ขอฝากเรื่องเล่าเรื่องนี้ไว้ให้กำลังใจกับเตือนสติ (ของตัวเองในบางที) ครับ
เมื่อตอนผมเรียนอยู่ม.ปลายผมก็เป็นวัยรุ่นคนนึงที่ชอบร้องเพลงมาก หลังเลิกเรียนก็จะชวนเพื่อนๆไปเกะกันบ่อยๆ ไปกันแต่ละครั้งอย่างต่ำก็ 3 ชั่วโมง เป็นช่วงที่มีความสุขสนุกสนานมาก พอใกล้ๆจะจบม.ปลายก็เริ่มมีความคิดตั้งใจจะไปออดิชั่นตามรายการต่างๆอย่างจริงจัง
แล้วก็ได้ทำตามความตั้งใจ ติดตามข่าวการออดิชั่นในทุกๆรายการ ในช่วงนั้นมีความมั่นใจในการร้องเพลงของตัวเองมากทั้งๆที่ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร แค่คนร้องเพลงได้ คิดว่าไปรายการแรกยังไงก็ต้องเข้ารอบ แต่สุดท้ายก็ไม่ติดแม้แต่รอบแรกสักรายการ โดยไม่ได้ทั้งคำติและคำชมหรือคำแนะนำอะไรเลย ผ่านไป 6-7 ครั้งที่ไปออดิชั่นก็เป็นเหมือนเดิม หลังๆไปออดิชั่นพร้อมกับอคติตลอด จนเริ่มรู้สึกเฉยชากับการร้องเพลงและเลิกร้องเพลงและไม่ไปออดิชั่นอีกเลย หยุดไปเกือบๆสองปี ก็ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่ได้มีเป้าหมายอะไร
จนมีงานบายเนียร์ที่คณะแล้วน้องขอให้ไปร้องเพลงในงานให้หน่อย ก็ตอบรับไปแบบไม่ได้คิดอะไร หลังจากจบงานก็มีเสียงปรบมือให้มากมาย ทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่เพื่อนๆบอกให้ไปสมัคร ไปออดิชั่นตามรายการโน่นนี้สิ ก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆพร้อมกับความคิดต่อต้านในใจว่าไปทำไม ไม่ได้คัดคนเข้าที่เสียงร้องเลย
แต่ในวันนั้นที่นั่งรถกลับบ้านก็มีความรู้สึกนึงวิ่งเข้ามา มันคือความสุขแบบสุขมากๆ ปริ่มๆจนน้ำตาคลอ ตอนที่เราร้องเพลงบนเวทีแล้วคนดูยิ้มไปกับเรา ทำให้เกิดคำถามกับตัวเองว่า เราทำอะไรอยู่ เราร้องเพลงทำไม เพราะอะไร แล้วหยุดทำมันทำไม อยากเป็นดารา เหรอ มันก็ไม่ใช่ อยากมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากๆรึเปล่ามันก็เปล่า (แต่ถ้ามีถ้าได้เป็นมันก็ดีอ่ะนะ) แต่มันคือความสุขที่ได้ร้องเพลง เป็นความสุขเพียงแค่ได้ทำในสิ่งที่รักที่ชอบ ก็แค่นั้นพอกลับมาถึงบ้าน ก็จัดการเปิดคาราโอเกะร้องต่อไปอย่างไม่รู้เวลา จนดึก แม่ออกมาถามว่าวันนี้เป็นอะไร ก็ยังชวนแม่ลงมาร้องด้วยกันจนตีสามตีสี่ มันเหมือนได้ในสิ่งที่เป็นส่วนสร้างความสุขให้ชีวิตที่เราขาดมานานมาก
ทุกวันนี้มีความสุขที่ได้ไปออดิชั่นตามที่ต่างๆ ไปเพื่อพัฒนาตัวเอง ไปเพื่อร้องเพลงก็แค่นั้น ไม่ผ่านยังไงก็ปรับปรุงต่อเรื่อยๆ มันทำให้ไม่เคยหมดหวังในการไปในแต่ละครั้งเลย แต่มันทำให้ชีวิตกลับมาสนุกได้อีกครั้งหนึ่ง แค่หาสิ่งที่รักให้เจอ แล้วทำมันอย่างสุขใจก็แค่นี้แหละชีวิต
สุดท้ายนี้อยากจะบอกให้หมั่นถามตัวเองบ่อยๆว่าตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ ทำเพราะอะไร และเพื่ออะไร มันจะทำให้มีสติรับรู้ตัวเอง และหาเป้าหมายในชีวิตได้แน่นอน
ออกตัวก่อนเลยนะครับว่าเป็นกระทู้แรกที่เขียน และเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เรื่องเล่านี้ผมเคยเล่าไว้ให้เพื่อนกับครูฟังไว้ ซึ่งครูคนนี้ได้บอกให้ผมบันทึกเรื่องที่เล่าให้ฟังไว้ เพราะมันเป็นเรื่องราวที่ดีเรื่องนึง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอได้จดบันทึก มันทำให้ได้ทบทวนตัวเอง และเป็นเรื่องที่คอยเตือนสติได้เรื่องหนึ่ง เลยตัดสินใจมาเล่าลงไว้ที่นี่ครับ บอกตัวเองให้สู้ต่อปายยย
