แก้ปัญหาการทุจริต
ด้วยการล้มโครงการ
แก้ไขปัญหาการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
ด้วยการตั้งปฏิปักษ์มาสอบสวน
แก้ไขปัญหากฎหมายเอาผิดไม่ได้
ด้วยการใช้พจนานุกรมแทน
แก้ไขปัญหาไม่สามารถรับฟ้องโดยตรง
ด้วยการแปลคำว่า “และ” กับ “หรือ”มีความหมายเดียวกัน
แก้ไขปัญหาคนปิดสนามบิน
ด้วยการสั่งยุบพรรคอย่างรวดเร็ว
แก้ไขปัญหาเรื่องการเลือกปฏิบัติ
ด้วยการปล่อยให้คดีหมดอายุความ
แก้ไขปัญหากระบวนการยุติธรรมล่าช้า
ด้วยการสั่งฟ้องด้วยงานวิจัยทางวิชาการ
แก้ไขปัญหาเอาผิดนักการเมืองไม่ได้
ด้วยการใช้ข้อกล่าวหาขาดจริยธรรม
แก้ไขปัญหาองค์กรอิสระเอียงข้าง
ด้วยการลดวาระให้เหลือ 5 ปี
แก้ไขปัญหา อัยการไม่เห็นด้วยกับ ปปช.
ด้วยการเพิ่มอำนาจให้ ปปช.ฟ้องศาลโดยตรงได้
แก้ไขปัญหาความแตกแยก
ด้วยการนำคนส่วนใหญ่มาปรับทัศนคติ
แก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญไม่ดีพอ
ด้วยการฉีกรัฐธรรมนูญแล้วร่างใหม่
แก้ไขปัญหานักการเมืองไม่ดี
ด้วยการตัดสิทธิการเมืองย้อนหลัง
แก้ไขการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต
ด้วยการขัดขวางการเลือกตั้ง
แก้ไขปัญหาคนขัดขวางการเลือกตั้ง
ด้วยการให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
แก้ไขปัญหาการพ่ายแพ้ซ้ำซาก
ด้วยการแก้กติกาใหม่
แก้ไขปัญหาของการซื้อเสียง
ด้วยการให้คนมีสิทธิไม่เท่ากัน
แก้ไขปัญหาเลือกตั้งไม่ชนะ
ด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งกันใหม่
แก้ไขปัญหาเลือกตั้งไม่เป็นดั่งใจ
ด้วยการเปลี่ยนการเลือกตั้งจากพวงเล็กเป็นพวงใหญ่
แก้ไขปัญหาพรรคใหญ่จะได้ ส.ส.มากเกินไป
ด้วยการยกเลิกบัญชีปาร์ตี้ลิสต์
แก้ไขปัญหา ส.ส.เขตสู้ไม่ได้
ด้วยการลดจำนวน ส.ส.
แก้ไขปัญหาสู้โหวตในสภาไม่ไหว
ด้วยการลากตั้ง สว.เข้าไปอีกครึ่ง
แก้ไขปัญหาคนแก้กฎหมายไม่ให้มี สว.ลากตั้ง
ด้วยการวินิจฉัยให้เป็นการล้มการปกครอง
แก้ไขปัญหาเปลี่ยนแปลงเสียงโหวตในสภาไม่ได้
ด้วยการให้ ส.ส.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรค
แก้ไขปัญหาระบอบทักษิณจะกลับมา
ด้วยการให้เลือกนายกฯโดยตรง
และสุดท้ายแก้ไขปัญหาที่การแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่บรรลุเป้าหมาย
ด้วยการถอดถอนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ เพื่อตัดสิทธิทางการเมือง
แต่ทั้งหมดทั้งปวงมันติดอยู่ที่ปัญหาเดียว “คนส่วนใหญ่เห็นด้วยหรือเปล่า” ซึ่งเป็นเพียงปัญหาเดียวที่คนดีเหล่านี้ ทำอย่างไรก็แก้ไม่ตกสักที นี่จึงเป็นเวรกรรมของประเทศไทยอย่างแท้จริงครับผม
