เล่าอะไรให้ฟังค่ะ

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ ตามสเต็ปนะค่ะ ครั้งแรกในการระบายความในใจที่เก็บมานาน อยากจะเล่าให้ฟัง
เรื่องนี้เป็นเรื่องของครอบครัวเจ้าของกระทู้เองนะ เป็นเรื่องของคนที่มีครอบครัวใหญ่ อยู่รวมกันเยอะๆๆๆ
สักเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว เจ้าของกระทู้ก็อายุประมาณวัยเบจเพศ ทำแต่งานค่ะ ไม่ค่อยได้เที่ยวสักเท่าไหร่
เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนั้น ที่บ้านอยู่รวมกัน พี่น้องของพ่อ พ่อมีน้อง 4 ถ้ารวมพ่อก็เป็น 5 คนค่ะ
อาคนหนึ่งได้ซื้อบ้านแถวชานเมืองและได้ชวนพ่อและน้องๆ มาอยู่รวมกัน แต่เป็นการปลูกเพิ่มข้าง ๆ บ้านอานะค่ะ และพื้นที่เดียวกัน ไม่เยอะมาก
พื้นที่นี้พ่อเป็นคนซื้อค่ะ ชื่อเป็นของพ่อเรา น้อง ๆ ของ เป็นผู้ชายหมด ยังไม่มีใครมีครอบครัว ในบ้านมีสะใภ้แค่สองคน พ่อเอาย่ามาอยู่ด้วย
บอกนิดนะค่ะ ว่าย่าไม่ชอบครอบครัวของพ่อก็คือ เจ้าของกระทู้นั่นแหล่ะค่ะ แต่เราก็อยู่กันมาได้ ร่วม 16 ปีเลยทีเดียว

