จากมติชนออนไลน์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ค เปิดเผยว่า เฟซบุ๊ค กำลังพิจารณาว่าอาจจะนำเอา "ปุ่มไม่ชอบ" หรือ "dislike" มาใช้ รวมทั้งปุ่มอื่น ๆ ที่อาจจำเป็นต้องถูกนำมาใช้ในอนาคตข้างหน้า เพื่อให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กสามารถแสดงออกถึงอารมณ์ของพวกเขาได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฟซบุ๊คกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ เพราะมีหลากหลายอารมณ์ของผู้คนที่แสดงออกมา ไม่ใช่แค่เพียง "ชอบ" หรือ "ไม่ชอบ" เท่านั้น
ขณะเดียวกัน นายมาร์ค กล่าวด้วยว่า ปุ่มไลค์ก็ดูไม่เหมาะสม กับกระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องเศร้าหรือการสูญเสีย ที่เกี่ยวกับชีวิตผู้คนทั้งในแง่วัฒนธรรมและสังคม และการกดปุ่มไลค์ในสถานการณ์เช่นนี้ ถือว่าไม่ถูกกาละเทศะและไม่เหมาะสมด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าพ่อเฟซบุ๊คกกล่าวด้วยว่า จริง ๆ เขาไม่คิดว่า ปุ่มไม่ชอบเป็นสิ่งที่ดีสำหรับโลกนี้ เพราะมันอาจนำไปสู่การทะเลาะวิวาท หรือการโต้เถียงระหว่างเจ้าของโพสต์และเพื่อน ๆ ได้ แต่เฟซบุ๊คกำลังพยายามหาทางดูว่า เราจะสามารถนำเสนอ "สัญลักษณ์" ของอารมณ์ที่หลากหลายของผู้คนได้อย่างไร รวมทั้งการพิจารณาถึงการใช้ปุ่มที่แสดงอารมณ์อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น ปุ่มแปลกใจ ปุ่มหัวเราะ ปุ่มเห็นอกเห็นใจ และเฟซบุ๊คจำเป็นจะต้องใช้วิธีการที่ถูกต้องเพื่อให้ผู้คนไม่เหยียดหยามกระทู้ของคนอื่น
รายงานระบุว่า การประกาศนี้ถือเป็นการพลิกลำของเฟซบุ๊คที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศว่า จะไม่นำปุ่ม "ไม่ชอบ" มาใช้ เพราะประเมินว่าน่าจะเกิดผลเสียที่จะตามมา มากกว่าผลดีที่จะเกิดขึ้น
ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากเฟซบุ๊คนำปุ่ม "ไม่ชอบ" มาใช้ ก็ถือว่าเสี่ยงที่จะกระทบ "การแท็กหรือการโฆษณาสินค้า" ที่จะได้รับผลกระทบการแสดงความรู้สึกไม่ชอบของผู้คน ซึ่งนั่นจะกระทบต่อการใช้เฟซบุ๊คในแง่การตลาด รวมทั้งผู้สนับสนุนโฆษณาของเฟซบุ๊คเองด้วย
เฟซบุ๊ค"คิดหนัก"โจทย์ยาก อยากนำ"ปุ่ม"ไม่ชอบ"มาใช้ แต่ไม่รู้วิธี เลี่ยงกระทบ"ความรู้สึกผู้คน"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ค เปิดเผยว่า เฟซบุ๊ค กำลังพิจารณาว่าอาจจะนำเอา "ปุ่มไม่ชอบ" หรือ "dislike" มาใช้ รวมทั้งปุ่มอื่น ๆ ที่อาจจำเป็นต้องถูกนำมาใช้ในอนาคตข้างหน้า เพื่อให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กสามารถแสดงออกถึงอารมณ์ของพวกเขาได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฟซบุ๊คกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ เพราะมีหลากหลายอารมณ์ของผู้คนที่แสดงออกมา ไม่ใช่แค่เพียง "ชอบ" หรือ "ไม่ชอบ" เท่านั้น
ขณะเดียวกัน นายมาร์ค กล่าวด้วยว่า ปุ่มไลค์ก็ดูไม่เหมาะสม กับกระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องเศร้าหรือการสูญเสีย ที่เกี่ยวกับชีวิตผู้คนทั้งในแง่วัฒนธรรมและสังคม และการกดปุ่มไลค์ในสถานการณ์เช่นนี้ ถือว่าไม่ถูกกาละเทศะและไม่เหมาะสมด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าพ่อเฟซบุ๊คกกล่าวด้วยว่า จริง ๆ เขาไม่คิดว่า ปุ่มไม่ชอบเป็นสิ่งที่ดีสำหรับโลกนี้ เพราะมันอาจนำไปสู่การทะเลาะวิวาท หรือการโต้เถียงระหว่างเจ้าของโพสต์และเพื่อน ๆ ได้ แต่เฟซบุ๊คกำลังพยายามหาทางดูว่า เราจะสามารถนำเสนอ "สัญลักษณ์" ของอารมณ์ที่หลากหลายของผู้คนได้อย่างไร รวมทั้งการพิจารณาถึงการใช้ปุ่มที่แสดงอารมณ์อื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น ปุ่มแปลกใจ ปุ่มหัวเราะ ปุ่มเห็นอกเห็นใจ และเฟซบุ๊คจำเป็นจะต้องใช้วิธีการที่ถูกต้องเพื่อให้ผู้คนไม่เหยียดหยามกระทู้ของคนอื่น
รายงานระบุว่า การประกาศนี้ถือเป็นการพลิกลำของเฟซบุ๊คที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศว่า จะไม่นำปุ่ม "ไม่ชอบ" มาใช้ เพราะประเมินว่าน่าจะเกิดผลเสียที่จะตามมา มากกว่าผลดีที่จะเกิดขึ้น
ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากเฟซบุ๊คนำปุ่ม "ไม่ชอบ" มาใช้ ก็ถือว่าเสี่ยงที่จะกระทบ "การแท็กหรือการโฆษณาสินค้า" ที่จะได้รับผลกระทบการแสดงความรู้สึกไม่ชอบของผู้คน ซึ่งนั่นจะกระทบต่อการใช้เฟซบุ๊คในแง่การตลาด รวมทั้งผู้สนับสนุนโฆษณาของเฟซบุ๊คเองด้วย