[CR] Review: Thai Air Asia X – Business Class

เมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมา ผมและเพื่อนได้มีโอกาสนั่ง Air Asia X จากนาริตะ มากรุงเทพฯ ด้วย Business Class ด้วยการจองเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ซึ่งผมและเพื่อนวางแผนเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น โดยตั้งใจว่าจะใช้สายการบิน Air Asia X มีแผนเที่ยวหลักที่เป็น a must คือ Universal Studio Japan และ Disney Sea จริงๆแล้ว หากจะให้คุ้มค่าการเดินทาง น่าจะเดินทางมาที่โตเกียวก่อน และกลับจากโอซาก้า เนื่องจากเดินทางกลางคืน ประหยัดค่าโรงแรม เที่ยวได้เต็มๆ กว่า แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่างที่เรามีภารกิจสำคัญอยู่วันเกือบสุดท้ายที่โตเกียว ประกอบกับวันลาของชาวคณะ ทำให้เราต้องจำเป็นต้องเดินทางมาโอซาก้าก่อน และกลับจากโตเกียวแทน

ขาไป DMK-KIX เราจองได้โปรถูกสุด ณ ช่วงนั้น คือ 3,990 ++ รวมอาหาร น้ำหนัก ค่าเลือกที่นั่ง และค่าธรรมเนียมต่างๆแล้ว จ่ายไปประมาณ 5,300 ส่วนขากลับ NRT-DMK เราเช็คราคา Economy ได้ที่ประมาณ 7,500++ แล้วก็น่าจะประมาณ แปดพันกว่าบาทไม่เกินเก้าพัน รวมกันก็แถวๆ 14K ต้นๆ ราคาก็รับได้ ถูกกว่าบินต่อพวก China Eastern ที่เคยไปมา แต่ตอนนั้นสายตาก็ไปเห็นราคา Business Class ซึ่งปกติจะไม่ได้ดูเลย เห็นราคาที่ประมาณ 9 พันต้นๆ เท่านั้น! สมองเริ่มคำนวณทันที ถ้าจอง Economy บวก คชจ.ต่างๆแล้ว มันก็อยู่แถวๆ เก้าพันแน่ๆ เทียบกับ Business รวมทุกอย่างแล้วทั้งอาหาร น้ำหนักถึง 40kg เลือกที่นั่งได้ มีค่าธรรมเนียมอื่นๆ อีกนิดหน่อยเท่านั้น เลยตัดสินใจจอง Business ทันที จ่ายคนละประมาณ 9,800 บาท เบ็ดเสร็จค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ ประมาณ 15,xxx แถมยังได้ Business Class ขากลับ คุ้มมาก



ได้เวลาเดินทางกลับ เราออกจากในเมืองมาด้วยรถไฟ Skyliner ซึ่งเราซื้อ online จากเว็บมาตั้งแต่อยู่เมืองไทยในราคา 2,200Yen จากปกติ 2,490Yen โดยมาแลกตั๋วจริงที่สถานี การแลกตั๋วที่ซื้อ online ต้องแสดงพาสปอร์ตทุกคนด้วย เพราะราคานี้ขายนักท่องเที่ยวเท่านั้น  เราใช้บริการ Skyliner  เที่ยวแรกจากสถานี Nippori เวลา 6:03 ถึง Narita Terminal 2  6:39 แล้วก็ขึ้นไปเช็คอิน

เพิ่งเคยใช้บริการ Air Asia X ที่นาริตะเป็นครั้งแรก งงเล็กน้อยกับ Row N ซึ่งไม่ได้อยู่ในแถวเหมือนชาวบ้านเค้า หากแต่อยู่พื้นที่ติดกระจกนอกอาคารเหมือนพื้นที่ต่อเติมพิเศษ เดินมาถึงก็พบแถวเช็คอินเฉพาะของ Business Class เป็นพรมแดงเลยเชียว ก็เดินสวยๆ เข้าไปต่อเป็นคิวแรก เสร็จอย่างรวดเร็ว





ได้เวลาขึ้นเครื่อง ก็ได้เป็น First Priority เข้าเป็นกลุ่มแรก เดินเข้างวงไปแบบไม่มีฝูงชน และเลี้ยวซ้ายเข้าประตูแรก แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ทุกทีจะต้องเดินเลยไปเข้าประตูสอง มาถึงที่นั่ง เก็บของขึ้นข้างบน โอ้ที่เก็บของโล่งมาก ไม่ต้องลุ้นว่าจะมีใครเอาถุง duty free มายัดช่องบนหัวเราหรือไม่ แบบ Economy  ^^



