สอบถามปัญหาข้อกฎหมาย ระหว่างศาล กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าครับ
ผมมีปัญหาเรื่องการเลิกบริษัทฯขอรบกวนปรึกษาแนวทางการต่อสู้ครับ...
ความเป็นมา
1. เกิดกรณีพิพาทระหว่างผู้ถือหุ้นจนกระทั่ง ในเดือน กพ. 57 คู่ความทั้งสองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาล และศาลมีคำพิพากษาตามยอมโดยมีเนื้อหาหลักคือ คู่ความทั้งสองฝ่ายตกลงกันให้ชำระบัญชีแบ่งทรัพย์ไปตามส่วนของผู้ถือหุ้น ภายใน 6 เดือน
2. เวลาผ่านไปเกือบ 6 เดือนคู่ความบ่ายเบี่ยงในการทำตามสัญญามาโดยตลอด เรียกมาประชุมเพื่องมติเลิกก็ไม่มา ส่งเอกสาร ลช.1 ก็ไม่เซ็นทางผมจึงลาออกจากการเป็นกรรมการเพื่อแสดงเจตนา และจึงได้ยื่นเรื่องไปที่ศาลเพื่อขอบังคับคดี
3. ศาลรับเรื่อง เดือน กย. 57 วันนัดคู่ความไม่มา ศาลจึงออกกระบวนการพิจารณา ศาลบอกว่าไม่จำเป็นต้องบังคับคดี สามารถทำได้โดยให้ทางผมไปจดเลิกบริษัทฯ ได้ด้วยตนเอง โดยการพิจารณาศาลอ้างถึง ปพพ.มาตรา 213 วรรค 2 ศาลบอกว่าการที่คู่ความไม่มาศาลตามหมาย ให้ถือว่าทราบและยอมรับตามการพิจารณานั้น
4. เมื่อคู่ความไปคัดกระบวนการพิจารณาและทราบเรื่อง จึงได้ไปยื่นเรื่องคัดค้าน ไม่ใช่ที่ศาล แต่เป็นการยื่นเรื่องคัดค้านที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสมุทรสาคร
5. กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ออกจดหมายแจ้งให้ทราบว่า ทางกรมไม่สามารถจดปิดตามที่ทางผมยื่นเรื่องปิดบริษัทได้ เนื่องจากจะทำให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นเสียหาย (ตามคำร้องของฝ่ายคู่ความ) ทั้งที่ผมได้แนบกระบวนพิจารณาที่ศาลออกให้ไปด้วย โดยกรมพัฒนาธุกิจการค้าอ้าง ปพพ. มาตรา 1236, 1237 และ 1254 ทั้งที่กรณีการเลิกบริษัทฯนั้น เป็นการตกลงกันที่ทุกฝ่ายเซ็นยินยอม ตั้งแต่เดือน กพ. 57 อีกทั้งยังมีคำพิพากษาตามยอม และศาลได้พิจารณาซ้ำอีกครั้งแล้ว ให้ผลไปในแนวทางเดิมคือเลิกบริษัทฯ
** ข้อพิจารณาของผม ซึ่งเป็นผู้เสียหายคือกรณีนี้ที่คู่ความนำ ปพพ. มาตรา 1236, 1237 และ 1254 ไปอ้างต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่เข้าเงือนไข เลย เพราะว่าเป็นกรณีนี้พิพาทและมีการทำสัญญายอม และศาลได้ตัดสินพิพากษาตามยอมไปแล้ว โดยอ้างมาตรา 213 วรรค 2
** ผมควรทำอย่างไรครับ ? หรือว่าผมต้องยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อบังคับคดีได้ไหมครับ
** และการที่คู่ความรับทราบกระบวนพิจารณาของศาลแต่ไปร้องคัดค้านที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สามารถทำได้หรือไม่ครับ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลักๆแบบช้าวบ้านก็คือ คนเราไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้แล้ว ศาลก็เห็นด้วยแล้ว แต่กรมพัฒน์สามารถให้คนไม่อยากอยู่ด้วยกันมาอยู่ด้วยกันได้ด้วยหรือครับ...หากมีข้อชี้แนะรบกวนด้วยนะครับ
สอบถามปัญหาข้อกฎหมาย ที่ขัดแย้งระหว่างศาล กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าครับ
ผมมีปัญหาเรื่องการเลิกบริษัทฯขอรบกวนปรึกษาแนวทางการต่อสู้ครับ...
