ดราม่าบอลไทย! บัตร 50,000 ใบเกลี้ยง - แฟนขู่ล่า "แก๊งตั๋วผี" ข้างสนาม
สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง และกระแสแรงไม่แพ้ตั๋วคอนเสิร์ตเลยทีเดียว สำหรับนัดชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอล ซูซูกิ คัพ นัดแรก ในวันพุธที่ 17 ธันวาคม ระหว่างทีม "ช้างศึก" ไทย พบคู่ปรับตัวฉกาจอย่างเสือเหลือง "มาเลเซีย" ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน จากกระแสตื่นตัวกระพือแรงตั้งแต่รอบรองชนะเลิศ ที่มีแฟนบอลเข้าชมเต็มความจุ และตั๋วเข้าชมที่หายากเข้าขั้น "สมบัติล้ำค่า" ลากยาวถึงนัดชิงชนะเลิศ ที่คาดว่าจะแรงต่อเนื่อง และก็เป็นไปตามนั้น เมื่อตั๋วถูกจับจองขายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง หลังเปิดขายภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง จากทุกช่องทางของไทยทิคเก็ตเมเจอร์
หลังจากออกประกาศว่า ตั๋วนัดชิงจะขายในวันที่ 12 ธันวาคม (วันนี้) 10.00 น. ทำให้มีกระแสให้ความสนใจอย่างมาก ทั้งจากแฟนประจำ คนที่เข้าเชียร์ในรอบรองชนะเลิศ และคนที่พลาดตั๋วในรอบที่ผ่านมา ทั้งนี้ กระแสดังกล่าวได้ต่อยอดมาตั้งแต่ศึกเอเชียนเกมส์ ภายใต้การคุมบังเหียนของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ปลุกให้กระแสบอลไทยคืนชีพอีกครั้ง ทำให้กระแสการซื้อ-จองบัตรในรอบนี้ คึกคักเป็นอย่างมาก และล่าสุด ตั๋วรอบชิงใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนที่ทางหน้าเว็บไซต์ และจุดจำหน่ายจะขึ้นว่า Sold Out ถูกจับจองหมดแล้วทุกที่นั่ง และทุกโซน
หลายคนอาจมีความหวังเหมือนที่ผ่านมา คือการจองผ่านเว็บไซต์หากไม่โอนเงินภายในเวลาที่กำหนด บัตรจะทยอยหลุดมาให้สอยบ้าง แต่จนแล้วจนรอดเหมือนคนที่เคยพลาดครั้งแรกจะรู้ตัวทำให้ไม่มีบัตรเล็ดลอดออกมาให้เห็นแม้แต่ใบเดียว
แฟนบอลรายหนึ่งกล่าวว่าตนได้เข้าจองทางเว็บไซต์ตอนเปิดขายทันทีและจัดการความเป็นเจ้าของ3 ที่นั่ง แต่หลังจากนั้นอีกราวครึ่งชั่วโมง เนื่องจากยังเหลือสิทธิ์ซื้อได้อีก 3 ที่นั่ง (1 ยูสเซอร์ซื้อได้ 6ใบ) จึงอยากใช้สิทธิ์ให้ครบแต่ปรากฏว่าภายในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงตั๋วทุกที่นั่งถูกจับจองหมดแล้ว
ในกระแสออนไลน์มีการออกมาวิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนักถึงขนาดทำสถิติการซื้อออกมาเปิดโปงว่าจำนวนที่นั่งบวกกับจำนวนสาขาที่สามารถต่อแถวซื้อที่จำกัดและเฉลี่ยในการต่อแถวซื้อใช้เวลาราว 30 วินาทีถึง 1 นาที เมื่อรวมกับจำนวนการจองผ่านเว็บไซต์ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงครึ่งบัตรจึงจะหมด
