โพลชี้ ผลงาน รบ. 3 เดือน ปราบคอร์รัปชัน มาที่ 1
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธ.ค. 2557 14:00
มาสเตอร์โพลล์ ชี้ ผลงานรัฐบาล 3 เดือน ปราบทุจริตคอร์รัปชันมาอันดับ 1 รองลงมาปราบยาเสพติด ส่วนผลงานที่ยังไม่ชัดเจน คือการแก้ปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรฯ ตกต่ำ
วันที่ 14 ธ.ค. รศ.ดร.เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล ประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน (Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) เรื่อง 3 เดือนรัฐบาลกับความชัดเจนในผลงาน
กรณีศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชน จำนวนทั้งสิ้น 629 ชุมชน โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2557
ผลการสำรวจ เมื่อสอบถามถึงการติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อมวลชนในช่วง 30 วันที่ผ่านมา พบว่า
แกนนำชุมชนส่วนใหญ่เกือบร้อยละร้อย (ร้อยละ 98.3) ระบุติดตามเป็นประจำอย่างน้อย 1-2 วันต่อสัปดาห์
ในขณะที่ ร้อยละ 1.1 ระบุติดตามน้อยกว่าสัปดาห์ละครั้ง
และร้อยละ 0.6 ระบุไม่ได้ติดตามเลย
และเมื่อคณะผู้วิจัยได้สอบถามความคิดเห็นของแกนนำชุมชนถึงผลงานที่เด่นชัด/เป็นรูปธรรมของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผลการสำรวจพบว่า
แกนนำชุมชนร้อยละ 46.0 ระบุ ผลงานด้านการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน
รองลงมา คือ ผลงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด (ร้อยละ 34.0)
การสร้างความเข้าใจกับคนในชาติ การส่งเสริมความสามัคคี การคืนความสุขให้ประชาชน (ร้อยละ 24.1)
นอกจากนี้ แกนนำชุมชนร้อยละ 16.7 ผลงานด้านการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร
ร้อยละ 14.1 ระบุผลงานโดยภาพรวมของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ร้อยละ 8.0 ผลงานด้านการบริหารราชการแผ่นดินโดยภาพรวม ตามลำดับ
ในขณะที่เมื่อสอบถามความคิดเห็นของแกนนำชุมชนต่อไปถึงผลงานที่ยังไม่เห็นความชัดเจนเป็นรูปธรรมนั้น พบว่า
ร้อยละ 34.1 ระบุการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ
ร้อยละ 24.3 ระบุการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
ร้อยละ 8.6 ระบุ การป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้าง
ร้อยละ 8.6 เช่นเดียวกันที่ระบุการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม
ร้อยละ 6.4 ระบุการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ร้อยละ 5.8 ระบุการยุติความขัดแย้งและการสร้างความปรองดอง
และร้อยละ 15.7 ระบุอื่นๆ อาทิ ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ การร่างรัฐธรรมนูญ การปรับปรุงการคมนาคมและถนนหนทาง การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน เป็นต้น
สำหรับความคิดเห็นของแกนนำชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในหมู่บ้านชุมชนของตนเองนั้นพบว่า
ร้อยละ 33.1 ระบุชาวบ้านมีความสุขมากขึ้น
ร้อยละ 54.6 ระบุมีความสุขเหมือนเดิม
ร้อยละ 9.1 ระบุ เดือดร้อนเหมือนเดิม
และร้อยละ 3.2 ระบุเดือดร้อนมากขึ้น
ประเด็นสำคัญที่น่าพิจารณาต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น เมื่อคณะผู้วิจัยได้สอบถามความคิดเห็นของแกนนำชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของประเทศในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งผลการสำรวจพบว่า
ประมาณ 1 ใน 3 หรือ ร้อยละ 38.1 ระบุคิดว่า เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น
ในขณะที่ร้อยละ 42.5 ระบุดีเหมือนเดิม
ร้อยละ 14.5 ระบุแย่เหมือนเดิม
และร้อยละ 4.9 ระบุแย่ลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศนั้น พบว่า
แกนนำชุมชน ร้อยละ 51.4 ระบุเชื่อมั่นมาก-มากที่สุด
ร้อยละ 33.2 ระบุค่อนข้างเชื่อมั่น
ในขณะที่ร้อยละ 12.8 ระบุไม่ค่อยเชื่อมั่น-ไม่เชื่อมั่น
และร้อยละ 2.6 ระบุไม่เชื่อมั่นเลย
http://www.thairath.co.th/content/469023