ต่อไปจะบอกปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากสะใภ้คนที่สาม
เนื่องจากอาคนที่สี่ เป็นคนที่ย่ารักมากที่สุด เค้าได้มีเมียค่ะ ผญ.คนนี้เป็นคนต่างจังหวัดเพิ่งมาทำงาน ตอนนั้นเค้าอายุได้ 18 ปี เจ้าของกระทู้ยังเรียน ปวช
เค้าเข้ามาอยู่ในบ้านโดยที่แทบไม่มีญาติเลยก็ว่าได้ มาอาศัยที่บ้านอยู่ เช้าก็ไปทำงาน เย็นก็มาพักกะอาที่บ้าน อยู่ไม่นานค่ะ เค้าท้องพอท้องกะทะเลาะกะอาตลอด อาเราคนนี้ชอบกินเหล้ามากๆๆๆๆๆๆ อาละวาด ทำให้คนในบ้านไม่ได้นอน มีครั้งหนึ่งถึงขั้นโดนอาคนที่สองกระทืบ จนย่าไม่พอใจไปทำลูกรักเค้า
อาคนนี้ก็เลยต้องออกไปเช่าห้องอยู่แต่ละแวกใกล้ๆๆบ้านนี่แหล่ะค่ะ เดิน 5 นาทีถึง พอเวลาผ่านไป เริ่มทำงาน มีเงิน มีชีวิตที่เริ่มดีขึ้นมาหน่อย ขอบอกนิดนะค่ะ ว่าเค้าชอบไปดูร่างทรง ทำบุญ และถูกหวย ถูกจนสามารถตั้งตัวได้เลยค่ะ นางก็มีสตางค์ ระหว่างนั้นก่อนหน้าที่นางจะมีเงิน นางก็ลำบาก พ่อกะแม่เราไม่สามารถช่วยเค้าเรื่องเงินได้ ช่วยได้แต่แรง บางครั้งก็ทำกับข้าวไว้และก็มากินด้วยกัน นี่คือภาพลักษณ์หนึ่งที่เจ้าของกระทู้เจอนะ เพราะถือว่าไม่ได้สนิทอะไรมาก มีอยู่ครั้งหนึ่ง ในชีวิตที่เจ้าของบ้านต้องออกจากบ้าน เนื่องจากเจ้าของกระทู้ทะเลาะกะย่าและสะใภ้อีกคนเป็นเรื่องใหญ่ ถึงขนาดเกือบแทงมันด้วยซ้ำ ทำให้พวกเรา พ่อแม่น้องและเรา ต้องหาที่อยู่ใหม่ นางคนนี้แหล่ะ มาเอ่ยปากกะพ่อว่า ให้ย้ายมาเช่าบ้านอยู่ใกล้เค้า และให้แม่เรามาช่วยนางขายของ คิดดูนะค่ะ เจ้าของกระทู้ทำงานเช้า เลิกงานเที่ยงคืน ทางเข้าบ้านใหม่ก็มืดมากและใกล้ที่ทำงาน แต่ก็ต้องย้าย คิดว่ามันคงไม่ลำบาก เพราะบางทีพ่อก็มารอรับได้ โดยเช่าบ้าน เดือนละ 4000 บาท เป็นบ้านเดี่ยว ต้องจ่ายมัดจำล่วงหน้า 3 เดือน เป็นเงิน 12000 บาท นางใจดี ให้ยืม โดยบอกว่ามีเมื่อไหร่ค่อยคืน พ่อเราก็ยินดี พวกเราอยู่กันลำบากมาก แล้วสมัยนั้นน้ำมันดีเซลขึ้นลิตรล่ะ 40 บาทอ่ะค่ะ เราทำงานเงินเดือนนิดเดียว พ่อเราขับรถตู้โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งแถวบางนา ขอบอกว่าเดือน ๆ แทบไม่เหลือเงินใช้เลย ไม่ได้เที่ยวไหน ชีวิตวัยรุ่นตอนนั้นเหนื่อยมากอ่ะค่ะ พออยู่ๆๆนานเข้า เริ่มมีปัญหา
สะสม ที่บ้านเราเงินไม่พอใช้ บางทีพ่อจะให้แม่ไปยืมนางนี่แหล่ะ 500 บ้าง พอเงินเดือนเราออกก็เอาไปคืน แต่นางพูดมากะแม่เราแรงมาก ว่านี่ไม่ใช่ธนาคารนะ อืม.....แม่ไม่พูด เงียบ จนแม่เอ่ยปากว่าจะไม่ช่วยนางขายของแล้ว เพราะมีคนแถวนั้นมาจ้างแม่เลี้ยงลูกเค้า แม่จะไปเลี้ยง แล้วแม่ก็บอกสาเหตุว่าทำไมถึงไม่อยากช่วยน้องชายพ่อกะเมียเค้าให้ฟังว่า อาติดเหล้า ไม่ค่อย ขายของ เมาบ้าง หลับบ้าง แล้วแม่ไม่ได้ขายของอย่างเดียวนะ แม่ต้องทำงานบ้านให้มันด้วย คุ้มอ่ะ กะค่าจ้าง 2000 บาท พอวันไหนแม่ไม่ได้ทำงานให้มัน มันมาเห็น มันก็ไม่พอใจ และมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นค่ะ

