มือใหม่นะคะหากผิดพลาดประการใดรบกวนชี้แนะด้วยค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อั้นอัดมาหลายเดือนแล้ว จริงๆเราไม่ใช่คนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
เป็นคุณแม่มากกว่า สงสารท่านมากมาระบายให้ฟังหลายรอบ
เรื่องของเรื่องคือญาติทางฝ่ายแม่ฐานะแย่กันหมดอาศัยอยู่ต่างจังหวัดและชายแดน
แม่เราพอแต่งกับพ่อก็มาอยู่ในเมือง แม่รักพี่น้องมากคอยช่วยเหลือตลอดเรื่องเงินเรื่องงาน
ทีนี้แม่ก็รับหลานสาวมาทำงานที่กรุงเทพค่ะ ให้อาศัยอยู่ที่บ้านด้วย กินดีอยู่ดีเหมือนเป็นลูกอีกคนเลย
เขามาอยู่บ้านเราได้เจ็ดปีกว่าแล้วค่ะ แต่ก่อนนิสัยดีมากอ่อนน้อมถ่อมตน
แต่ตั้งแต่ 4 ปีก่อนเขาเริ่มทำนิสัยเสียใส่แม่เรากับคนงานในบ้านค่ะ ชอบวางอำนาจกับคนงาน
เถียงและด่าทอแม่เราเวลาเขาไม่พอใจอะไร อาจจะเพราะช่วงหลายปีมานี้พ่อทำงานหนัก
ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปต่างจังหวัดก็บ่อย ปกติแล้วเขาจะเกรงใจผู้ชายในบ้าน พี่เราก็ไปอยู่คนเดียวแล้ว
แม่เราเป็นคนใจดีชอบโอ๋ชอบให้ท้ายหลานคนนี้บ่อยๆ แต่แม่เราปากหนักบางครั้งอาจจะพูดจาอะไรให้เขาไม่พอใจ
หลายปีมานี้ร้านแม่ก็ขายไม่ดีค่ะ มีปัญหาด้านการเงิน แม่เลยบอกว่าจะขอหักเงินเดือนเขาถือเป็นค่าบ้าน
เพราะบ้านที่ต่างจังหวัดที่พ่อแม่พี่น้องของหลานคนนี้อาศัยอยู่จริงๆแล้วเป็นที่ดินและบ้านของแม่ที่ซื้อไว้นานแล้วค่ะ
แม่ก็ให้เขาอยู่ฟรีมาโดยตลอด เงินเดือนเขาก็ได้ไม่ต่ำกว่าหมื่นห้า เพิ่มขึ้นทุกปี โบนัสก็มีให้แต่หลังๆเงินหมุนไม่ทัน
แม่เลยจะขายบ้านที่ตจว. แต่ก็สงสารว่าเขาจะไปอยู่ไหนเลยขายให้เขาซะเลยในราคาไม่กี่แสนทั้งที่ถ้าขายให้คนอื่น
ที่ดินตรงนั้นมูลค่าหลายล้านแล้วในตอนนี้ ตอนแรกเขาไม่ยอมทะเลาะกับแม่ทุกวันแต่แม่ก็อธิบายให้ฟังแกมขอร้อง
ตั้งแต่ปีนั้นมาเขาก็ทำอารมณ์รุนแรงกับแม่เราตลอด เริ่มเปิดเผยนิสัยแย่ๆออกมาให้เห็น
เขารังแกคนงานที่บ้านและยุยงให้คนงานใหม่ๆลาออกไปหมดจนแม่ท้อเลยค่ะ ต้องหาคนงานเดือนนึงไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
แล้วพอดีแม่มีญาติที่อาศัยอยู่ต่างประเทศฐานะก็ไม่ได้ดีมากมายแต่ก็ดีกว่าแม่หน่อยเพราะค่าเงินสูงกว่าเท่านั้น
