สหกรณ์ยางฯ ตรัง 80 แห่ง ขาดทุน 150 ล้านบาท ภายใน 3 เดือน ผลจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล /เถียงกันเองนะ

กระทู้สนทนา
ถ้าสาวกจะแก้ต่างให้รัฐบาล ก็ เถียงกันเอาเองนะ   พวกเดียวกันไม่ใช่เหรอ  เห็นไอ้เทือกมันพูดไว้ ฮิฮิ  

หรือจะอมสาก ใบ้กิน แทน(นกหวีด)ก็ได้ ก็ไม่ว่าอะไรนะ  พวกเดียวกัน  ฮิฮิ

พวกเดียวกัน คนดีด้วยกัน เขาคงไม่ป้ายสีรัฐบาลที่ช่วยกันเข็นกันมาด้วยกันกับมือหรอกมั้ง   ฮิฮิ

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE9ETTNNelF3TWc9PQ==&subcatid=
วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15:35 น.  ข่าวสดออนไลน์  

     สหกรณ์ยางฯ ตรัง 80 แห่ง ขาดทุน 150 ล้านบาท ภายใน 3 เดือน

วันที่ 12 ธันวาคม 2557  นายแดง   สิทธิชัย อายุ 66 ปี  ประธานสหกรณ์ยางพาราบ้านหนองครก ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง  กล่าวถึงสาเหตุที่สหกรณ์ยางพาราในจังหวัดต้องประสบกับปัญหาผลประกอบการขาดทุนอย่างมาก มาจากสาเหตุเพราะว่าราคายางแผ่นรมควันมีราคาถูกมาก ความแตกตางระหว่างราคาน้ำยางสดที่สหกรณ์รับซื้อมาจากสมาชิกกับราคาย่างแผ่นรมควันที่สหกรณ์ผลิตออกมาแตกต่างกันเล็กน้อย ทำให้ขายไม่ได้กำไร ต้องขาดทุน เพราะต้นทุนในการผลิตยางแผ่นสูงนั้นสูงสำหรับสหกรณ์บ้านหนองครกต้องขาดทุนไปประมาณ 240,000 บาท  และยังจะต้องปัญหาไปอีกระยะยาว แต่ทางผู้บริหารทำอะไรไม่ได้ก็ต้องประคองตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะหากยุบไปก็เป็นห่วงสมาชิกจะได้รับความเดือดร้อนมากไปกว่านี้  

ด้านนายถนอมเกียรติ  เอ่งฉ้วน  อายุ 45 ปี ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรอุตสาหกรรมยางจังหวัดตรัง  กล่าวว่า  จังหวัดตรังมีสหกรณ์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับยางพาราประมาณ 80 แห่ง ตั้งแต่ผลผลิตราคายางตกต่ำมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานทำให้สหกรณ์มีผลประกอบการที่ขาดทุนกว่า 150 ล้าน ในห้วงเวลาแค่ 3 เดือน นับตั้งแต่เดือนกันยายน – พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฉลี่ยเดือนละกว่า 1 ล้านบาท  ผลจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล เพราะราคาน้ำยางดิบที่ซื้อมาทำแผ่นงบประมาณที่รัฐบาลใช้แก้ปัญหาอัดลงไปอยู่แต่ในเฉพาะหน่วงงานและองค์กรที่ไม่ใช่แก้ปัญหาได้ทั้งระบบ เช่น การอนุมัติงบประมาณผ่านองค์การส่วนยางนำไปแทรกแซงราคายางในตลาดกลาง รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณให้สหกรณ์หรือสถาบันเกษตรกรที่จดทะเบียนถูกต้องกู้ยืมเพื่อนำมาบริหารจัดการ รวมทั้งการช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิต เหล่านี้ล้วนแต่ทำให้เม็ดเงินแก้ปัญหาไปตกอยู่กับกลุ่มทุน พ่อ ค้า คนกลาง รวมทั้งเจ้าของสวนยางพารา แต่เกษตรกรชาวสวนยางพาราไม่ได้รับประโยชน์จากเงินงบประมาณดังกล่าวอย่างเสมอภาค การจัดสรรงบประมาณลงมาแก้ปัญหาแต่ละครั้งจึงไม่ถึงมือชาวสวนยางทุกคน และสหกรณ์ทุกแห่งจึงขาดทุนอย่างหนัก

นายถนอมเกียรติ  เอ่งฉ้วน    กล่าวอีกว่า  เมื่อรัฐบาลอนุมัติงบประมาณผ่านองค์การสวนยาง (อสย.) เข้ามาช่วยเหลือชี้นำซื้อยางแผ่นรมควันชั้น 3 ในตลาดกลาง เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้สหกรณ์หลายๆสหกรณ์ได้กำไรมีเงินเข้ามาบ้าง  แต่ยังไม่สามารถหักลบกลบนี้ในช่วงที่ขาดทุนจากสาเหตุที่รัฐช่วยเหลือผิดวิธีได้ เพราะ อสย.ยังไม่รับซื้อน้ำยางดิบ และไม่รับซื้อยางทุกชั้น ทุกเกรด รวมทั้งอย่างแผ่นดิบ งบประมาณดังกล่าวจึงละลายหายไปโดยที่ไม่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้โดยตรง  โดยเฉพาะชาวสวนยางส่วนใหญ่ที่ขายน้ำยางดิบหาเงินใช้จ่ายในครอบครัวรายวัน กลับไม่ได้มีส่วนร่วมในงบประมาณดังกล่าว  

นายถนอมเกียรติ  เอ่งฉ้วน   กล่าวอีกว่า  เฉพาะในส่วนของสหกรณ์ยางเชื่อว่าในปีงบประมาณ 2558 นี้ สหกรณ์ไม่น่าฟื้นตัวกลับเข้ามาได้ เพราะรัฐได้เข้ามาช่วยเหลือช้าไปและผิดวิธี  ดังนั้นหากรัฐบาลจะให้งบประมาณมาช่วยเหลืออีกครั้งจะต้องให้ถึงมือเกษตรกรทุกราย โดยอาจไม่ต้องไปให้หลายหน่วยงาน แต่ให้แค่หน่วยงานเดียวแต่เกษตรกรทุกกลุ่มมีสิทธิ์ได้ประโยชน์ร่วมกันก็สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนได้   สำหรับข้อเรียกร้องของชาวสวนยางที่อยากให้รัฐบาลแทรกแซงราคายางในราคากิโลกรัมละ 80 บาท ส่วนตัวมองว่าถ้าได้ที่ราคากิโลกรัมละ  60 บาท เกษตรกรก็สามารถอยู่ได้     แต่ถ้ารัฐบาลไม่คิดจะช่วยเหลือด้วยวิธีการแทรกแซงราคาตามที่ชาวสวนร้องขแต่ยังใช้วิธีเดิมๆ เชื่อว่าในอีกไม่เกิน  2 เดือนข้างหน้า รัฐบาลจะต้องได้รับมือกับการชุมนุมเรียกร้องอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นการชุมนุมที่เกิดจากปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องปากท้อง เรื่องความเดือดร้อนของครอบครัวอย่างแน่นอน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่