เกี่ยวกับเรื่อง
จริงๆแล้ว ผมเชื่อมาตลอดว่า...ควรขึ้นค่าโดยสารให้แท็กซี่
ถึงแม้ว่าผมจะมีประสบการณ์แย่ๆ กับคนขับแท็กซี่มาเยอะก็เถอะ
แต่....ว่ากันตามจริงแล้ว มันควรเป็นเช่นนั้นครับ
ในขณะที่หลายๆคนกำลังวิพากษ์
และไม่พอใจกับการตัดสินใจครั้งนี้
ผมขออนุญาติ แยกแยะประเด็น และชี้ให้เห็นปัญหา
รวมถึงสิ่งที่พวกเราช่วยกันทำได้ (ตามความคิดผม)
ดังนี้ครับ
เริ่มจากเหตุผลที่ผมเห็นด้วยกับการขึ้นราคา
เพราะ
๑. ค่าโดยสารของ Taxi ไม่เคยปรับขึ้นมา 6 ปีแล้ว
ครั้งล่าสุดที่มีการปรับราคาค่าโดยสาร คือ วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551
ในขณะที่ข้าวของอื่นๆนั้นปรับราคามาตลอด
ผมลองทำรีเซิร์จคร่าวๆ โดยใช้ราคาข้าวแกงเป็นตัววัดนั้น
ปรากฏว่าในช่วงปี 2551
ราคาข้าวแกงอยู่ที่ราว 20 - 25 - 30 บาท
โดยเป็นช่วง กรกฏาคม 51 ที่ข้าวแกงปรับใหญ่จาก 25-30 บาท
เพราะแก็ซหุงต้มขึ้นราคา
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ
ท่านลองจินตนาการดูครับว่า
ถ้าท่านทำงานมาหกปีโดยไม่ได้ขึ้นเงินเดือนเลยซักบาท
ท่านคิดว่ามันแฟร์หรือไม่
๒.
ค่าโดยสารแท็กซี่ของเรานั้นถือว่าค่อนข้างถูกครับ
หากเทียบกับประเทศอื่นๆ
ผมเอาข้อมูล เรทค่าโดยสารของแท็กซี่ในประเทศต่างๆ
ในระยะ 3 กิโลเมตรแรกมาให้ดูครับ
$0.90 – $1.58 Delhi, India
$0.97 – $1.29 Mumbai, India
$1.16 – $1.85 Manila, Philippines
$1.27 – $1.73 Kuta, Bali, Indonesia
$1.32 – $1.98 Kuala Lumpur, Malaysia
$1.43 – $1.91 Ho Chi Minh City, Vietnam
$1.53 – $3.06 Beijing, China
$1.53 – $1.91 Hanoi, Vietnam
$1.66 – $2.32 Bangkok, Thailand
$1.69 – $3.38 Kathmandu, Nepal
$1.84 – $2.76 Shanghai, China
$2.94 – $5.51 Seoul, South Korea
$3.23 – $6.45 Singapore, Singapore
$3.35 – $5.16 Hong Kong, China
$6.20 – $8.26 Taipei, Taiwan
$6.52 – $10.14 Barcelona, Spain
$7.00 – $12.00 New York City, USA
$7.25 – $10.14 Madrid, Spain
$7.50 – $10.00 Los Angeles, USA
$8.70 – $14.49 Paris, France
$9.38 – $12.50 Toronto, Canada
$9.38 – $12.50 Montreal, Canada
$9.47 – $12.63 Melbourne, Australia
$10.53 – $13.68 Sydney, Australia
$11.48 – $14.75 London, England
$11.59 – $15.94 Berlin, Germany
$11.59 – $17.39 Munich, Germany
$12.64 – $15.66 Tokyo, Japan
$18.62 – $24.21 Oslo, Norway
$20.22 – $26.97 Zurich, Switzerland
(ข้อมูลปี 2011)
จริงอยู่ครับที่ค่าโดยสารประเทศที่ใกล้เคียงกับเราอย่าง
"มาเลเซีย" และ "อินโดนีเซีย" จะถูกกว่า
แต่รถที่เขาเอามาใช้ทำแท็กซี่ก็ถูกกว่า รถแท็กซี่ของเราอยู่พอสมควรทีเดียว
ผมนั่งมาแล้วทั้งสองประเทศ....สู้รถ TAXI ของเราไม่ได้เลยครับ
3. Taxi = Luxury
ผมเชื่อในหลักคิดที่ว่า
แท็กซี่ นั้นเป็นทางเลือกเพื่อความสะดวกสบาย
มากกว่าความจำเป็น
ดังนั้น "ความสบาย" จึงควรแพงกว่าระบบขนส่งมวลชนที่เป็น "ความจำเป็น"
ที่ขนคนจำนวนมากๆได้ เช่น
"รถประจำทาง","เรือ", BTS และ MRT อย่างมีนัยยะประมาณหนึ่ง
เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนส่วนใหญ่ใช้ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่มากขึ้น
แต่ในข้อนี้ มันยังมีหมายเหตุที่ว่า
ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ของเรานั้นยังไม่ดีพอ
ทั้งในแง่ของ "ความครอบคลุม"
และ ในมุมของ "คุณภาพ"
นั่นทำให้ Taxi ที่ควรจะเป็น "ความฟุ่มเฟือย"
กลายมาเป็น "ความจำเป็น" ครับ
และ 3 ข้อนี้คือเหตุที่ผมเห็นด้วยครับว่า "ต้องขึ้นราคาแท็กซี่"
แต่
ผมก็เข้าใจมุมมอง สำหรับคนที่ไม่เห็นด้วย
และ
วิพากษ์การขึ้นราคาในครั้งนี้ครับ
เพราะอีกส่วนของผมก็ไม่เห็นด้วยกับการ..."ขึ้นราคา โดยปราศจากข้อแลกเปลี่ยน"
เพราะผมมั่นใจอย่างสุดๆเลยว่า
ที่ทางผู้รับผิดชอบคุยว่า
จะมี "มาตรการเข้มงวดก่อนปรับราคา" นั้น
...ไม่สามารถทำได้จริง
ไม่ว่า
"กลุ่มความผิดทั่วไป" ที่มีบทลงโทษหนักไปเบา
เช่น
ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร
ไม่ใช้มิเตอร์ค่าโดยสาร
กิริยาวาจาไม่สุภาพ
ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน
หรือ
"กลุ่มความผิดร้ายแรง" ที่ยึดใบอนุญาติทันที
ได้แก่
ผู้ขับรถยนต์สาธารณะเสพหรือเมาสุรา
หรือเสพยาเสพติดให้โทษ
เสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
รวมทั้งขับรถในขณะหย่อนความสามารถ
กระทำความผิดทางอาญา
โดยเฉพาะกลุ่มความผิดทั่วไปอย่าง
"ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร"
"ไม่ใช้มิเตอร์ค่าโดยสาร"
"กิริยาวาจาไม่สุภาพ"
"ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน"
เอาจริงๆ แค่ 3 ข้อก็พอ...รับผม ใช้ค่ามิเตอร์ ส่งผมยังที่หมาย
ไม่ต้องมาสุภาพกับผมหรอกครับ...ผมก็นั่งเล่นมือถือจองผมไป
เอาแค่ท่านมีแผนการยังไงครับ
"ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร"
"ไม่ใช้มิเตอร์ค่าโดยสาร"
"ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน"
ไหนลองว่ามาเป็นฉากๆ
แจงให้เห็นเป็นข้อๆ อย่างที่ท่านอธิบายอย่างละเอียดยิบว่า
ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 35.00 บาท
ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 5.50 บาท
ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 6.50 บาท
ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 7.50 บาท
ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.00 บาท
ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 บาท
ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท
กรณีรถไม่สามารถเคลื่อนที่ หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตรานาทีละ 2.00 บาท
คือ
ท่านไม่อธิบายเลยว่าจะทำยังไง จะจัดการยังไง
ผมเชื่อว่าพอผมโพสท์ข้อเขียนนี้เสร็จ
เดินออกไปเรียกแท็กซี่กลับบ้านในวันศุกร์อย่างนี้
มันก็ส่ายหัวดุ๊กดิ๊กๆ ไม่รับผมอีกอยู่ดีครับ
คือเข้าใจครับว่าราคาหน่ะ...มันจำเป็นต้องขึ้น
แต่ขึ้นแล้วประชาชนอย่างพวกผมจะได้อะไรบ้างละครับ
ซึ่งจริงๆแล้วไอ้ 3 ข้อที่ว่าเนี่ย...มันไม่ควรจะมีอยู่แล้วด้วยซ้ำ
ไม่ควรต้องมานั่งบังคับเคร่ง...ก่อนขึ้นราคาด้วยซ้ำ
เพราะฉนั้นถ้าท่านตอบคำถามได้ไม่เคลียร์
กรุณาอย่างอแงครับ ถ้าจะมีคนตั้งคำถามว่า
นี่เป็นการเอาใจกลุ่มการเมืองฝั่งตรงข้ามหรือเปล่า
สุดท้าย
เพื่อนๆที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะคิดว่าเราจะทำอะไรได้
ผมก็คงบอกได้แต่เพียงว่า...
