หลายๆคน คงจะเคยอ่านรีวิว วิธีเข้าไปเล่นเครื่องเล่น Harry Potter ที่ USJ มาหลายรีวิวแล้ว เกือบทั้งหมดจะแนะนำให้ไปก่อนเวลาเปิด และวิ่งๆๆๆๆ ไปแย่งกดตั๋วเข้าโซนปราสาท ฮอกวอตส์ แล้วก็ต้องรีบวิ่งไปเข้าคิวเครื่องเล่น Harry Potter ซึ่งคณะของเราที่ไปเที่ยวโอซาก้าก็เช่นกัน พยายามจะทำตามรีวิวที่เค้าแนะนำกัน แต่มันมีเหตุให้เราไม่สามารถไปก่อนสวนเปิดได้จากหลายๆ สาเหตุ กว่าจะไปถึงก็เก้าโมงกว่าๆ แล้ว และที่สำคัญ มันเป็นวันอาทิตย์!!! ที่มวลมหาชาวยุ่นต่างมุ่งหน้ามาที่ USJ ซึ่งจริงๆ เราก็ไม่อยากจะมาวันอาทิตย์ แต่ด้วยข้อจำกัดของแผนการเดินทาง ทำให้มันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
ทีนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจก่อน เชื่อว่าหลายๆ คนอ่านรีวิว ก็อาจจะยังงงๆอยู่ พวกเราก็เช่นกัน มาถึงของจริงแล้วถึงได้กระจ่าง จึงขออธิบายให้ชัดเจนขึ้นอีกหน่อยเกี่ยวกับโซน Harry Potter
USJ นั้นเป็นสวนสนุก โซนอื่นๆ ทั้งหมด สามารถเดินเล่นได้อย่างอิสระเหมือนสวนสนุกทั่วๆไป ยกเว้นโซน Harry Potter หรือ ปราสาทฮอกวอตส์ ซึ่งจะต้องไปกดบัตรคิวก่อน ว่าเราจะสามารถเข้าได้กี่โมง แต่เมื่อเข้าไปแล้ว จะอยู่ได้ทั้งวัน แต่บัตรคิวดังกล่าว ไม่ใช่บัตรคิวเข้าเล่นเครื่องเล่น Harry Potter and the Forbidden Journey เป็นเพียงบัตรคิวเวลาที่เราจะเข้าปราสาทได้เท่านั้น การเข้าเล่นเครื่องเล่น คุณยังคงต้องไปต่อคิวเล่นอยู่ดี
และคิวเครื่องเล่นนั่นแหละ ที่เป็นฝันร้ายของหลายๆ คนที่มาสายๆ เช่น คณะเราไปถึง 9 โมงกว่าๆ ไปกดบัตรคิวเข้าโซนปราสาทได้เวลาประมาณ 11 โมงกว่าๆ เราจึงไปเล่นเครื่องเล่นอื่นๆ รอไปพลางๆ ก่อน เช่น Jurassic Park อันนี้คล้ายๆ ล่องแก่งครับ เตรียมตัวเปียกได้ ด้านนอกมี Raptor ออกมาไล่ล่าผู้คนเป็นระยะๆ
เมื่อถึงเวลา ก็เข้าโซนปราสาท มุ่งหน้าไปที่เครื่องเล่น เราก็พบว่าคิวเครื่องเล่นที่ติดป้ายไว้ด้านหน้า บอกว่าต้องรอ 270 นาที !!! หรือ 4 ชั่วโมงครึ่ง หมายความว่า ถ้าเราไปเข้าคิว เราคงจะเล่นได้ประมาณ 4-5 โมงเย็น เรียกได้ว่า เอาเวลาไปเล่นอย่างอื่น แทบไม่ได้เลย
ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจเดินเล่นถ่ายรูปไปพลางๆ ก่อน นี่คือ ปราสาทฮอกวอตส์ สถานที่ตั้งของเครื่องเล่น Harry Potter and the Forbidden Journey
