มมาให้เซ็นต์ค่ะ หลังจากเซ็นต์แล้วบรรยากาศระหว่างเรากับไกด์ก็เริ่มมาคุค่ะเราโดนนางเหวี่ยงตลอดเวลาเลยค่ะ และไม่พอนะคะมีการเล่าเรื่องกระทบกระเทียบเรากับเพื่อนด้วยมีการเล่าเรื่องหญิงไทยแอบเข้าเมืองเรื่องกฏหมายเชจูที่ทางไกด์ย้ำนักย้ำหนา เรื่องค่าเหยียบแผ่นดิน เรื่อง black list สรุปเราอยู่กับทัวร์จนจบค่ะ ตอนเย็นเป็นการปล่อยให้ชอปปปิ้งอิสระซึ่งเราขอกระเป๋าเดินทางเพื่อไปสนามบินก่อนเพราะกลัวตกเครื่องค่ะทางไกด์ไม่ยอมให้กระเป๋าค่ะ ในใจเราคิดค่ะว่าทางไกด์คงยื้ออยากให้เราตกเครื่องที่บินภายในเพื่อไปโซลค่ะ เรากับเพื่อนยอมไปยืนหนาวค่ะ โทรหาก็แล้ว ไลน์ไปก็แล้วไกด์ไม่ยอมรับโทรศัพท์ค่ะ พอดีอีก 15 นาทีจะถึงเวลานัดหมายลูกทัวร์ทั้งหมดเพื่อไปสนามบินคนขับรถบัสมาเราเลยขอให้เค้าโทรหาไกด์รับ แต่บอกเข้าห้องน้ำและไม่ยอมมาอ่านไลน์แต่ไม่ตอบค่ะ จนน้องที่เป็นผู้ช่วยไกด์มาค่ะเลยขอให้น้องเอากระเป๋าให้ดูน้องลำบากใจอยู่ค่ะเราก็สงสารน้องนะคะที่ให้กระเป๋าเรากับเพื่อนมา หลังจากไกด์มาคงจะโดนว่าน่าดู คือเราคิดว่าเรากับเพื่อนทำถูกต้องทุกอย่างนะคะไม่น่าจะมากวนกันเรากับเพื่อนก็เครียดกลัวตกเครื่องพยายาขอกระเป๋าไกด์หลายครั้งเค้าไม่ยอมให้ก่อนทั้งๆ ที่เซ็นต์หนังสือขอแยกตัวออกจากกลุ่มไปแล้ว สรุปเรากับเพื่อนนั่งเครื่องไปโซลได้ทันเวลาค่ะ และตอนนี้กลับมาถึงไทยโดยไม่ติดปัญหาอะไรอย่างกับที่ไกด์บอกเลย
สรุปนะคะ เรารับได้นะคะเรื่องที่ทัวร์ให้เวลาเที่ยวน้อยในแต่ละสถานที่และมีแวะร้านขายสินค้าแต่เราไม่ชอบรูปแบบการขายของที่ดูเหมือนจะยัดเยียดค่ะ มันดูน่าอึดอัดค่ะถึงไม่บังคับให้ซื้อก็เถอะ และรวมไปถึงการพูดเรื่องสรรพคุณของสินค้าสอดแทรกตลอดเวลาและอวดอ้างคนมีชื่อเสียง(โดยบางทีเจ้าตัวก็อาจจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ) ทัวร์เหมาะกับใครเราคิดว่าเหมาะกับไปกับครอบครัวหรือคนที่ค่อนข้างมีอายุค่ะ หรือคนที่ไม่คิดอะไรมาก อีกอย่างทัวร์ที่สนุกและดีไกด์ก็สำคัญค่ะพูดดีพรีเซนต์เก่งแต่ EQ ต่ำแก้ปัญหาไม่เป็นก็ทำให้ทัวร์หมดสนุกค่ะ ก่อนที่เราตัดสินใจซื้อทัวร์เราก็ถามเพื่อนๆ หลายๆคนที่เคยไปเที่ยวกับทัวร์นะคะเค้าก็บอกว่าสนุกดี กินอยู่ดีค่ะ อ้อและสำหรับเรื่องอาหารค่ะอาหารที่ได้ทานส่วนใหญ่ก็เป็นหมูสามชั้นติดมันค่ะซึ่งบางมื้อที่เป็นไก่ไม่สามารถเติมได้นะคะจะเติมได้เฉพาะผักและเครื่องเคียงค่ะ