ความเป็นมา
1. เกิดกรณีพิพาทระหว่างผู้ถือหุ้นจนกระทั่ง ในเดือน กพ. 57 คู่ความทั้งสองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาล และศาลมีคำพิพากษาตามยอมโดยมีเนื้อหาหลักคือ คู่ความทั้งสองฝ่ายตกลงกันให้ชำระบัญชีแบ่งทรัพย์ไปตามส่วนของผู้ถือหุ้น ภายใน 6 เดือน
2. เวลาผ่านไปเกือบ 6 เดือนคู่ความบ่ายเบี่ยงในการทำตามสัญญามาโดยตลอด เรียกมาประชุมเพื่องมติเลิกก็ไม่มา ส่งเอกสาร ลช.1 ก็ไม่เซ็นทางผมจึงลาออกจากการเป็นกรรมการเพื่อแสดงเจตนา และจึงได้ยื่นเรื่องไปที่ศาลเพื่อขอบังคับคดี
3. ศาลรับเรื่อง เดือน กย. 57 วันนัดคู่ความไม่มา ศาลจึงออกกระบวนการพิจารณา ศาลบอกว่าไม่จำเป็นต้องบังคับคดี สามารถทำได้โดยให้ทางผมไปจดเลิกบริษัทฯ ได้ด้วยตนเอง โดยการพิจารณาศาลอ้างถึง ปพพ.มาตรา 213 วรรค 2 ศาลบอกว่าการที่คู่ความไม่มาศาลตามหมาย ให้ถือว่าทราบและยอมรับตามการพิจารณานั้น
4. เมื่อคู่ความไปคัดกระบวนการพิจารณาและทราบเรื่อง จึงได้ไปยื่นเรื่องคัดค้าน ไม่ใช่ที่ศาล แต่เป็นการยื่นเรื่องคัดค้านที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสมุทรสาคร
5. กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ออกจดหมายแจ้งให้ทราบว่า ทางกรมไม่สามารถจดปิดตามที่ทางผมยื่นเรื่องปิดบริษัทได้ เนื่องจากจะทำให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นเสียหาย (ตามคำร้องของฝ่ายคู่ความ) ทั้งที่ผมได้แนบกระบวนพิจารณาที่ศาลออกให้ไปด้วย โดยกรมพัฒนาธุกิจการค้าอ้าง ปพพ. มาตรา 1236, 1237 และ 1254 ทั้งที่กรณีการเลิกบริษัทฯนั้น เป็นการตกลงกันที่ทุกฝ่ายเซ็นยินยอม ตั้งแต่เดือน กพ. 57 อีกทั้งยังมีคำพิพากษาตามยอม และศาลได้พิจารณาซ้ำอีกครั้งแล้ว ให้ผลไปในแนวทางเดิมคือเลิกบริษัทฯ
** ข้อพิจารณาของผม ซึ่งเป็นผู้เสียหายคือกรณีนี้ที่คู่ความนำ ปพพ. มาตรา 1236, 1237 และ 1254 ไปอ้างต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่เข้าเงือนไข เลย เพราะว่าเป็นกรณีนี้พิพาทและมีการทำสัญญายอม และศาลได้ตัดสินพิพากษาตามยอมไปแล้ว โดยอ้างมาตรา 213 วรรค 2
** ผมควรทำอย่างไรครับ ? หรือว่าผมต้องยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อบังคับคดีได้ไหมครับ
** และการที่คู่ความรับทราบกระบวนพิจารณาของศาลแต่ไปร้องคัดค้านที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สามารถทำได้หรือไม่ครับ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลักๆแบบช้าวบ้านก็คือ คนเราไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้แล้ว ศาลก็เห็นด้วยแล้ว แต่กรมพัฒน์สามารถให้คนไม่อยากอยู่ด้วยกันมาอยู่ด้วยกันได้ด้วยหรือครับ...หากมีข้อชี้แนะรบกวนด้วยนะครับ