หลานสาวคนนี้สนิทกับญาติที่ฝั่งนู้นค่ะแต่เขาไปอยู่นู้นไม่ได้ด้วยสาเหตุเรื่องบัตรประชาชนหรืออะไรสักอย่างเราไม่แน่ใจ
เขาคอยนินทาและใส่ร้ายแม่ให้ญาติฝั่งนู้นเกลียดแม่ จากที่ญาติเคยช่วยเหลือตอนนี้ญาติทางนู้นไม่คุยกับแม่เราแล้วค่ะ
คือญาติทางนู้นจะฟังเขาตลอดแต่ไม่เคยถามความจริงจากแม่เราเลย บวกกับแม่และญาติบางคนที่อยู่ทางนู้นไม่ค่อยสนิทกัน
เลยกลายเป็นว่าแม่โดนใส่ร้ายแย่ๆตลอด แล้วหลานคนนี้ทำงานให้แม่ที่ร้านเขาเริ่มขโมยเงินและโกงเงินที่ร้าน
แม่จับได้หลายปีแล้วก็ได้แค่ว่าบ้างตักเตือนบ้าง ก็ดีขึ้นแล้วก็กลับมาแย่เหมือนเดิม แม่ไม่ยอมทำอะไรสักที
เราบอกให้แม่ส่งเขากลับไปตจว. เพราะยิ่งอยู่ยิ่งทำให้ปวดหัวสงสารแม่ แต่แม่บอกว่าถ้าไม่มีเขาก็ไม่มีคนช่วยงานแม่
แล้วแม่ก็ไว้ใจเขา แต่เราว่าตอนนี้เขาไว้ใจไม่ได้แล้ว ก็ไม่รู้ทำไมแม่ยังดื้อรั้งเขาไว้อยู่ เราเคยได้ยินเขานินทาทั้งบ้านเราให้ญาติทางนู้นฟัง
ทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งพี่และเรา เรายังตกใจเพราะเมื่อก่อนเขาดีมากแล้วเราก็ไม่ค่อยยุ่งเรื่องของเขาด้วยซ้ำ
หลังๆมานี้เขาก็เริ่มแกล้งมาและแกล้งเราค่ะ อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น กินข้าวแล้วไม่ล้างจาน ใช้ห้องน้ำแล้วไม่ทำความสะอาด
เปิดไฟเปิดน้ำทิ้งไว้เป็นชั่วโมง ล่าสุดเขาอยากกินขนมตอน 5 ทุ่มเกือบจะเที่ยงคืน เขาบอกให้แม่เราขับรถพาเขาไปเซเว่นค่ะ
ซึ่งแม่เราปฏิเสธเพราะง่วงแล้ว เขาก็หันมาทำทีชวนเราว่าไปเซเว่นกันมั้ย คือจะให้เราขับรถให้ ซึ่งเซเว่นไม่ไกลปั่นจักรยานไปก็ได้ค่ะ
เราเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วจากเรื่องเล็กๆน้อยๆมันสะสม เขาทำตัวราวกับเป็นเจ้าของบ้าน แล้วเรากับแม่เป็นคนอาศัยเลยหรือคนใช้เลย
เขาใช้ห้องน้ำคนเดียวแต่ไม่ยอมทำความสะอาดแม่เราต้องไปนั่งขัดให้ บ้านเราไม่มีคนงานตั้งแต่ที่แม่จับได้ว่าเขายุยงคนงานให้ออกบวกกับเรื่องการเงิน
เราจะเมินเขาตลอดแต่หลังๆแม่มาระบายให้เราฟังบ่อยมากขึ้น เสียงแม่ดูเหนื่อยใจมาก และเขาเองก็เริ่มมาก่อกวนเราจนทนไม่ได้
ล่าสุดเมื่อกี้เลยเขาเพิ่งแอบไปโทรศัพท์นินทามาเราเห็นพิรุธเขา เราไม่พอใจมากๆ แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี
อีกอย่างเขาชอบโหมงานหนัก ทำตัวน่าสงสารแล้วก็เอาไปบอกญาติทางนู้นว่าแม่ใช้งานเขาหนักมาก
แม่เราก็เห็นใจบอกให้เขาหยุดเขาไม่ยอมหยุดเองจะทำงาน(ซึ่งเราคิดว่าเพื่อจะได้โกงเงิน) แม่เลยซื้อมอไซต์ให้เขาซึ่งเขาก็บอกว่าขอรถแทน
แม่บอกไม่มีตัง แถมเขาเองก็ขับรถไม่เป็นด้วยซ้ำ พอซื้อมอไซต์มาให้เขาก็ไม่ยอมใช้เลยค่ะ ทำตัวหยิ่งมาก เริ่มหัดมาใช้ของแบรนด์เนมและกินหรู
มันอาจจะไม่ได้หรูหราหรือแบรนด์ราคาแพงมากแต่จากฐานะเขาที่ต้องส่งเงินให้ที่บ้านมันดูเกินตัวไปน่ะค่ะ เขาเริ่มใช้เงินบ่อยขึ้นช่วงที่แม่ขาดทุนจากการขาย
และสุดท้ายแม่จับได้แต่แม่ชอบบอกว่ายังไงก็ญาติกัน มีญาติหลายคนที่เคยมาทำงานกับแม่พักนึงทุกคนขโมยตังหมดเลยค่ะจับได้บ้างไม่ได้บ้าง
แต่แม่ก็ปล่อยไปทุกคนบอกว่าญาติกัน ซึ่งตรงนี้เรากลับมองว่าเป็นการทำให้เขาเคยชินและติดเป็นนิสัยขี้โกงมากกว่า
ใครพอจะมีคำแนะนำหรืออยากแชร์ประสบการณ์คล้ายๆกันบ้างมั้ยคะ จะทำอย่างไรดีกับเรื่องนี้
ไม่รู้จะแท็กยังไงปีอ่ะคะ ถ้าแท็กผิดขอโทษด้วยนะคะ แท็กชานเรือนเพราะเกี่ยวกับครอบครัวและคุณแม่
ขอคำปรึกษาทำยังไงดีกับญาตินิสัยแย่ๆคะ?
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อั้นอัดมาหลายเดือนแล้ว จริงๆเราไม่ใช่คนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
เป็นคุณแม่มากกว่า สงสารท่านมากมาระบายให้ฟังหลายรอบ
เรื่องของเรื่องคือญาติทางฝ่ายแม่ฐานะแย่กันหมดอาศัยอยู่ต่างจังหวัดและชายแดน
แม่เราพอแต่งกับพ่อก็มาอยู่ในเมือง แม่รักพี่น้องมากคอยช่วยเหลือตลอดเรื่องเงินเรื่องงาน
ทีนี้แม่ก็รับหลานสาวมาทำงานที่กรุงเทพค่ะ ให้อาศัยอยู่ที่บ้านด้วย กินดีอยู่ดีเหมือนเป็นลูกอีกคนเลย
เขามาอยู่บ้านเราได้เจ็ดปีกว่าแล้วค่ะ แต่ก่อนนิสัยดีมากอ่อนน้อมถ่อมตน
แต่ตั้งแต่ 4 ปีก่อนเขาเริ่มทำนิสัยเสียใส่แม่เรากับคนงานในบ้านค่ะ ชอบวางอำนาจกับคนงาน
เถียงและด่าทอแม่เราเวลาเขาไม่พอใจอะไร อาจจะเพราะช่วงหลายปีมานี้พ่อทำงานหนัก
ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปต่างจังหวัดก็บ่อย ปกติแล้วเขาจะเกรงใจผู้ชายในบ้าน พี่เราก็ไปอยู่คนเดียวแล้ว
แม่เราเป็นคนใจดีชอบโอ๋ชอบให้ท้ายหลานคนนี้บ่อยๆ แต่แม่เราปากหนักบางครั้งอาจจะพูดจาอะไรให้เขาไม่พอใจ