รถไฟ Hogwarts Express ที่อยู่ด้านหน้าทางเข้าเลย
ดื่ม ButterBeer ย้อมใจไปพลางๆ ตามทางเดินจะมีบู๊ทขายเป็นระยะๆ แต่คิวยาวมากกก จริงๆแล้ว วิธีกินแบบง่ายๆ และเร็วกว่ามากคือ เข้าไปซื้อในร้านไม้กวาดสามอัน(The Three Broomsticks) ซึ่งจะมีแบ่งโซนเป็นร้านอาหาร และมีเคาน์เตอร์ขายเบียร์แบบ Take Away ด้วย ซึ่งคิวจะสั้นกว่าข้างนอกมาก เรารอเพียง 2-3 คิวก็ซื้อได้แล้ว เบียร์มีขายแบบ ใส่แก้วพลาสติกธรรมดา จำราคาไม่ได้ และแบบแก้วเบียร์ที่ระลึก นำกลับได้ ราคา 1,100 Yen (พลาสติกเช่นกัน แต่เป็นพลาสติกแข็งเลียนแบบแก้วเบียร์) มาถึงทั้งทีเลยซื้อแบบแก้วเบียร์เลย
จากนั้นเราก็เดินเข้าร้านโน้น ออกร้านนี้ ถ่ายรูปจนไม่รู้จะถ่ายอะไรแล้ว เราก็ตัดสินใจว่า จะออกจากปราสาท ไปเล่นเครื่องเล่นอย่างอื่นก่อน ก่อนออกไปดูเวลาที่คิวเครื่องเล่น ลดลงมาหน่อย เหลือ 240 นาที เมื่อออกไปแล้ว เราก็ไปกดบัตรคิวเข้าปราสาทใหม่ ได้เวลาประมาณ 5 โมงเย็น จากนั้นก็ไปกินข้าว แล้วก็จับพลัดจับผลูไปเล่น Spiderman อย่างไม่ค่อยตั้งใจเท่าไร แบบว่าเดินใจลอยเข้าไปเพื่อจะค้นพบกว่ามันใช้เวลาเข้าคิวถึงสองชั่วโมง แต่ไหนๆมาแล้ว ก็ต้องอดทนให้ถึงที่สุด ผลปรากฏว่า รู้สึกว่าคุ้มค่ามากๆ Highly Recommended จริงๆ
ออกจาก Spiderman ก็เกือบๆ 6 โมง รีบไปเข้าปราสาทอีกครั้ง พบว่าเวลารอเหลือเพียง 120 นาที พอรับได้ คิวจริงๆ ค่อนข้าง flow ดีมาก แต่มาสะดุดนิดนึง คือ เครื่องเล่นมีปัญหา เลยมีการหยุดไปชั่วคราวประมาณ 15 นาที แต่ในที่สุดก็เปิดต่อไป และแล้วก็ถึงคิวของเรา เราใช้เวลาน้อยกว่าที่คิด คือ รอประมาณชั่วโมงครึ่งเท่านั้น (ตอนนี้เรามีภูมิคุ้มกันการรอคิวสูงแล้ว ชั่วโมงครึ่ง เรื่องเล็ก 555) เราเข้าเล่นโดยที่ไม่ได้อ่านสปอยล์ใดๆ มาก่อน ต้องบอกว่า มันสุดยอดจนไม่สามารถบรรยายมาเป็นคำพูดได้ มันผสานความตื่นเต้นทำนองเดียวกับรถไฟเหาะ และความสนุกของ Harry Porter ออกมาได้อย่างลงตัวที่สุด หลังจากเล่นแล้ว อารมณ์ยังไม่สุดครับ ออกมาต่ออีกรอบทันที ในช่วงเวลาประมาณ เกือบๆ สองทุ่ม วันอาทิตย์ พบว่าคิวเหลือแค่ 30 นาที และเวลาที่เรารอคิวจริงๆ เพียง 20 นาทีเท่านั้น จัดไปอีกรอบอย่างสบายใจ
