ไปถ่ายภาพที่โอซาก้ากัน ตอน 3: ไปญี่ปุ่นต้องมีปลา

ถ้ามาถึงโอซาก้าปุ๊บ เช้าวันรุ่งขึ้นผมแนะนำให้ใช้บริการเล้าจ์ที่สนามบินก่อน พอเช้าขึ้นก็ไปที่ตลาดปลาเลย ตารางเวลาจะลงตัวเป๊ะกับการเดินทาง แต่ถ้าอยากเอนหลังสบายๆ ก็มีโรงแรม Nikko Hotel Kansai Airport ที่หน้าสนามบิน จองล่วงหน้าผ่านทางเว็ปไซต์ก็ได้ https://asp.hotel-story.ne.jp/ver3d/ASPP0200.asp?hidSELECTPLAN=A1RJW&hidSELECTCOD1=64461&hidSELECTCOD2=001



พอไปถึงตลาดปลาแล้วมีทางเลือกอยู่ว่าจะกินก่อน หรือจะถ่ายรุปก่อน แล้วแต่ความชอบเลยครับ แต่ผมว่าไปถึงก่อน ไปต่อคิวที่ Endo Sushi หน้าตลาดปลาก่อนเลย ไปเช้าๆ ไม่ต้องรอนานเป็นชั่วโมง ต่อให้เป็นนักถ่ายภาพก็เถอะ เรื่องปากท้องต้องมาเหนือสิ่งอื่นใด

เช้าตรู่กันเลยทีเดียว





เอ็นโดะ ซูชิเปิดขายมาเป็นร้อยปี ผ่านมาหลายรุ่นแล้ว มีประวัติยาวเหยียดบอกไว้ในเว็บร้าน http://www.endo-sushi.com/english.html  เป็นหนึ่งในร้านซูชิที่ไม่ควรพลาดหากมาโอซาก้า
เมื่อแรกที่ได้ยินผมฟังแล้วไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่ แต่พอได้ชิมแล้วต้องยอมรับว่าเหนือความคาดหวังจริงๆ มี 4 เซ็ตให้เลือก เซ็ตละ 5 ชิ้น อร่อยทุกอย่างเลยครับ ส่วนซุปผมเฉยๆ นะ แต่เพื่อนบอกว่าใส่หอยลายเยอะดี  ชิมซูชิเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยไปถ่ายรูปกันก็ได้

คุณลุงเจ้าของร้านรุ่นก่อนเดินลากเกี๊ยะก๊อกแก๊กๆ ดูแลทั้งร้านทั้งลูกค้า


หลังจากเห็นพวกเรากินกันไม่ถูกวิธี ลุงก็บอกมานี่ทำให้
เอาแปรงจุ่มโชยุป้ายปื้ดๆ นี่ๆ ต้องแบบนี้

แค่ป้ายโชยุลุงยังปล่อยพลัง ตั้งใจซะขนาดนี้


ไมผมป้ายไม่เห็นน่ากินเหมือนลุงเลย ตอนป้ายลุงปล่อยพลังภายในด้วยป่าวเนี่ย


-----------------------



เสร็จภารกิจซูชิแล้วเข้าไปถ่ายรูปในตลาดปลากันดีกว่า
ที่จริงถ้ามาเช้าๆ จะคึกคักนะครับ แต่ผมมาสายไปนิดแถมยังแวะกินก่อนอีก ตลาดเลยวายไปเรียบร้อยแล้วเหลือเปิดอยู่ไม่กี่ร้าน

มันต้องโฟกัสข้างหน้าไม่ใช่เร๊อะ? ไปโฟกัสอะไรฉากหลัง


เห็นแล้วอยากเอาไปต้มซุป แต่คงต้องใช้หม้อแกงงานวัด หัวปลาใหญ่กว่าหม้อทุกใบที่มีในบ้านผมรวมกันอีก