วิธีแก้ปัญหาแบบคนดีของคนไทย------------------------ทวดเอง
ด้วยการล้มโครงการ
แก้ไขปัญหาการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
ด้วยการตั้งปฏิปักษ์มาสอบสวน
แก้ไขปัญหากฎหมายเอาผิดไม่ได้
ด้วยการใช้พจนานุกรมแทน
แก้ไขปัญหาไม่สามารถรับฟ้องโดยตรง
ด้วยการแปลคำว่า “และ” กับ “หรือ”มีความหมายเดียวกัน
แก้ไขปัญหาคนปิดสนามบิน
ด้วยการสั่งยุบพรรคอย่างรวดเร็ว
แก้ไขปัญหาเรื่องการเลือกปฏิบัติ
ด้วยการปล่อยให้คดีหมดอายุความ
แก้ไขปัญหากระบวนการยุติธรรมล่าช้า
ด้วยการสั่งฟ้องด้วยงานวิจัยทางวิชาการ
แก้ไขปัญหาเอาผิดนักการเมืองไม่ได้
ด้วยการใช้ข้อกล่าวหาขาดจริยธรรม
แก้ไขปัญหาองค์กรอิสระเอียงข้าง
ด้วยการลดวาระให้เหลือ 5 ปี
แก้ไขปัญหา อัยการไม่เห็นด้วยกับ ปปช.
ด้วยการเพิ่มอำนาจให้ ปปช.ฟ้องศาลโดยตรงได้
แก้ไขปัญหาความแตกแยก
ด้วยการนำคนส่วนใหญ่มาปรับทัศนคติ
แก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญไม่ดีพอ
ด้วยการฉีกรัฐธรรมนูญแล้วร่างใหม่
แก้ไขปัญหานักการเมืองไม่ดี
ด้วยการตัดสิทธิการเมืองย้อนหลัง
แก้ไขการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต
ด้วยการขัดขวางการเลือกตั้ง
แก้ไขปัญหาคนขัดขวางการเลือกตั้ง
ด้วยการให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
แก้ไขปัญหาการพ่ายแพ้ซ้ำซาก
ด้วยการแก้กติกาใหม่
แก้ไขปัญหาของการซื้อเสียง
ด้วยการให้คนมีสิทธิไม่เท่ากัน
แก้ไขปัญหาเลือกตั้งไม่ชนะ
ด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งกันใหม่
แก้ไขปัญหาเลือกตั้งไม่เป็นดั่งใจ
ด้วยการเปลี่ยนการเลือกตั้งจากพวงเล็กเป็นพวงใหญ่
แก้ไขปัญหาพรรคใหญ่จะได้ ส.ส.มากเกินไป
ด้วยการยกเลิกบัญชีปาร์ตี้ลิสต์
แก้ไขปัญหา ส.ส.เขตสู้ไม่ได้
ด้วยการลดจำนวน ส.ส.
แก้ไขปัญหาสู้โหวตในสภาไม่ไหว
ด้วยการลากตั้ง สว.เข้าไปอีกครึ่ง
แก้ไขปัญหาคนแก้กฎหมายไม่ให้มี สว.ลากตั้ง
ด้วยการวินิจฉัยให้เป็นการล้มการปกครอง
แก้ไขปัญหาเปลี่ยนแปลงเสียงโหวตในสภาไม่ได้
ด้วยการให้ ส.ส.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรค
แก้ไขปัญหาระบอบทักษิณจะกลับมา
ด้วยการให้เลือกนายกฯโดยตรง
และสุดท้ายแก้ไขปัญหาที่การแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่บรรลุเป้าหมาย
ด้วยการถอดถอนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ เพื่อตัดสิทธิทางการเมือง
แต่ทั้งหมดทั้งปวงมันติดอยู่ที่ปัญหาเดียว “คนส่วนใหญ่เห็นด้วยหรือเปล่า” ซึ่งเป็นเพียงปัญหาเดียวที่คนดีเหล่านี้ ทำอย่างไรก็แก้ไม่ตกสักที นี่จึงเป็นเวรกรรมของประเทศไทยอย่างแท้จริงครับผม