........เช้าวันหนึ่ง เป็นวันที่ไปทำงานปรกติ เราจะติดรถเค้าไปลงปากทางเพื่อต่อรถไปทำงาน แล้วลูกสาวนางคนเล็กติดแม่เรามาก ก็เข้าไปบ้านเรา แล้ววิ่งออกมาร้องไห้ ด้วยความที่เด็กอายุแค่ 3 ขวบวิ่งมาฟ้อง ว่าน้องสาวเราแกล้ง นางโมโห วิ่งไปด่าน้องสาว ว่าทำไมต้องไปทำลูกเค้าด้วย ลูกเค้าไปทำอะไรให้โวยวายใหญ่ และเดินกลับมาพูดลอย ลอย ว่าเย็นนี้คงต้องคุยกันหน่อย เรางี้...งงบวกกะโมโห ก็เลยไปถามน้องสาวว่าเกิดอะไรขึ้น น้องบอกว่ายังไม่ได้ทำไรเลย แค่บอกว่า...อย่าเล่นปลั๊ก...แล้วก็ตีมือ เราก็...อืม....สงสัยจะมีมากกว่านั้น
       เราก็เลยโทรไปบอกพ่อว่ามีเรื่องเกิดขึ้นนะ พ่อก็บอกว่า อืม..คงไม่มีไรหรอก คิดมากน่ะ เรางี้ ... เออ..จะคอยดู
เวลาผ่านไปประมาณ ทุ่มนึ่ง นางเดินมาคุยกะพ่อ อย่าเรียกว่าคุยเลย มาทวงเงินดีกว่า มาบอกว่าแม่เราไม่ทำนู้น นี่ นั่น แล้วเงินเมื่อไหร่จะให้ พ่อก็บอกว่ารอให้โบนัสเราออกก่อนช่วงนี้ก็เห็นว่าลำบาก ลำบากเพราะต้องมาช่วยนางงัย และเอาความสบายใจด้วย และนางก็มาฟ้องเรื่องน้องสาวเราไปทำลูกเค้าจะเอาเรื่องให้ได้ อีนียิ้ม ยังไม่พอนะค่ะ หลังจากที่พูดคุยกันไปคิดว่าจะจบ
      เย็นอีกวัน มันให้ลูกมัน เด็กสามขวบ เดินมาที่บ้าน มาตะโกนเรียกว่างัย รู้ไหมค่ะ  
........ว่าเรียกลุงๆๆๆ แม่บอกให้เอาเงิน 12000 มาคืน เดี๋ยวนี้เลย แม่สั่ง
โห.........เราสุดทน เดินออกไปถามว่า แม่เมิงสั่งมาใช่ไหม เปิดประตูเดินไปบ้านมัน มันวิ่งเค้าไปบ้านค่ะ แล้วเราพูดว่า
เรา:.......เมิงมีสมองป่ะ สาดดดดดดดด ให้ลูกเมิงมาทวงเงินพ่อกู อี............. พ่อกูนะรุ่นพ่อเมิงนะ เมิงออกมาดิ แน่จิง
มัน: อี.......ทำไม.......
ระหว่างที่ด่ากันนั้น อาเรานั่งเฉย ไม่มีอาการใด ๆ นอกจากเมา

พ่อเราเดินมา....พ่อไม่ทน พ่อด่ามันเป็นชุดเลย ขุดราก ถอนโคตรออกมา ที่เป็นเรื่องจริง ทั้งนั้น พ่อ
พ่อบอกว่า เวลาเมิงไปอยู่บ้านกู กูเคยคิดเงินเมิงไหม เวลากินข้าวบ้านกู กูเก็บเงินเมิงไหม เวลาเมิงไม่สบาย พาไปหาหมอ กูคิดค่ารถ ค่าน้ำมันเมิงไหม
กะเงินแค่นี้ ต้องการตัดพี่น้อง ก็ได้ เดี๋ยวสิ้นเดือนเมิงมาเองเงินเลย เพื่อนบ้านแถวนั้น งงกันเป็นไก่ตาแตกเลย และไม่มีใครกล้ายุ่งกะมันไปประมาณอาทิตย์
มันกลัวเสียภาพพจน์ มันเลยไปชวนคนแถวนั้นกินข้าว

          และแล้วเราก็ย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเดิม และโทรไปบอกอาคนที่สองว่าอีนั้นมันมาด่าพ่อ ย่าเรางี้ น่าเสีย เพราะเค้าไม่อยากให้พวกเรากลับไปอยู่
แต่เราก็ต้องกลับ พอย้ายกลับไป พ่อบอกว่าอย่าได้มาเหยียบบ้านนี้เป็นอันขาด ไม่มีใครตอนรับพวกเมิง พ่อก็เอาเงินมัดจำนั่นแหล่ะ คืนมันไป แต่ขอบอกนะค่ะ มันมีรายละเอียดเยอะกว่านี้ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน มันมีหลายเหตุการณ์มาก เราอาจจะไม่ได้เล่าละเอียด แต่ถ้าสงสัย หรือข้องใจถามได้
ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครไปยุ่งกะครอบครัวนาง นางหยิ่ง มีเงิน มีบ้าน มีรถ  และไม่มีญาติพี่น้อง  และนางก็เข้ามาที่บ้านไม่ได้ เพราะเราได้เอาไปประจานหมดแล้ว 555+
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่