ป.ล. ถึงจะเจอเรื่องหมดสนุกไปแต่ต้องขอชมเพื่อนร่วมทัวร์ค่ะแต่ละคนน่ารักมากค่ะ ^0^ อย่างน้อยในเรื่องร้ายๆก็มีเรื่องน่ารักค่ะ คืออาจจะดูอ่านแล้วงงๆ ไปบ้างคือเราเรียบเรียงไม่เก่งค่ะ ส่วนตัวเรากับเพื่อนไม่คิดจะไปกับทัวร์แล้วค่ะเพราะรู้สึกอึดอัดและรู้สึกเหมือนนักโทษโดนขังคุกค่ะ มาระบายค่ะอยากให้เห็นอีกมุมนึงของทัวร์นะคะ
ป.ล. ลงภาพประกอบค่ะ
ภูเขาฮัลลาซานอันนี้เป็นที่แรกค่ะไกด์ให้เวลาครึ่งชั่วโมงค่ะ
ยอดเขาซองซานอิลซุงโบล ไกด์ให้เวลาหนึ่งชั่วโมงค่ะในการเดินขึ้นเขาชมธรรมชาติ
ส่วนในร้านขายสินค้าที่เค้าพาไปห้ามถ่ายภาพค่ะ และภาพอาหารปกติเราไม่ชอบถ่ายอยู่แล้วค่ะถึงเวลาก็ทานเลยไว้ให้คนที่ไปสัมผัสเองน่ะค่ะ
ว่าเราพูดความจริงหรือไม่
ประสบการณ์การท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกกับทัวร์ เชจู เกาหลีใต้
วันแรก ไปถึงสนามบินเชจูพอออกจากส่วนที่ตรวจคนเข้าเมืองเดินออกมาจากการรับกระเป๋าก็จะโดนแบ่งเป็นบัสหลายๆบัสค่ะจะมีไกด์แต่ละบัสมาคอยรับลูกทัวร์ของตัวเองค่ะ หลังจากนั้นก็พาไปทานอาหารเที่ยงคือบิบัมบับหรือข้าวยำเกาหลีค่ะ พอทานเสร็จก็พาไปเที่ยวเขาฮัลลาซานค่ะ ระหว่างทางไกด์ก็จะมาเล่าประวัติเกาะค่ะที่เด็ดอยู่ตรงนี้ค่ะไกด์จะเริ่มเล่าค่ะว่าคนเกาหลีสุขภาพดีเพราะทานอะไร เช่นน้ำมันสนๆที่สามารถทานได้ต้องเป็นสนแดงเท่านั้น ทานโสม ทานน้ำฮอกเก้ค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะฟังเพลินๆ ไป วันแรกสนุกมากค่ะไปวัด สวนส้ม ชมภูเขา คิตตี้แลนด์ เรื่อน่าเบื่อมันจะเริ่มวันที่สองค่ะ
วันที่สอง ตื่นมาทานเข้าเช้าที่โรงแรมค่ะ พอทานเสร็จขึ้นรถไกด์ให้น้องที่ผู้ช่วยไกด์นำลูกพลับแห้งมาแจกให้ลูกทัวร์ชิมระหว่างนั้นไกด์ก็เริ่มบิวท์เรื่องน้ำมันสนค่ะโดยอ้างอิงว่ารู้จักดาราไทย คนมีชื่อเสียง ซีอีโอระดับใหญ่ๆ ค่ะบอกว่าทานน้ำมันสนแล้วดียังไงเป็นโรคก็หาย เป็นมะเร็งนี่นั่นไม่หายแต่ก็อยู่ได้นานขึ้นเป็นโรคไวรัสตับอักเสบทานแล้วหายค่ะ (อันนี้เราไม่แน่ใจนะคะว่าทานแล้วดีทานแล้วหายจริงๆ หรือเปล่า) พอไปถึงร้านน้ำมันสนเป็นห้องเล็กๆ ค่ะมีคนขายเป็นคนไทยเหมือนมีไว้คอยต้อนทัวร์โดยเฉพาะ ฆาตรกรรมห้องปิดตายเริ่มแล้วค่ะ (คือการปิดห้องขายของค่ะโดยลูกทัวร์เหมือนหมูโดนต้อนเข้าเล้าแล้วรอเชือด) พอโดนไกด์ต้อนเข้าห้องเจ้าหน้าที่ไทยก็จะเริ่มอธิบายสินค้าบลาๆ ค่ะ หลังจากนั้นก็ให้ลูกทัวร์ซื้อค่ะ ซึ่งราคาของมันแพงมาก !!! และเรื่องมาคุมันก็เริ่มขึ้นค่ะ คือเค้าไม่ได้บังคับซื้อนะคะแต่ลูกทัวร์ไม่สนใจซื้อเพราะราคามันแพงมากๆ และไม่รู้ว่ากินแล้วได้ผลหรือเปล่า ลูกทัวร์จึงทะยอยๆออกค่ะ เราก็เดินออกมานั่งรอบนรถค่ะมีลูกทัวร์กลุ่มหลังๆ ที่เดินออกมาบอกว่าแทบไม่มีคนสนใจซื้อ ไกด์ยืนตามประกบลูกทัวร์เลยค่ะแล้วเริ่มเหวี่ยงพูดจาไม่ค่อยดีกับลูกทัวร์ค่ะ และหลังจากนั้นก็มีพาไปเที่ยวเขาหลังจากเที่ยวเขาเสร็จคราวนี้ไกด์ก็มาเกริ่นเรื่องสาหร่ายค่ะว่าสาหร่ายที่ดีต้องเป็นแบบไหนพร้อมมีสาหร่ายให้ชิมและให้สั่งสาหร่ายกับลูกพลับเรากับเพื่อนไม่ได้สั่งนางก็ทำหน้าเหมือนไม่ค่อยพอใจค่ะ หลังจากนันทานข้าวดูโชว์ม้า และหลังจากโชว์ม้าเสร็จงานโฆษณามาอีกแล้วคราวนี้บอกเรื่องคนเกาหลีแข็งแรงเพราะทานกระดูกม้าเพื่อจะไปสู่สินค้าต่อไป (ป.ล. เค้าก็ไม่ได้บังคับซื้อนะคะแต่เรารู้สึกไม่ดีกับการขายแบบนี้) และที่สุดท้ายที่ไปวันนี้ก็คือร้านขายเครื่องสำอางค์ค่ะที่จัดไว้ให้สำหรับทัวร์เท่านั้น
พอสิ้นสุดวันที่สองพอกลับโรงแรมค่ะเราก็ไปแจ้งทางไกด์ค่ะ ว่าพรุ่งนี้เราจะขอแยกไปไม่กลับพร้อมทัวร์ค่ะ หน้านางเปลี่ยนเลยค่ะ นางทำหน้าเหวี่ยงบอกว่าทำไมพึ่งมาบอกวันนี้ไม่เห็นมีใครแจ้งนางเลยว่าจะมีคนไม่กลับพร้อมทัวร์ เราก็บอกว่าเราแจ้งทาง บ ที่ไทยแล้วว่าเราจะไม่กลับพร้อมทัวร์และทางเราก็ได้ส่งตั๋วเครื่องบินขากลับให้ บ ทัวร์ทางไทยแล้วนางบอกนางไม่ได้รับแจ้งค่ะ ไกด์บอกว่ากฏหมายที่เชจูไม่เหมือนที่โซลค่ะถ้าเราไม่กลับพร้อมเครื่องชื่อเราจะขึ้น no show ค่ะและมีปัญหาในการออกจากสนามบินเชจูและขาออกจากโซลค่ะ แล้วถ้าเรากลับมาเกาหลีอีกครั้งเราอาจจะโดน black list ค่ะ คืนนั้นเราเลย line ถามทางไทยค่ะให้เค้าโทรไปคุยกับทางไกด์ที่เกาหลีค่ะ เพราะดูเหมือนเค้าจะไม่ได้ประสานงานกัน บริษัททัวร์ที่ทางไทยบอกว่าจะคุยให้ค่ะ และเราก็ถามย้ำกับทางไทยว่าสามารถไปเที่ยวเองต่อได้ใช่มั้ยไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือเปล่าทางไทยย้ำค่ะว่าสามารถทำได้เรากับเพื่อนเลยกลับไปถามทางไกด์ค่ะไกด์บอกให้มาคุยเช้าวันรุ่งขึ้น