เราพบว่า เราเป็นผู้โดยสารคนไทยเพียง 3 คนเท่านั้นในชั้น Business คนอื่นอีก 9 คน ล้วนแล้วแต่เป็นคนญี่ปุ่น ไม่รู้ว่าจองกันมาราคาเท่าไรบ้าง รู้แต่ว่าหลังจากเราจองไปแล้วมีที่นั่งว่างอยู่ 5-6 ที่ นานๆ แบบไม่ขยับเลยเป็นเดือน ซึ่งช่วงนั้นราคาขึ้นมาเป็นเท่าตัวเลย

เก้าอี้ Business Class มีทั้งหมด 12 ที่นั่ง จัดเป็นคู่ๆ 2-2-2  แต่ละคู่มีแผ่นกั้นระหว่างกลาง ที่สามารถดึงมากั้นส่วนบังสายตากันได้หากต้องการความเป็นส่วนตัว กรณีนั่งกับคนไม่รู้จัก



ระยะห่างช่องวางเท้า กว้างขวางเหลือเฟือ



ที่นั่งมองเห็นหน้าต่างถึง 2 บานครึ่ง



แจกหมอนและผ้าห่มผืนใหญ่ ไม่คิดเงินเพิ่ม



ที่นั่งปรับด้วยไฟฟ้า ปุ่ม 3 ปุ่มด้านล่างซ้าย ปรับแบบสำเร็จรูปตั้งค่าไว้ล่วงหน้าแล้ว มีแบบตั้งตรง นอนเอน และนอนราบ ต้องกดปุ่มค้างไว้ จนกว่ามันจะปรับให้เสร็จ และยังสามารถปรับแบบ customize เอง ได้ด้วย ตามปุ่มที่เห็นตามรูปที่นั่ง ปรับได้ทั้งพนัก ที่รองขา ที่รองเท้า สะดวกดีมาก ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ต้องปรับแต่งเอง จึงจะได้ท่าที่สบายที่สุด ถ้าเลือกนอนราบ 170 องศา คิดว่ามันนอนไม่ค่อยสบายนัก เนื่องจากมันไหลลง ท่าที่สบายที่สุดคือ ท่านอนเอน แต่ไม่ต้องราบสุด เอนพอที่จะมีหลุมที่ก้นให้ล็อกตัวเองไม่ให้ไหล องศาการเอนทั้งพนักและขา ก็ตามใจชอบ



ด้านข้างเท้าแขน เป็นที่เก็บถาด และมีช่องเก็บขวดน้ำให้ด้วย ถาดพับได้แบบครึ่งเดียว และแบบเต็มถาด





อาหารมาเป็น set ต่างจาก Economy คือ สั่งแค่ไหน มาแค่นั้น  อันนี้มาทั้งชุด ไม่ต้องเพิ่มเงิน แต่มันก็เหมือนกับสายการบินที่ไม่ใช่ low cost อยู่แล้วล่ะ  พวกผมสั่งสปาเกตตี้ไก่สับ ซึ่งเสริ์ฟมาพร้อมกับสลัดถ้วยเล็ก ครัวซอง เครื่องดื่ม และมี Sneaker เป็นของหวาน ซึ่งผมเก็บไว้กินตอนก่อนลงจากเครื่องช่วงบ่ายๆ เนื่องจากอาหารมีเสริฟตอนเช้ามื้อเดียว  แต่พวกน้ำดื่ม เครื่องดื่มต่างๆ ขอได้ตลอด ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเลย คือ ทำตัวเหมือนผู้โดยสารสายการบินปกติได้เลยครับ สำหรับชั้น business class



โดยภาพรวมการบริการ ทั้งแอร์ และ facilities ที่ได้รับ ถือว่าดีและประทับใจครับ  แม้จะเทียบเท่า Business ของสายการบินปกติไม่ได้ ในด้านอาหาร หรือ In-Flight Entertainment แต่ความคุ้มค่าในระดับราคาเที่ยวละ 9800 ต่อคน ถือว่าคุ้มมาก แค่ที่นั่งก็คุ้มแล้วครับ เทียบกับสายการบินปกติ ราคานี้คงได้แค่ Economy  ความคุ้มที่สุด ก็คือ การได้นอนอย่างสบาย มากๆ เพื่อนร่วมทริปทุกคนหลับได้อย่างเต็มอิ่ม สบายสุดๆ แต่ถ้าไม่ได้ราคาโปรโมชั่น ก็คงยากที่จะเลือกเหมือนกัน ความเห็นส่วนตัวคิดว่า  ถ้าได้มาในระดับราคาไม่เกินหมื่นต้นๆ ต่อเที่ยว ก็น่าลองซักครั้ง
ชื่อสินค้า:   AirAsia X
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่