.ต้องลองดูครับ
โดยผมเชิญชวนให้เพื่อนๆ ช่วยกัน
แชร์บทความนี้ หรือ ความคิดเห็นของท่าน หรือ ประสบการณ์ของท่านเอง
หรืออะไรก็ได้ที่ท่านอยากบอกเกี่ยวกับประเด็นนี้
พร้อมแทค
#bkkgoodtaxi
เพื่อช่วยกัน
เสนอความเห็น ให้กำลังใจ ติดตาม ตรวจสอบ และ กดดัน
ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง...ได้แก้ปัญหาเรื่องแท็กซี่
ปัญหาเล็กๆ แต่มีอยู่เยอะๆ และ ทำให้เราหงุดหงิดอยู่บ่อยๆ
ให้มันดีขึ้นซักที
ปล. ผมรณรงค์อยู่ในเพจของผมครับมีคนแท็คประมาณหนึ่งแล้ว....
ถ้าสนใจช่วยกันครับเพราะเป็นปัญหาที่เราทุกคนสัมผัส ทุกคนบ่น ได้แค่ไหนอีกเรื่องหนึ่ง
คุณสามารถช่วยกันแท็คช่วยกันเสนอได้โดยไม่ต้องเมนชั่นถึงเพจผมก็ได้ครับ
แค่ยึด #bkkgoodtaxi เป็นหลักครับ
https://www.facebook.com/morethan8lines/photos/a.1399691113592216.1073741828.1399617150266279/1610329015861757/?type=1&theater 
ว่าด้วยเรื่องขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ครับ
จริงๆแล้ว ผมเชื่อมาตลอดว่า...ควรขึ้นค่าโดยสารให้แท็กซี่
ถึงแม้ว่าผมจะมีประสบการณ์แย่ๆ กับคนขับแท็กซี่มาเยอะก็เถอะ
แต่....ว่ากันตามจริงแล้ว มันควรเป็นเช่นนั้นครับ
ในขณะที่หลายๆคนกำลังวิพากษ์
และไม่พอใจกับการตัดสินใจครั้งนี้
ผมขออนุญาติ แยกแยะประเด็น และชี้ให้เห็นปัญหา
รวมถึงสิ่งที่พวกเราช่วยกันทำได้ (ตามความคิดผม)
ดังนี้ครับ
เริ่มจากเหตุผลที่ผมเห็นด้วยกับการขึ้นราคา
เพราะ
๑. ค่าโดยสารของ Taxi ไม่เคยปรับขึ้นมา 6 ปีแล้ว
ครั้งล่าสุดที่มีการปรับราคาค่าโดยสาร คือ วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551
ในขณะที่ข้าวของอื่นๆนั้นปรับราคามาตลอด
ผมลองทำรีเซิร์จคร่าวๆ โดยใช้ราคาข้าวแกงเป็นตัววัดนั้น
ปรากฏว่าในช่วงปี 2551
ราคาข้าวแกงอยู่ที่ราว 20 - 25 - 30 บาท
โดยเป็นช่วง กรกฏาคม 51 ที่ข้าวแกงปรับใหญ่จาก 25-30 บาท
เพราะแก็ซหุงต้มขึ้นราคา
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ
ท่านลองจินตนาการดูครับว่า
ถ้าท่านทำงานมาหกปีโดยไม่ได้ขึ้นเงินเดือนเลยซักบาท
ท่านคิดว่ามันแฟร์หรือไม่
๒. ค่าโดยสารแท็กซี่ของเรานั้นถือว่าค่อนข้างถูกครับ
หากเทียบกับประเทศอื่นๆ
ผมเอาข้อมูล เรทค่าโดยสารของแท็กซี่ในประเทศต่างๆ
ในระยะ 3 กิโลเมตรแรกมาให้ดูครับ
$0.90 – $1.58 Delhi, India
$0.97 – $1.29 Mumbai, India
$1.16 – $1.85 Manila, Philippines
$1.27 – $1.73 Kuta, Bali, Indonesia
$1.32 – $1.98 Kuala Lumpur, Malaysia
$1.43 – $1.91 Ho Chi Minh City, Vietnam
$1.53 – $3.06 Beijing, China
$1.53 – $1.91 Hanoi, Vietnam
$1.66 – $2.32 Bangkok, Thailand
$1.69 – $3.38 Kathmandu, Nepal
$1.84 – $2.76 Shanghai, China
$2.94 – $5.51 Seoul, South Korea
$3.23 – $6.45 Singapore, Singapore