ตู้เย็น หรือน่าจะเรียกว่าห้องเย็นจะถูกต้องกว่า


ในตลาดปลานี่แสงน้อย ทดสอบประสิทธิภาพของกล้องได้อย่างดีเลยว่ากล้องที่มีอยู่ถ่ายในที่มืดได้ดีแค่ไหน และสถานการณ์ก็เป็นการถ่ายแนว street ที่ต้องอาศัยความชำนาญในการใช้อุปกรณ์พอสมควร ใช้กล้องและเลนส์ไวแสงสักหน่อย เลนส์สัก f/2.8 ลงมา ความไวแสงสัก ISO 1,600-2,000 น่าจะเอาอยู่ เดินเข้าไปกดได้สบายครับ พี่ๆ ลุงๆ แถวนี้เค้าไม่ว่าอะไร แค่อย่าไปเกะกะขวางทางเค้าเท่านั้นพอ เวลาเดินก็ดูรอบๆ ให้ดีเพราะมีรถขนของวิ่งผ่านไปผ่านมาบ่อยๆ แล้วลุงแต่ละคนนี่ก็ขับกันแบบไม่ยั้งเลย หูไวตาไวไว้หน่อยก็ดี และไม่ควรใช้แฟลชให้อลังการมากนะครับ จะเป็นการรบกวนตัวแบบและทำให้เสียบรรยากาศของแสงรอบๆ มีไว้ fill in นิดๆ หน่อยๆ พอ

หลังจากพยายามดื้อใช้ ISO ต่ำๆ กลัวกล้องตัวน้อยจะคุมน้อยส์ไม่อยู่  แต่พอไล่เช็ครูปแล้ว รูปชุดแรกออกอาการบาดเจ็บสาหัส เบลอมั่ง โฟกัสหลุดมั่ง เลยต้องกัดฟันยอมดัน ISO ขึ้นไปอีก ฝากความไว้วางใจกับ Olympus OM-D E-M10 แต่ยังลังเลหน่อยๆ ว่ากล้องตัวน้อยว่าจะเอาอยู่ไหมที่ ISO สูงๆ

รอดแฮะ น้อยส์ไม่ขึ้นเท่าไหร่ ดีเทล กับความคมชัดลดลงไปนิดเดียว ถึงไดนามิคเรนจ์หายไปเยอะเอาการ


หักลบกลบหนี้แล้วใช้ ISO สูงๆ ต่อได้ ดังนั้นใครถือกล้อง DSLR อยู่ สถานการณ์แบบนี้ดันความไวแสงขึ้นไป เอาอยู่สบายมากครับ


ครึ่งหลังของตลาดปลาเลยดันความไวแสงถ่ายโน่นถ่ายนี่ได้สบายใจ







ในทัศนของคนอื่นจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่สัญลักษณ์ที่หมายถึงประเทศญี่ปุ่นในทัศนของผมคือ สีเหลือง สีดำ และเส้นตรง


----------

รับประทานเสร็จ ถ่ายรูปเสร็จจากตลาดปลา เรามีทางเลือกสองทางคือไป Universal Studio Japan ( http://pantip.com/topic/32926942 ) หรือจะไป Osaka Aquariam Kaiyukan ก็ได้ ( http://www.kaiyukan.com/language/thai )
USJ นั้นควรไปเฝ้าประตูแต่เช้าตรู่และวิ่งแข่งกับนักวิ่งญี่ปุ่นไปปราสาทฮ็อกวอร์ต สภาพร่างกายวันแรกอาจจะฟิตไม่พอ เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้ครับ ถ้ามาสายขนาดนี้และกินซูชิมาเรียบร้อยแล้ว ไคยูคังดูจะเป็นการถนอมร่างกายนักถ่ายภาพมากกว่า เพราะไม่ต้องสู้กับนักวิ่งญี่ปุ่น แค่รบกับเด็กแย่งมุมถ่ายภาพเล็กน้อย

มาจากไหนไม่รู้แหละ มองหาชิงช้าสวรรค์เท็มโปซังเอาไว้ไม่พลาด


ริมถนนหน้าทางขึ้น


ถ้าผมมีแฟนผมจะพามาถ่ายรูปตรงนี้แหละ ทำเลถ่ายพอเทรทในตำนานชัดๆ ถ่ายยังไงก็ดูญี่ปุ๊นนนน ญี่ปุ่น


อย่าได้รอช้าเดินขึ้นไปเลย


เด็กเต็มไปหมด


ซื้อตั๋วตรงนี้






Osaka Aquariam Kaiyukan เป็นอควาเรียมที่เด็กเยอะจริงๆ แถวๆ นั้นนอกจากอควาเรียมแล้วก็มีศูนย์การค้าเท็มโปซังอยู่ติดๆ กันที่น่าไปเดินช็อป กับหาอะไรกินสักหน่อย และที่พลาดไม่ได้คืออย่าลืมขึ้นชิงช้าสวรรค์ครับ สูงกว่าชิงช้าสวรรค์งานวัดแถวบ้านผมสักสิบเท่าได้น่าเล่นชมัด

เข้าไปข้างในกันเถอะ เชิญค่ะ..