ฝากความคิดทิ้งไว้สักนิด
แชร์ประสบการณ์ความสุขที่ได้กลับคืนมา
เมื่อตอนผมเรียนอยู่ม.ปลายผมก็เป็นวัยรุ่นคนนึงที่ชอบร้องเพลงมาก หลังเลิกเรียนก็จะชวนเพื่อนๆไปเกะกันบ่อยๆ ไปกันแต่ละครั้งอย่างต่ำก็ 3 ชั่วโมง เป็นช่วงที่มีความสุขสนุกสนานมาก พอใกล้ๆจะจบม.ปลายก็เริ่มมีความคิดตั้งใจจะไปออดิชั่นตามรายการต่างๆอย่างจริงจัง
แล้วก็ได้ทำตามความตั้งใจ ติดตามข่าวการออดิชั่นในทุกๆรายการ ในช่วงนั้นมีความมั่นใจในการร้องเพลงของตัวเองมากทั้งๆที่ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร แค่คนร้องเพลงได้ คิดว่าไปรายการแรกยังไงก็ต้องเข้ารอบ แต่สุดท้ายก็ไม่ติดแม้แต่รอบแรกสักรายการ โดยไม่ได้ทั้งคำติและคำชมหรือคำแนะนำอะไรเลย ผ่านไป 6-7 ครั้งที่ไปออดิชั่นก็เป็นเหมือนเดิม หลังๆไปออดิชั่นพร้อมกับอคติตลอด จนเริ่มรู้สึกเฉยชากับการร้องเพลงและเลิกร้องเพลงและไม่ไปออดิชั่นอีกเลย หยุดไปเกือบๆสองปี ก็ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่ได้มีเป้าหมายอะไร
จนมีงานบายเนียร์ที่คณะแล้วน้องขอให้ไปร้องเพลงในงานให้หน่อย ก็ตอบรับไปแบบไม่ได้คิดอะไร หลังจากจบงานก็มีเสียงปรบมือให้มากมาย ทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่เพื่อนๆบอกให้ไปสมัคร ไปออดิชั่นตามรายการโน่นนี้สิ ก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆพร้อมกับความคิดต่อต้านในใจว่าไปทำไม ไม่ได้คัดคนเข้าที่เสียงร้องเลย
แต่ในวันนั้นที่นั่งรถกลับบ้านก็มีความรู้สึกนึงวิ่งเข้ามา มันคือความสุขแบบสุขมากๆ ปริ่มๆจนน้ำตาคลอ ตอนที่เราร้องเพลงบนเวทีแล้วคนดูยิ้มไปกับเรา ทำให้เกิดคำถามกับตัวเองว่า เราทำอะไรอยู่ เราร้องเพลงทำไม เพราะอะไร แล้วหยุดทำมันทำไม อยากเป็นดารา เหรอ มันก็ไม่ใช่ อยากมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากๆรึเปล่ามันก็เปล่า (แต่ถ้ามีถ้าได้เป็นมันก็ดีอ่ะนะ) แต่มันคือความสุขที่ได้ร้องเพลง เป็นความสุขเพียงแค่ได้ทำในสิ่งที่รักที่ชอบ ก็แค่นั้นพอกลับมาถึงบ้าน ก็จัดการเปิดคาราโอเกะร้องต่อไปอย่างไม่รู้เวลา จนดึก แม่ออกมาถามว่าวันนี้เป็นอะไร ก็ยังชวนแม่ลงมาร้องด้วยกันจนตีสามตีสี่ มันเหมือนได้ในสิ่งที่เป็นส่วนสร้างความสุขให้ชีวิตที่เราขาดมานานมาก
ทุกวันนี้มีความสุขที่ได้ไปออดิชั่นตามที่ต่างๆ ไปเพื่อพัฒนาตัวเอง ไปเพื่อร้องเพลงก็แค่นั้น ไม่ผ่านยังไงก็ปรับปรุงต่อเรื่อยๆ มันทำให้ไม่เคยหมดหวังในการไปในแต่ละครั้งเลย แต่มันทำให้ชีวิตกลับมาสนุกได้อีกครั้งหนึ่ง แค่หาสิ่งที่รักให้เจอ แล้วทำมันอย่างสุขใจก็แค่นี้แหละชีวิต
สุดท้ายนี้อยากจะบอกให้หมั่นถามตัวเองบ่อยๆว่าตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ ทำเพราะอะไร และเพื่ออะไร มันจะทำให้มีสติรับรู้ตัวเอง และหาเป้าหมายในชีวิตได้แน่นอน
ออกตัวก่อนเลยนะครับว่าเป็นกระทู้แรกที่เขียน และเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เรื่องเล่านี้ผมเคยเล่าไว้ให้เพื่อนกับครูฟังไว้ ซึ่งครูคนนี้ได้บอกให้ผมบันทึกเรื่องที่เล่าให้ฟังไว้ เพราะมันเป็นเรื่องราวที่ดีเรื่องนึง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอได้จดบันทึก มันทำให้ได้ทบทวนตัวเอง และเป็นเรื่องที่คอยเตือนสติได้เรื่องหนึ่ง เลยตัดสินใจมาเล่าลงไว้ที่นี่ครับ บอกตัวเองให้สู้ต่อปายยย
ฝากความคิดทิ้งไว้สักนิด