วันที่ 3 ค่ะ ตื่นเช้ามาเราก็ถามไกด์ค่ะว่าตกลงทางไทยโทรมาคุยหรือยังพร้อมทั้งแคปเจอร์ภาพที่คุยกับทาง บ ทัวร์ไทยให้ทางไกด์ดูค่ะ ส่วนไกด์ก็ยังยืนยันคำเดิมค่ะอ้างเรื่องกฏหมายเชจูไม่เหมือนที่โซลและรู้ถามว่ารู้มั้ยที่เชจูปรับค่าเหยียบแผ่นดินนาทีละ 20000 บาท ขู่ว่าจะโดน black list ถ้าไม่กลับพร้อมทัวร์เราเริ่มโมโหค่ะเลยตอบไกด์ไปว่าไม่เป็นไรค่ะจะ black list ก็ทำไปเลยเพราะมาเที่ยวสองครั้งแล้วไม่รู้จะกลับมาทำไมอีกเพราะเกาหลีไม่มีอะไร หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกค่ะ ทางทัวร์พาไปแวะร้านน้ำแฮกเก้ซึ่งเป็นฆาตรกรรมห้องปิดตาย และศูนย์โสมซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์เดียวกันและร้านละลายเงินวอนหรือ super market ซึ่งราคาสินค้าแพงกว่าร้านข้างนอกอีกค่ะไม่เชื่อลองเปรียบเทียบดู หลังจากออกจากร้านละลายเงินวอนทางไกด์ได้นำหนังสือขอแยกออกจากกลุ่มมาให้เซ็นต์ค่ะ หลังจากเซ็นต์แล้วบรรยากาศระหว่างเรากับไกด์ก็เริ่มมาคุค่ะเราโดนนางเหวี่ยงตลอดเวลาเลยค่ะ และไม่พอนะคะมีการเล่าเรื่องกระทบกระเทียบเรากับเพื่อนด้วยมีการเล่าเรื่องหญิงไทยแอบเข้าเมืองเรื่องกฏหมายเชจูที่ทางไกด์ย้ำนักย้ำหนา เรื่องค่าเหยียบแผ่นดิน เรื่อง black list สรุปเราอยู่กับทัวร์จนจบค่ะ ตอนเย็นเป็นการปล่อยให้ชอปปปิ้งอิสระซึ่งเราขอกระเป๋าเดินทางเพื่อไปสนามบินก่อนเพราะกลัวตกเครื่องค่ะทางไกด์ไม่ยอมให้กระเป๋าค่ะ ในใจเราคิดค่ะว่าทางไกด์คงยื้ออยากให้เราตกเครื่องที่บินภายในเพื่อไปโซลค่ะ เรากับเพื่อนยอมไปยืนหนาวค่ะ โทรหาก็แล้ว ไลน์ไปก็แล้วไกด์ไม่ยอมรับโทรศัพท์ค่ะ พอดีอีก 15 นาทีจะถึงเวลานัดหมายลูกทัวร์ทั้งหมดเพื่อไปสนามบินคนขับรถบัสมาเราเลยขอให้เค้าโทรหาไกด์รับ แต่บอกเข้าห้องน้ำและไม่ยอมมาอ่านไลน์แต่ไม่ตอบค่ะ จนน้องที่เป็นผู้ช่วยไกด์มาค่ะเลยขอให้น้องเอากระเป๋าให้ดูน้องลำบากใจอยู่ค่ะเราก็สงสารน้องนะคะที่ให้กระเป๋าเรากับเพื่อนมา หลังจากไกด์มาคงจะโดนว่าน่าดู คือเราคิดว่าเรากับเพื่อนทำถูกต้องทุกอย่างนะคะไม่น่าจะมากวนกันเรากับเพื่อนก็เครียดกลัวตกเครื่องพยายาขอกระเป๋าไกด์หลายครั้งเค้าไม่ยอมให้ก่อนทั้งๆ ที่เซ็นต์หนังสือขอแยกตัวออกจากกลุ่มไปแล้ว สรุปเรากับเพื่อนนั่งเครื่องไปโซลได้ทันเวลาค่ะ และตอนนี้กลับมาถึงไทยโดยไม่ติดปัญหาอะไรอย่างกับที่ไกด์บอกเลย
สรุปนะคะ เรารับได้นะคะเรื่องที่ทัวร์ให้เวลาเที่ยวน้อยในแต่ละสถานที่และมีแวะร้านขายสินค้าแต่เราไม่ชอบรูปแบบการขายของที่ดูเหมือนจะยัดเยียดค่ะ มันดูน่าอึดอัดค่ะถึงไม่บังคับให้ซื้อก็เถอะ และรวมไปถึงการพูดเรื่องสรรพคุณของสินค้าสอดแทรกตลอดเวลาและอวดอ้างคนมีชื่อเสียง(โดยบางทีเจ้าตัวก็อาจจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ) ทัวร์เหมาะกับใครเราคิดว่าเหมาะกับไปกับครอบครัวหรือคนที่ค่อนข้างมีอายุค่ะ หรือคนที่ไม่คิดอะไรมาก อีกอย่างทัวร์ที่สนุกและดีไกด์ก็สำคัญค่ะพูดดีพรีเซนต์เก่งแต่ EQ ต่ำแก้ปัญหาไม่เป็นก็ทำให้ทัวร์หมดสนุกค่ะ ก่อนที่เราตัดสินใจซื้อทัวร์เราก็ถามเพื่อนๆ หลายๆคนที่เคยไปเที่ยวกับทัวร์นะคะเค้าก็บอกว่าสนุกดี กินอยู่ดีค่ะ อ้อและสำหรับเรื่องอาหารค่ะอาหารที่ได้ทานส่วนใหญ่ก็เป็นหมูสามชั้นติดมันค่ะซึ่งบางมื้อที่เป็นไก่ไม่สามารถเติมได้นะคะจะเติมได้เฉพาะผักและเครื่องเคียงค่ะ
ป.ล. ถึงจะเจอเรื่องหมดสนุกไปแต่ต้องขอชมเพื่อนร่วมทัวร์ค่ะแต่ละคนน่ารักมากค่ะ ^0^ อย่างน้อยในเรื่องร้ายๆก็มีเรื่องน่ารักค่ะ คืออาจจะดูอ่านแล้วงงๆ ไปบ้างคือเราเรียบเรียงไม่เก่งค่ะ ส่วนตัวเรากับเพื่อนไม่คิดจะไปกับทัวร์แล้วค่ะเพราะรู้สึกอึดอัดและรู้สึกเหมือนนักโทษโดนขังคุกค่ะ มาระบายค่ะอยากให้เห็นอีกมุมนึงของทัวร์นะคะ
ป.ล. ลงภาพประกอบค่ะ
ภูเขาฮัลลาซานอันนี้เป็นที่แรกค่ะไกด์ให้เวลาครึ่งชั่วโมงค่ะ
ยอดเขาซองซานอิลซุงโบล ไกด์ให้เวลาหนึ่งชั่วโมงค่ะในการเดินขึ้นเขาชมธรรมชาติ
ส่วนในร้านขายสินค้าที่เค้าพาไปห้ามถ่ายภาพค่ะ และภาพอาหารปกติเราไม่ชอบถ่ายอยู่แล้วค่ะถึงเวลาก็ทานเลยไว้ให้คนที่ไปสัมผัสเองน่ะค่ะ
ว่าเราพูดความจริงหรือไม่