แต่ครั้งนี้ใช้เวลาเพียง30 นาทีเศษ นั่นหมายความว่าทุกสาขาที่เปิดให้เข้าแถวจองจะซื้อได้เพียง 30 กว่าคนเท่านั้น จากคนต่อคิวจำนวนหลายร้อยจนไปถึงหลักพันคน การที่มายืนต่อแถวแล้วหมดเพียงแค่ไม่ถึง 40 คนแรกยากที่จะรับได้อยู่แล้ว แต่ยิ่งช้ำใจกว่านั้นคือผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง มีบัตรเข้าชมประกาศขายอย่างโจ่งแจ้งผ่านเว็บซื้อ-ขายออนไลน์ในราคาพุ่งพรวดจาก150 ไปแตะที่ 1,200 บาท
จึงไม่แปลกที่เหล่าแฟนคลับตัวจริงจะตั้งแง่ว่าการปล่อยบัตรครั้งนี้อาจมีการทำงานเป็นขบวนการ เพื่อโก่งราคา จนเป็นที่มาของการโพสต์ข้อความขู่อาฆาตของแฟนบอลที่ยืนรอตั้งแต่เช้ากลับพลาดเข้าชมถึงคนที่นำตั๋วมาปล่อยหน้าสนามให้ระวังตัวอาจโดนกลุ่มแฟนบอลไทยบางรายมอบของชำร่วยหน้าสนามอย่างสาสมใจ
ไม่บ่อยนักที่แฟนบอลไทยจะคลั่งกับทีมชาติขนาดนี้ตลอดชีวิตที่ผ่านมาแทบจะนับครั้งได้ จริงหรือไม่ว่ามีกลุ่มผู้เห็นแก่ประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องจ้องหากินกับศรัทธาแฟนชาวไทย จริงหรือไม่ที่เรื่องเหล่านี้อาจสร้างปัญหาบานปลายให้กับวงการฟุตบอลสยาม ไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้คือความเกลียดชังเริ่มก่อตัวแล้ว
ที่มา :
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE9ETTRPREV6TXc9PQ%3D%3D
ดราม่าบอลไทย! บัตร 50,000 ใบเกลี้ยง - แฟนขู่ล่า "แก๊งตั๋วผี" ข้างสนาม
สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง และกระแสแรงไม่แพ้ตั๋วคอนเสิร์ตเลยทีเดียว สำหรับนัดชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอล ซูซูกิ คัพ นัดแรก ในวันพุธที่ 17 ธันวาคม ระหว่างทีม "ช้างศึก" ไทย พบคู่ปรับตัวฉกาจอย่างเสือเหลือง "มาเลเซีย" ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน จากกระแสตื่นตัวกระพือแรงตั้งแต่รอบรองชนะเลิศ ที่มีแฟนบอลเข้าชมเต็มความจุ และตั๋วเข้าชมที่หายากเข้าขั้น "สมบัติล้ำค่า" ลากยาวถึงนัดชิงชนะเลิศ ที่คาดว่าจะแรงต่อเนื่อง และก็เป็นไปตามนั้น เมื่อตั๋วถูกจับจองขายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง หลังเปิดขายภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง จากทุกช่องทางของไทยทิคเก็ตเมเจอร์
หลังจากออกประกาศว่า ตั๋วนัดชิงจะขายในวันที่ 12 ธันวาคม (วันนี้) 10.00 น. ทำให้มีกระแสให้ความสนใจอย่างมาก ทั้งจากแฟนประจำ คนที่เข้าเชียร์ในรอบรองชนะเลิศ และคนที่พลาดตั๋วในรอบที่ผ่านมา ทั้งนี้ กระแสดังกล่าวได้ต่อยอดมาตั้งแต่ศึกเอเชียนเกมส์ ภายใต้การคุมบังเหียนของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ปลุกให้กระแสบอลไทยคืนชีพอีกครั้ง ทำให้กระแสการซื้อ-จองบัตรในรอบนี้ คึกคักเป็นอย่างมาก และล่าสุด ตั๋วรอบชิงใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนที่ทางหน้าเว็บไซต์ และจุดจำหน่ายจะขึ้นว่า Sold Out ถูกจับจองหมดแล้วทุกที่นั่ง และทุกโซน