หลายปีมานี้ร้านแม่ก็ขายไม่ดีค่ะ มีปัญหาด้านการเงิน แม่เลยบอกว่าจะขอหักเงินเดือนเขาถือเป็นค่าบ้าน
เพราะบ้านที่ต่างจังหวัดที่พ่อแม่พี่น้องของหลานคนนี้อาศัยอยู่จริงๆแล้วเป็นที่ดินและบ้านของแม่ที่ซื้อไว้นานแล้วค่ะ
แม่ก็ให้เขาอยู่ฟรีมาโดยตลอด เงินเดือนเขาก็ได้ไม่ต่ำกว่าหมื่นห้า เพิ่มขึ้นทุกปี โบนัสก็มีให้แต่หลังๆเงินหมุนไม่ทัน
แม่เลยจะขายบ้านที่ตจว. แต่ก็สงสารว่าเขาจะไปอยู่ไหนเลยขายให้เขาซะเลยในราคาไม่กี่แสนทั้งที่ถ้าขายให้คนอื่น
ที่ดินตรงนั้นมูลค่าหลายล้านแล้วในตอนนี้ ตอนแรกเขาไม่ยอมทะเลาะกับแม่ทุกวันแต่แม่ก็อธิบายให้ฟังแกมขอร้อง
ตั้งแต่ปีนั้นมาเขาก็ทำอารมณ์รุนแรงกับแม่เราตลอด เริ่มเปิดเผยนิสัยแย่ๆออกมาให้เห็น
เขารังแกคนงานที่บ้านและยุยงให้คนงานใหม่ๆลาออกไปหมดจนแม่ท้อเลยค่ะ ต้องหาคนงานเดือนนึงไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
แล้วพอดีแม่มีญาติที่อาศัยอยู่ต่างประเทศฐานะก็ไม่ได้ดีมากมายแต่ก็ดีกว่าแม่หน่อยเพราะค่าเงินสูงกว่าเท่านั้น
หลานสาวคนนี้สนิทกับญาติที่ฝั่งนู้นค่ะแต่เขาไปอยู่นู้นไม่ได้ด้วยสาเหตุเรื่องบัตรประชาชนหรืออะไรสักอย่างเราไม่แน่ใจ
เขาคอยนินทาและใส่ร้ายแม่ให้ญาติฝั่งนู้นเกลียดแม่ จากที่ญาติเคยช่วยเหลือตอนนี้ญาติทางนู้นไม่คุยกับแม่เราแล้วค่ะ
คือญาติทางนู้นจะฟังเขาตลอดแต่ไม่เคยถามความจริงจากแม่เราเลย บวกกับแม่และญาติบางคนที่อยู่ทางนู้นไม่ค่อยสนิทกัน
เลยกลายเป็นว่าแม่โดนใส่ร้ายแย่ๆตลอด แล้วหลานคนนี้ทำงานให้แม่ที่ร้านเขาเริ่มขโมยเงินและโกงเงินที่ร้าน
แม่จับได้หลายปีแล้วก็ได้แค่ว่าบ้างตักเตือนบ้าง ก็ดีขึ้นแล้วก็กลับมาแย่เหมือนเดิม แม่ไม่ยอมทำอะไรสักที
เราบอกให้แม่ส่งเขากลับไปตจว. เพราะยิ่งอยู่ยิ่งทำให้ปวดหัวสงสารแม่ แต่แม่บอกว่าถ้าไม่มีเขาก็ไม่มีคนช่วยงานแม่
แล้วแม่ก็ไว้ใจเขา แต่เราว่าตอนนี้เขาไว้ใจไม่ได้แล้ว ก็ไม่รู้ทำไมแม่ยังดื้อรั้งเขาไว้อยู่ เราเคยได้ยินเขานินทาทั้งบ้านเราให้ญาติทางนู้นฟัง
ทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งพี่และเรา เรายังตกใจเพราะเมื่อก่อนเขาดีมากแล้วเราก็ไม่ค่อยยุ่งเรื่องของเขาด้วยซ้ำ