ด้านในของพิพิธภัณฑ์โซนส่วนใหญ่มักจะมืดตึ้บ ถ่ายรูปยากชมัด กล้องไม่โปรเลนส์ไม่เทพนี่ได้รูปก็จริงแต่คุณภาพหวังอะไรไม่ค่อยได้เลยครับ และในนี้แฟลชกับขาตั้งกล้องก็ใช้ไม่ได้ด้วย แต่อย่างไรก็แล้วแต่อย่าลืมถ่ายรูปคู่กับปลาฉลามวาฬไว้ด้วย มีอควาเรียมไม่กี่แห่งในโลกนี้ที่มีปลาฉลามวาฬไว้ในครอบครอง เนื่องจากเส้นทางเดินจะเริ่มจากด้านบนสุดที่ระดับผิวน้ำของตู้ปลาใหญ่ค่อยๆ วนรอบตู้จนลงมาถึงระดับพื้นเส้นทางยาวเหยียด จุดถ่ายรูปมากมาย ดังนั้นไม่ต้องรีบแย่งกันถ่ายภาพให้การจราจรติดขัดที่ปากทางครับ เดินลงมาดูด้านในๆ ก็ได้

ดาราใหญ่ของที่นี่ ใหญ่จริงด้วย


เด็กๆ เต็ม


ทำไมรู้สึกน้ำลายไหล


แอ็คชั่นนี้มีทั้งแมวน้ำทั้งโลมาครับ คอยเฝ้าได้เลย เดี๋ยวก็ได้ภาพ



ระหว่างทางจะมีจุดแวะประทับตราที่ระลึกเป็นระยะๆ ผมก็เก็บมาจนครบแหละ

เรียกได้ว่า แย่งเด็กเล่นทุกสเตชั่น


ผลงานการแย่งเด็ก


เข้าสู่ช่วง Touch and Try มีปลาฉลามกับกระเบนตัวลื่นๆ หยึยๆ ให้สัมผัสใกล้ชิด กับโชว์นกเพนกวิ้นคอยบริการทุกท่าน


อย่าได้คิดว่าจะรอด ที่นี่มีร้านขายของที่ระลึกสองร้านคอยดักสกัดอยู่



ซื้อไปแล้วตั้งชื่อว่าน้องจินเบก็ดีนะ



ออกจากไคยูคังอควาเรียม ใกล้ๆ นั้นจะมีศูนย์การค้าเท็มโปซัง สามารถแวะไปหาอะไรอร่อยๆ รับประทานได้ อย่าลืมไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ที่ศูนย์การค้าด้วยนะ สูงดีผมชอบ เสร็จจากนั้นจะไปเช็คอินที่โรงแรมหรือจะไปช็อปที่ Shinsaibashi ก็น่าจะเป็นเวลากำลังเหมาะเลย






Disclaimer - ประกาศไม่รับผิดชอบ
บทความในส่วนนี้เป็นการชี้หมายถ่ายภาพ และแนะนำการถ่ายภาพสำหรับนักถ่ายภาพ พร้อมภาพตัวอย่างในสถานการณ์จริง ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อรีวิวทริปท่องเที่ยว การเดินทาง หรือที่พัก
แต่เพื่อความโปร่งใส ขอแจ้งให้ผู้อ่านทราบว่าการเดินทางในทริปนี้ของผมสนับสนุนโดยสายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ โดยไม่ได้เรียกรับค่าตอบแทน หรือผลประโยชน์ทางธุรกิจอื่นใด ผมไม่ปฏิเสธหรือยืนยันความลำเอียงในบทความ ผู้อ่านโปรดพิจารณาความเป็นกลางบทความด้วยตนเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่