ครั้งแรกที่เคยรีวิวในพันทิพ อาจเล่าเรื่องราวไม่เก่งนะครับ >___<”
2 คืนแรกพักที่ Nagasaki International Hostel AKARI คืนสุดท้ายพักที่ Dormyinn ที่ Gion
รูปถ่ายจะไม่มีของกิน เน้นรูปวิวเป็นหลักเพราะ คอนเซปของการเที่ยวครั้งนี้ คือไป 1 ทวีปแต่เหมือนไป 2 ทวีป (เอเชีย+ยุโรป)
plan เลยออกมาแบบนี้ ราคาทั้งหมดจะบอกตอนท้ายรีวิวนะครับ ^^
28 Nov
-Bangkok – Fukuoka Airport – นั่งรถบัสไป Nagasaki –เข้าที่พัก – Nagasaki Peace Park - Dejima - วิวกลางคืนที่ Inasayama
29 Nov
- Huis Ten Bosch ทั้งวัน
30 Nov
- Fukuoka – Dazaifu – Tenjin Shopping - Nakasu Kawabata Shopping
1 Dec
กลับบ้าน
ออกเดินทางด้วยสายการบิน Jetstart จองตอนมีโปรโมชั่น เลยได้ราคาถูกหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับถูกที่สุด เคยเจอถูกกว่านี้แต่เป็นช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น เลยไม่ไปดีกว่า อยากไปช่วงใบไม้แดง ช่วงที่ผมไป อากาศไม่หนาวเกินไปประมาณ 14-19 องศา เย็นสบายกำลังดี ก่อนไปก็ไปเช่า pocket wifi เจ้านึงเพื่อสะดวกในการติดต่อสื่อสาร รับตัวเครื่องได้ที่สนามบินเลย ส่วนสัญญาณเครื่องก็โอเคนะครับ สัญญาณอาจหายในบางพื้นที่ เช่นออกนอกเมือง ชนบท เครื่องบินออกจากไทย เวลา 2.15 น. ถึงสนามบินฟุกุโอกะเวลา 9.30 น. (เวลาญี่ปุ่น) ตรวจคนเข้าเมือง ไปรับกระเป๋า แล้วออกมาจองรถบัส นั่งไปสถานีรถไฟนางาซากิ รอบ 10.12 น. ตอนเดินไปซื้อตั๋วรถบัส เจ้าหน้าที่ดีมากเลย บอกว่าถ้าซื้อแบบไปกลับมีส่วนลดสำหรับ 4 คน จากราคาไปกลับ 2570YEN เหลือ 2050YEN ผมพูดภาษาญี่ปุ่นได้ เลยคุยกันรู้เรื่อง มีพักระหว่างทาง 5 นาที
มาถึงรถบัสไปจอดฝั่งตรงข้ามสถานีนางาซากิ ตามกำหนดการเวลาที่สำรวจมา คือ 12.33 เดินทางเข้าจุดหมายที่พักคือ Nagasaki International Hostel AKARI ผมจองผ่าน Booking.com มาจ่ายเงินที่พักเลย สะดวกจริงๆ นั่งรถรางจากหน้าสถานีนางาซากิไปลงที่ Kokaido-mae station แล้วเดินไปประมาณ 5 นาที ภาพแรกที่เห็นระหว่างเดินไปที่พักเท่านั้นละ ผมถึงกับตัดแผนในการเที่ยว Nagasaki Peace Park ออกในทันที เพราะมันสวยมาก อยู่ถ่ายรูปตรงนี้ไป ชม.- 2 ชม.เลยทีเดียว ระหว่างถ่ายรูปอยู่ก็เจอ คุณป้าใจดีมาก ที่เห็นพวกผมกำลังตื่นเต้นกับบรรยากาศใบไม้เหลืองอยู่ เลยเดินมาบอกว่า ให้เดินไปที่วัด 光永寺 (Koeiji) ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่พักพอดี บอกว่าที่นั่นสวยมาก มีต้นไม้ใหญ่ แถมใบไม้ที่ตกลงมาที่พื้นเต็มไปหมด เลยเดินไปดู สวยจริงๆ ต้องขอบคุณคุณป้ามากจริงๆ
หลังจากถ่ายรูปตรงนี้ไปเกือบร้อยรูป 555 ก็เดินไปถ่ายรูปที่ 眼鏡橋 (Meganebashi) หรือสะพานแว่นตา ก็ถ่ายรูปแต่พองาม สะพานนี้ วงละอองฟองเคยมาถ่ายทำ MV เพลง คิด (Miss)
เสร็จแล้วก็เข้าที่พักเช็คอินนะครับ ลืมถ่ายรูปที่พักมา เอารูปจากเว็บมาเลยละกัน สำหรับผมที่พักไม่ได้หรูหรา แต่ว่าโอเคอยู่ครับราคาไม่แพง ห้องน้ำในตัว มีวิวสวยๆ ใกล้ที่พัก แถมมาเกิน 4 คนยังมีบัตรส่วนลด 50% สำหรับเข้าชมสถานที่เที่ยวต่างๆ ให้อีก คุ้มสุดๆเลยครับ เก็บของเข้าที่พักเรีบบร้อย
ไปต่อที่ Dejima เนื่องจากยังมีเวลาเหลือพอที่ก่อนที่จะไปดูวิวกลางคืนที่ Inasayama ที่นี้ค่าเข้าปกติ 500YEN แต่มีบัตรส่วนลด เลยเหลือแค่ 250YEN สบายเลย ^^ ที่นี้ เคยเป็นเกาะที่ชาวญี่ปุ่นทำการค้ากับชาวโปรตุเกสต่อมาชาวโปรตุเกสได้ถูกขับไล่ออกจากเกาะเนื่องจากมีเหตุการณ์กบฎเกิดขึ้น และชาวดัชต์ได้เข้ามาอาศัยอยู่แทน