หลังๆมานี้เขาก็เริ่มแกล้งมาและแกล้งเราค่ะ อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น กินข้าวแล้วไม่ล้างจาน ใช้ห้องน้ำแล้วไม่ทำความสะอาด
เปิดไฟเปิดน้ำทิ้งไว้เป็นชั่วโมง ล่าสุดเขาอยากกินขนมตอน 5 ทุ่มเกือบจะเที่ยงคืน เขาบอกให้แม่เราขับรถพาเขาไปเซเว่นค่ะ
ซึ่งแม่เราปฏิเสธเพราะง่วงแล้ว เขาก็หันมาทำทีชวนเราว่าไปเซเว่นกันมั้ย คือจะให้เราขับรถให้ ซึ่งเซเว่นไม่ไกลปั่นจักรยานไปก็ได้ค่ะ
เราเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วจากเรื่องเล็กๆน้อยๆมันสะสม เขาทำตัวราวกับเป็นเจ้าของบ้าน แล้วเรากับแม่เป็นคนอาศัยเลยหรือคนใช้เลย
เขาใช้ห้องน้ำคนเดียวแต่ไม่ยอมทำความสะอาดแม่เราต้องไปนั่งขัดให้ บ้านเราไม่มีคนงานตั้งแต่ที่แม่จับได้ว่าเขายุยงคนงานให้ออกบวกกับเรื่องการเงิน
เราจะเมินเขาตลอดแต่หลังๆแม่มาระบายให้เราฟังบ่อยมากขึ้น เสียงแม่ดูเหนื่อยใจมาก และเขาเองก็เริ่มมาก่อกวนเราจนทนไม่ได้
ล่าสุดเมื่อกี้เลยเขาเพิ่งแอบไปโทรศัพท์นินทามาเราเห็นพิรุธเขา เราไม่พอใจมากๆ แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี
อีกอย่างเขาชอบโหมงานหนัก ทำตัวน่าสงสารแล้วก็เอาไปบอกญาติทางนู้นว่าแม่ใช้งานเขาหนักมาก
แม่เราก็เห็นใจบอกให้เขาหยุดเขาไม่ยอมหยุดเองจะทำงาน(ซึ่งเราคิดว่าเพื่อจะได้โกงเงิน) แม่เลยซื้อมอไซต์ให้เขาซึ่งเขาก็บอกว่าขอรถแทน
แม่บอกไม่มีตัง แถมเขาเองก็ขับรถไม่เป็นด้วยซ้ำ พอซื้อมอไซต์มาให้เขาก็ไม่ยอมใช้เลยค่ะ ทำตัวหยิ่งมาก เริ่มหัดมาใช้ของแบรนด์เนมและกินหรู
มันอาจจะไม่ได้หรูหราหรือแบรนด์ราคาแพงมากแต่จากฐานะเขาที่ต้องส่งเงินให้ที่บ้านมันดูเกินตัวไปน่ะค่ะ เขาเริ่มใช้เงินบ่อยขึ้นช่วงที่แม่ขาดทุนจากการขาย
และสุดท้ายแม่จับได้แต่แม่ชอบบอกว่ายังไงก็ญาติกัน มีญาติหลายคนที่เคยมาทำงานกับแม่พักนึงทุกคนขโมยตังหมดเลยค่ะจับได้บ้างไม่ได้บ้าง
แต่แม่ก็ปล่อยไปทุกคนบอกว่าญาติกัน ซึ่งตรงนี้เรากลับมองว่าเป็นการทำให้เขาเคยชินและติดเป็นนิสัยขี้โกงมากกว่า
ใครพอจะมีคำแนะนำหรืออยากแชร์ประสบการณ์คล้ายๆกันบ้างมั้ยคะ จะทำอย่างไรดีกับเรื่องนี้
ไม่รู้จะแท็กยังไงปีอ่ะคะ ถ้าแท็กผิดขอโทษด้วยนะคะ แท็กชานเรือนเพราะเกี่ยวกับครอบครัวและคุณแม่