$3.35 – $5.16 Hong Kong, China
$6.20 – $8.26 Taipei, Taiwan
$6.52 – $10.14 Barcelona, Spain
$7.00 – $12.00 New York City, USA
$7.25 – $10.14 Madrid, Spain
$7.50 – $10.00 Los Angeles, USA
$8.70 – $14.49 Paris, France
$9.38 – $12.50 Toronto, Canada
$9.38 – $12.50 Montreal, Canada
$9.47 – $12.63 Melbourne, Australia
$10.53 – $13.68 Sydney, Australia
$11.48 – $14.75 London, England
$11.59 – $15.94 Berlin, Germany
$11.59 – $17.39 Munich, Germany
$12.64 – $15.66 Tokyo, Japan
$18.62 – $24.21 Oslo, Norway
$20.22 – $26.97 Zurich, Switzerland
(ข้อมูลปี 2011)
จริงอยู่ครับที่ค่าโดยสารประเทศที่ใกล้เคียงกับเราอย่าง
"มาเลเซีย" และ "อินโดนีเซีย" จะถูกกว่า
แต่รถที่เขาเอามาใช้ทำแท็กซี่ก็ถูกกว่า รถแท็กซี่ของเราอยู่พอสมควรทีเดียว
ผมนั่งมาแล้วทั้งสองประเทศ....สู้รถ TAXI ของเราไม่ได้เลยครับ
3. Taxi = Luxury
ผมเชื่อในหลักคิดที่ว่าแท็กซี่ นั้นเป็นทางเลือกเพื่อความสะดวกสบาย
มากกว่าความจำเป็น
ดังนั้น "ความสบาย" จึงควรแพงกว่าระบบขนส่งมวลชนที่เป็น "ความจำเป็น"
ที่ขนคนจำนวนมากๆได้ เช่น
"รถประจำทาง","เรือ", BTS และ MRT อย่างมีนัยยะประมาณหนึ่ง
เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนส่วนใหญ่ใช้ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่มากขึ้น
แต่ในข้อนี้ มันยังมีหมายเหตุที่ว่า
ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ของเรานั้นยังไม่ดีพอ
ทั้งในแง่ของ "ความครอบคลุม"
และ ในมุมของ "คุณภาพ"
นั่นทำให้ Taxi ที่ควรจะเป็น "ความฟุ่มเฟือย"
กลายมาเป็น "ความจำเป็น" ครับ
และ 3 ข้อนี้คือเหตุที่ผมเห็นด้วยครับว่า "ต้องขึ้นราคาแท็กซี่"
แต่
ผมก็เข้าใจมุมมอง สำหรับคนที่ไม่เห็นด้วย
และ
วิพากษ์การขึ้นราคาในครั้งนี้ครับ
เพราะอีกส่วนของผมก็ไม่เห็นด้วยกับการ..."ขึ้นราคา โดยปราศจากข้อแลกเปลี่ยน"
เพราะผมมั่นใจอย่างสุดๆเลยว่า
ที่ทางผู้รับผิดชอบคุยว่า
จะมี "มาตรการเข้มงวดก่อนปรับราคา" นั้น
...ไม่สามารถทำได้จริง
ไม่ว่า
"กลุ่มความผิดทั่วไป" ที่มีบทลงโทษหนักไปเบา
เช่น
ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร
ไม่ใช้มิเตอร์ค่าโดยสาร
กิริยาวาจาไม่สุภาพ
ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน
หรือ
"กลุ่มความผิดร้ายแรง" ที่ยึดใบอนุญาติทันที
ได้แก่
ผู้ขับรถยนต์สาธารณะเสพหรือเมาสุรา
หรือเสพยาเสพติดให้โทษ
เสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
รวมทั้งขับรถในขณะหย่อนความสามารถ
กระทำความผิดทางอาญา
โดยเฉพาะกลุ่มความผิดทั่วไปอย่าง
"ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร"
"ไม่ใช้มิเตอร์ค่าโดยสาร"
"กิริยาวาจาไม่สุภาพ"
"ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน"
เอาจริงๆ แค่ 3 ข้อก็พอ...รับผม ใช้ค่ามิเตอร์ ส่งผมยังที่หมาย
ไม่ต้องมาสุภาพกับผมหรอกครับ...ผมก็นั่งเล่นมือถือจองผมไป
เอาแค่ท่านมีแผนการยังไงครับ
"ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร"
"ไม่ใช้มิเตอร์ค่าโดยสาร"
"ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน"
ไหนลองว่ามาเป็นฉากๆ
แจงให้เห็นเป็นข้อๆ อย่างที่ท่านอธิบายอย่างละเอียดยิบว่า
ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 35.00 บาท
ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 5.50 บาท
ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 6.50 บาท
ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 7.50 บาท
ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.00 บาท
ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 บาท
ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท
กรณีรถไม่สามารถเคลื่อนที่ หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตรานาทีละ 2.00 บาท
คือ
ท่านไม่อธิบายเลยว่าจะทำยังไง จะจัดการยังไง
ผมเชื่อว่าพอผมโพสท์ข้อเขียนนี้เสร็จ
เดินออกไปเรียกแท็กซี่กลับบ้านในวันศุกร์อย่างนี้
มันก็ส่ายหัวดุ๊กดิ๊กๆ ไม่รับผมอีกอยู่ดีครับ
คือเข้าใจครับว่าราคาหน่ะ...มันจำเป็นต้องขึ้น
แต่ขึ้นแล้วประชาชนอย่างพวกผมจะได้อะไรบ้างละครับ
ซึ่งจริงๆแล้วไอ้ 3 ข้อที่ว่าเนี่ย...มันไม่ควรจะมีอยู่แล้วด้วยซ้ำ
ไม่ควรต้องมานั่งบังคับเคร่ง...ก่อนขึ้นราคาด้วยซ้ำ
เพราะฉนั้นถ้าท่านตอบคำถามได้ไม่เคลียร์
กรุณาอย่างอแงครับ ถ้าจะมีคนตั้งคำถามว่า
นี่เป็นการเอาใจกลุ่มการเมืองฝั่งตรงข้ามหรือเปล่า
สุดท้าย
เพื่อนๆที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะคิดว่าเราจะทำอะไรได้
ผมก็คงบอกได้แต่เพียงว่า....ต้องลองดูครับ
โดยผมเชิญชวนให้เพื่อนๆ ช่วยกัน
แชร์บทความนี้ หรือ ความคิดเห็นของท่าน หรือ ประสบการณ์ของท่านเอง
หรืออะไรก็ได้ที่ท่านอยากบอกเกี่ยวกับประเด็นนี้
พร้อมแทค #bkkgoodtaxi
เพื่อช่วยกัน
เสนอความเห็น ให้กำลังใจ ติดตาม ตรวจสอบ และ กดดัน
ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง...ได้แก้ปัญหาเรื่องแท็กซี่
ปัญหาเล็กๆ แต่มีอยู่เยอะๆ และ ทำให้เราหงุดหงิดอยู่บ่อยๆ
ให้มันดีขึ้นซักที
ปล. ผมรณรงค์อยู่ในเพจของผมครับมีคนแท็คประมาณหนึ่งแล้ว....
ถ้าสนใจช่วยกันครับเพราะเป็นปัญหาที่เราทุกคนสัมผัส ทุกคนบ่น ได้แค่ไหนอีกเรื่องหนึ่ง
คุณสามารถช่วยกันแท็คช่วยกันเสนอได้โดยไม่ต้องเมนชั่นถึงเพจผมก็ได้ครับ
แค่ยึด #bkkgoodtaxi เป็นหลักครับ
https://www.facebook.com/morethan8lines/photos/a.1399691113592216.1073741828.1399617150266279/1610329015861757/?type=1&theater