โพลชี้ ผลงาน รบ. 3 เดือน ปราบคอร์รัปชัน มาที่ 1 (เช็กเรตติ้งรัฐบาลจากผลสำรวจ จำนวน 629 แกนนำชุมนุม)
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธ.ค. 2557 14:00
มาสเตอร์โพลล์ ชี้ ผลงานรัฐบาล 3 เดือน ปราบทุจริตคอร์รัปชันมาอันดับ 1 รองลงมาปราบยาเสพติด ส่วนผลงานที่ยังไม่ชัดเจน คือการแก้ปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรฯ ตกต่ำ
วันที่ 14 ธ.ค. รศ.ดร.เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล ประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน (Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) เรื่อง 3 เดือนรัฐบาลกับความชัดเจนในผลงานกรณีศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชน จำนวนทั้งสิ้น 629 ชุมชน โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2557
ผลการสำรวจ เมื่อสอบถามถึงการติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อมวลชนในช่วง 30 วันที่ผ่านมา พบว่า
แกนนำชุมชนส่วนใหญ่เกือบร้อยละร้อย (ร้อยละ 98.3) ระบุติดตามเป็นประจำอย่างน้อย 1-2 วันต่อสัปดาห์
ในขณะที่ ร้อยละ 1.1 ระบุติดตามน้อยกว่าสัปดาห์ละครั้ง
และร้อยละ 0.6 ระบุไม่ได้ติดตามเลย
และเมื่อคณะผู้วิจัยได้สอบถามความคิดเห็นของแกนนำชุมชนถึงผลงานที่เด่นชัด/เป็นรูปธรรมของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผลการสำรวจพบว่า
แกนนำชุมชนร้อยละ 46.0 ระบุ ผลงานด้านการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน
รองลงมา คือ ผลงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด (ร้อยละ 34.0)
การสร้างความเข้าใจกับคนในชาติ การส่งเสริมความสามัคคี การคืนความสุขให้ประชาชน (ร้อยละ 24.1)
นอกจากนี้ แกนนำชุมชนร้อยละ 16.7 ผลงานด้านการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร
ร้อยละ 14.1 ระบุผลงานโดยภาพรวมของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ร้อยละ 8.0 ผลงานด้านการบริหารราชการแผ่นดินโดยภาพรวม ตามลำดับ
ในขณะที่เมื่อสอบถามความคิดเห็นของแกนนำชุมชนต่อไปถึงผลงานที่ยังไม่เห็นความชัดเจนเป็นรูปธรรมนั้น พบว่า
ร้อยละ 34.1 ระบุการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ
ร้อยละ 24.3 ระบุการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
ร้อยละ 8.6 ระบุ การป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้าง
ร้อยละ 8.6 เช่นเดียวกันที่ระบุการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม
ร้อยละ 6.4 ระบุการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ร้อยละ 5.8 ระบุการยุติความขัดแย้งและการสร้างความปรองดอง
และร้อยละ 15.7 ระบุอื่นๆ อาทิ ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ การร่างรัฐธรรมนูญ การปรับปรุงการคมนาคมและถนนหนทาง การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน เป็นต้น
สำหรับความคิดเห็นของแกนนำชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในหมู่บ้านชุมชนของตนเองนั้นพบว่า
ร้อยละ 33.1 ระบุชาวบ้านมีความสุขมากขึ้น
ร้อยละ 54.6 ระบุมีความสุขเหมือนเดิม
ร้อยละ 9.1 ระบุ เดือดร้อนเหมือนเดิม
และร้อยละ 3.2 ระบุเดือดร้อนมากขึ้น
ประเด็นสำคัญที่น่าพิจารณาต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น เมื่อคณะผู้วิจัยได้สอบถามความคิดเห็นของแกนนำชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของประเทศในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งผลการสำรวจพบว่า
ประมาณ 1 ใน 3 หรือ ร้อยละ 38.1 ระบุคิดว่า เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น
ในขณะที่ร้อยละ 42.5 ระบุดีเหมือนเดิม
ร้อยละ 14.5 ระบุแย่เหมือนเดิม
และร้อยละ 4.9 ระบุแย่ลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศนั้น พบว่า
แกนนำชุมชน ร้อยละ 51.4 ระบุเชื่อมั่นมาก-มากที่สุด
ร้อยละ 33.2 ระบุค่อนข้างเชื่อมั่น
ในขณะที่ร้อยละ 12.8 ระบุไม่ค่อยเชื่อมั่น-ไม่เชื่อมั่น
และร้อยละ 2.6 ระบุไม่เชื่อมั่นเลย
http://www.thairath.co.th/content/469023