ดังนั้น คำแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีกิจกรรมอื่นใด ในช่วงค่ำคืน หากไม่ต้องการเสียอารมณ์ไปกับการรอคอย แนะนำให้ไปช่วงสายๆ บ่ายๆ ก็ได้ เล่นอย่างอื่นๆ ไปพลางๆก่อน ซักช่วงเย็นๆ ค่อยเข้าไปโซนปราสาท เพื่อถ่ายรูป และรอคิวเล่นเครื่องเล่นตอนค่ำๆก็ได้ครับ ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย ไม่ต้องเสียเงินซื้อบัตร Express ด้วย ขอให้โชคดีได้เล่นกันทุกคนครับ
[CR] รีวิว เล่น Harry Potter ที่ Universal Studio Japan แบบไม่ตื่นเช้า และไม่ต้องรอนาน (มาก)
ทีนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจก่อน เชื่อว่าหลายๆ คนอ่านรีวิว ก็อาจจะยังงงๆอยู่ พวกเราก็เช่นกัน มาถึงของจริงแล้วถึงได้กระจ่าง จึงขออธิบายให้ชัดเจนขึ้นอีกหน่อยเกี่ยวกับโซน Harry Potter
USJ นั้นเป็นสวนสนุก โซนอื่นๆ ทั้งหมด สามารถเดินเล่นได้อย่างอิสระเหมือนสวนสนุกทั่วๆไป ยกเว้นโซน Harry Potter หรือ ปราสาทฮอกวอตส์ ซึ่งจะต้องไปกดบัตรคิวก่อน ว่าเราจะสามารถเข้าได้กี่โมง แต่เมื่อเข้าไปแล้ว จะอยู่ได้ทั้งวัน แต่บัตรคิวดังกล่าว ไม่ใช่บัตรคิวเข้าเล่นเครื่องเล่น Harry Potter and the Forbidden Journey เป็นเพียงบัตรคิวเวลาที่เราจะเข้าปราสาทได้เท่านั้น การเข้าเล่นเครื่องเล่น คุณยังคงต้องไปต่อคิวเล่นอยู่ดี
และคิวเครื่องเล่นนั่นแหละ ที่เป็นฝันร้ายของหลายๆ คนที่มาสายๆ เช่น คณะเราไปถึง 9 โมงกว่าๆ ไปกดบัตรคิวเข้าโซนปราสาทได้เวลาประมาณ 11 โมงกว่าๆ เราจึงไปเล่นเครื่องเล่นอื่นๆ รอไปพลางๆ ก่อน เช่น Jurassic Park อันนี้คล้ายๆ ล่องแก่งครับ เตรียมตัวเปียกได้ ด้านนอกมี Raptor ออกมาไล่ล่าผู้คนเป็นระยะๆ
เมื่อถึงเวลา ก็เข้าโซนปราสาท มุ่งหน้าไปที่เครื่องเล่น เราก็พบว่าคิวเครื่องเล่นที่ติดป้ายไว้ด้านหน้า บอกว่าต้องรอ 270 นาที !!! หรือ 4 ชั่วโมงครึ่ง หมายความว่า ถ้าเราไปเข้าคิว เราคงจะเล่นได้ประมาณ 4-5 โมงเย็น เรียกได้ว่า เอาเวลาไปเล่นอย่างอื่น แทบไม่ได้เลย
ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจเดินเล่นถ่ายรูปไปพลางๆ ก่อน นี่คือ ปราสาทฮอกวอตส์ สถานที่ตั้งของเครื่องเล่น Harry Potter and the Forbidden Journey
รถไฟ Hogwarts Express ที่อยู่ด้านหน้าทางเข้าเลย