หลายคนอาจมีความหวังเหมือนที่ผ่านมา คือการจองผ่านเว็บไซต์หากไม่โอนเงินภายในเวลาที่กำหนด บัตรจะทยอยหลุดมาให้สอยบ้าง แต่จนแล้วจนรอดเหมือนคนที่เคยพลาดครั้งแรกจะรู้ตัวทำให้ไม่มีบัตรเล็ดลอดออกมาให้เห็นแม้แต่ใบเดียว
แฟนบอลรายหนึ่งกล่าวว่าตนได้เข้าจองทางเว็บไซต์ตอนเปิดขายทันทีและจัดการความเป็นเจ้าของ3 ที่นั่ง แต่หลังจากนั้นอีกราวครึ่งชั่วโมง เนื่องจากยังเหลือสิทธิ์ซื้อได้อีก 3 ที่นั่ง (1 ยูสเซอร์ซื้อได้ 6ใบ) จึงอยากใช้สิทธิ์ให้ครบแต่ปรากฏว่าภายในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงตั๋วทุกที่นั่งถูกจับจองหมดแล้ว
ในกระแสออนไลน์มีการออกมาวิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนักถึงขนาดทำสถิติการซื้อออกมาเปิดโปงว่าจำนวนที่นั่งบวกกับจำนวนสาขาที่สามารถต่อแถวซื้อที่จำกัดและเฉลี่ยในการต่อแถวซื้อใช้เวลาราว 30 วินาทีถึง 1 นาที เมื่อรวมกับจำนวนการจองผ่านเว็บไซต์ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงครึ่งบัตรจึงจะหมด
แต่ครั้งนี้ใช้เวลาเพียง30 นาทีเศษ นั่นหมายความว่าทุกสาขาที่เปิดให้เข้าแถวจองจะซื้อได้เพียง 30 กว่าคนเท่านั้น จากคนต่อคิวจำนวนหลายร้อยจนไปถึงหลักพันคน การที่มายืนต่อแถวแล้วหมดเพียงแค่ไม่ถึง 40 คนแรกยากที่จะรับได้อยู่แล้ว แต่ยิ่งช้ำใจกว่านั้นคือผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง มีบัตรเข้าชมประกาศขายอย่างโจ่งแจ้งผ่านเว็บซื้อ-ขายออนไลน์ในราคาพุ่งพรวดจาก150 ไปแตะที่ 1,200 บาท
จึงไม่แปลกที่เหล่าแฟนคลับตัวจริงจะตั้งแง่ว่าการปล่อยบัตรครั้งนี้อาจมีการทำงานเป็นขบวนการ เพื่อโก่งราคา จนเป็นที่มาของการโพสต์ข้อความขู่อาฆาตของแฟนบอลที่ยืนรอตั้งแต่เช้ากลับพลาดเข้าชมถึงคนที่นำตั๋วมาปล่อยหน้าสนามให้ระวังตัวอาจโดนกลุ่มแฟนบอลไทยบางรายมอบของชำร่วยหน้าสนามอย่างสาสมใจ
ไม่บ่อยนักที่แฟนบอลไทยจะคลั่งกับทีมชาติขนาดนี้ตลอดชีวิตที่ผ่านมาแทบจะนับครั้งได้ จริงหรือไม่ว่ามีกลุ่มผู้เห็นแก่ประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องจ้องหากินกับศรัทธาแฟนชาวไทย จริงหรือไม่ที่เรื่องเหล่านี้อาจสร้างปัญหาบานปลายให้กับวงการฟุตบอลสยาม ไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้คือความเกลียดชังเริ่มก่อตัวแล้ว
ที่มา :http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE9ETTRPREV6TXc9PQ%3D%3D