ดื่ม ButterBeer ย้อมใจไปพลางๆ ตามทางเดินจะมีบู๊ทขายเป็นระยะๆ แต่คิวยาวมากกก จริงๆแล้ว วิธีกินแบบง่ายๆ และเร็วกว่ามากคือ เข้าไปซื้อในร้านไม้กวาดสามอัน(The Three Broomsticks) ซึ่งจะมีแบ่งโซนเป็นร้านอาหาร และมีเคาน์เตอร์ขายเบียร์แบบ Take Away ด้วย ซึ่งคิวจะสั้นกว่าข้างนอกมาก เรารอเพียง 2-3 คิวก็ซื้อได้แล้ว เบียร์มีขายแบบ ใส่แก้วพลาสติกธรรมดา จำราคาไม่ได้ และแบบแก้วเบียร์ที่ระลึก นำกลับได้ ราคา 1,100 Yen (พลาสติกเช่นกัน แต่เป็นพลาสติกแข็งเลียนแบบแก้วเบียร์) มาถึงทั้งทีเลยซื้อแบบแก้วเบียร์เลย
จากนั้นเราก็เดินเข้าร้านโน้น ออกร้านนี้ ถ่ายรูปจนไม่รู้จะถ่ายอะไรแล้ว เราก็ตัดสินใจว่า จะออกจากปราสาท ไปเล่นเครื่องเล่นอย่างอื่นก่อน ก่อนออกไปดูเวลาที่คิวเครื่องเล่น ลดลงมาหน่อย เหลือ 240 นาที เมื่อออกไปแล้ว เราก็ไปกดบัตรคิวเข้าปราสาทใหม่ ได้เวลาประมาณ 5 โมงเย็น จากนั้นก็ไปกินข้าว แล้วก็จับพลัดจับผลูไปเล่น Spiderman อย่างไม่ค่อยตั้งใจเท่าไร แบบว่าเดินใจลอยเข้าไปเพื่อจะค้นพบกว่ามันใช้เวลาเข้าคิวถึงสองชั่วโมง แต่ไหนๆมาแล้ว ก็ต้องอดทนให้ถึงที่สุด ผลปรากฏว่า รู้สึกว่าคุ้มค่ามากๆ Highly Recommended จริงๆ
ออกจาก Spiderman ก็เกือบๆ 6 โมง รีบไปเข้าปราสาทอีกครั้ง พบว่าเวลารอเหลือเพียง 120 นาที พอรับได้ คิวจริงๆ ค่อนข้าง flow ดีมาก แต่มาสะดุดนิดนึง คือ เครื่องเล่นมีปัญหา เลยมีการหยุดไปชั่วคราวประมาณ 15 นาที แต่ในที่สุดก็เปิดต่อไป และแล้วก็ถึงคิวของเรา เราใช้เวลาน้อยกว่าที่คิด คือ รอประมาณชั่วโมงครึ่งเท่านั้น (ตอนนี้เรามีภูมิคุ้มกันการรอคิวสูงแล้ว ชั่วโมงครึ่ง เรื่องเล็ก 555) เราเข้าเล่นโดยที่ไม่ได้อ่านสปอยล์ใดๆ มาก่อน ต้องบอกว่า มันสุดยอดจนไม่สามารถบรรยายมาเป็นคำพูดได้ มันผสานความตื่นเต้นทำนองเดียวกับรถไฟเหาะ และความสนุกของ Harry Porter ออกมาได้อย่างลงตัวที่สุด หลังจากเล่นแล้ว อารมณ์ยังไม่สุดครับ ออกมาต่ออีกรอบทันที ในช่วงเวลาประมาณ เกือบๆ สองทุ่ม วันอาทิตย์ พบว่าคิวเหลือแค่ 30 นาที และเวลาที่เรารอคิวจริงๆ เพียง 20 นาทีเท่านั้น จัดไปอีกรอบอย่างสบายใจ
ดังนั้น คำแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีกิจกรรมอื่นใด ในช่วงค่ำคืน หากไม่ต้องการเสียอารมณ์ไปกับการรอคอย แนะนำให้ไปช่วงสายๆ บ่ายๆ ก็ได้ เล่นอย่างอื่นๆ ไปพลางๆก่อน ซักช่วงเย็นๆ ค่อยเข้าไปโซนปราสาท เพื่อถ่ายรูป และรอคิวเล่นเครื่องเล่นตอนค่ำๆก็ได้ครับ ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย ไม่ต้องเสียเงินซื้อบัตร Express ด้วย ขอให้โชคดีได้เล่นกันทุกคนครับ