ปิดท้ายวันนี้ด้วยวิวกลางคืนอันสุดสวยที่ Inasayama ตอนแรกคิดว่าจะไม่สามารถขึ้นไปได้แล้ว เพราะฝนดันมาตกตอนนี้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ คนก็ยังขึ้นไปดูวิวกันเยอะเลยครับ ค่าขึ้นกระเช้า 1260YEN มีบัตรส่วนลดเหลือแค่ 630YEN สบายกระเป๋าอีกแล้ว เสียดายถ้าอากาศดีดี น่าจะได้รูปที่สวยกว่านี้ ^^
[CR] รีวิวเที่ยว Nagasaki-Huis Ten Bosch-Fukuoka-Dazaifu 4วัน3คืน 16xxx+++
2 คืนแรกพักที่ Nagasaki International Hostel AKARI คืนสุดท้ายพักที่ Dormyinn ที่ Gion
รูปถ่ายจะไม่มีของกิน เน้นรูปวิวเป็นหลักเพราะ คอนเซปของการเที่ยวครั้งนี้ คือไป 1 ทวีปแต่เหมือนไป 2 ทวีป (เอเชีย+ยุโรป)
plan เลยออกมาแบบนี้ ราคาทั้งหมดจะบอกตอนท้ายรีวิวนะครับ ^^
28 Nov
-Bangkok – Fukuoka Airport – นั่งรถบัสไป Nagasaki –เข้าที่พัก – Nagasaki Peace Park - Dejima - วิวกลางคืนที่ Inasayama
29 Nov
- Huis Ten Bosch ทั้งวัน
30 Nov
- Fukuoka – Dazaifu – Tenjin Shopping - Nakasu Kawabata Shopping
1 Dec
กลับบ้าน
ออกเดินทางด้วยสายการบิน Jetstart จองตอนมีโปรโมชั่น เลยได้ราคาถูกหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับถูกที่สุด เคยเจอถูกกว่านี้แต่เป็นช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น เลยไม่ไปดีกว่า อยากไปช่วงใบไม้แดง ช่วงที่ผมไป อากาศไม่หนาวเกินไปประมาณ 14-19 องศา เย็นสบายกำลังดี ก่อนไปก็ไปเช่า pocket wifi เจ้านึงเพื่อสะดวกในการติดต่อสื่อสาร รับตัวเครื่องได้ที่สนามบินเลย ส่วนสัญญาณเครื่องก็โอเคนะครับ สัญญาณอาจหายในบางพื้นที่ เช่นออกนอกเมือง ชนบท เครื่องบินออกจากไทย เวลา 2.15 น. ถึงสนามบินฟุกุโอกะเวลา 9.30 น. (เวลาญี่ปุ่น) ตรวจคนเข้าเมือง ไปรับกระเป๋า แล้วออกมาจองรถบัส นั่งไปสถานีรถไฟนางาซากิ รอบ 10.12 น. ตอนเดินไปซื้อตั๋วรถบัส เจ้าหน้าที่ดีมากเลย บอกว่าถ้าซื้อแบบไปกลับมีส่วนลดสำหรับ 4 คน จากราคาไปกลับ 2570YEN เหลือ 2050YEN ผมพูดภาษาญี่ปุ่นได้ เลยคุยกันรู้เรื่อง มีพักระหว่างทาง 5 นาที
มาถึงรถบัสไปจอดฝั่งตรงข้ามสถานีนางาซากิ ตามกำหนดการเวลาที่สำรวจมา คือ 12.33 เดินทางเข้าจุดหมายที่พักคือ Nagasaki International Hostel AKARI ผมจองผ่าน Booking.com มาจ่ายเงินที่พักเลย สะดวกจริงๆ นั่งรถรางจากหน้าสถานีนางาซากิไปลงที่ Kokaido-mae station แล้วเดินไปประมาณ 5 นาที ภาพแรกที่เห็นระหว่างเดินไปที่พักเท่านั้นละ ผมถึงกับตัดแผนในการเที่ยว Nagasaki Peace Park ออกในทันที เพราะมันสวยมาก อยู่ถ่ายรูปตรงนี้ไป ชม.- 2 ชม.เลยทีเดียว ระหว่างถ่ายรูปอยู่ก็เจอ คุณป้าใจดีมาก ที่เห็นพวกผมกำลังตื่นเต้นกับบรรยากาศใบไม้เหลืองอยู่ เลยเดินมาบอกว่า ให้เดินไปที่วัด 光永寺 (Koeiji) ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่พักพอดี บอกว่าที่นั่นสวยมาก มีต้นไม้ใหญ่ แถมใบไม้ที่ตกลงมาที่พื้นเต็มไปหมด เลยเดินไปดู สวยจริงๆ ต้องขอบคุณคุณป้ามากจริงๆ
หลังจากถ่ายรูปตรงนี้ไปเกือบร้อยรูป 555 ก็เดินไปถ่ายรูปที่ 眼鏡橋 (Meganebashi) หรือสะพานแว่นตา ก็ถ่ายรูปแต่พองาม สะพานนี้ วงละอองฟองเคยมาถ่ายทำ MV เพลง คิด (Miss)
เสร็จแล้วก็เข้าที่พักเช็คอินนะครับ ลืมถ่ายรูปที่พักมา เอารูปจากเว็บมาเลยละกัน สำหรับผมที่พักไม่ได้หรูหรา แต่ว่าโอเคอยู่ครับราคาไม่แพง ห้องน้ำในตัว มีวิวสวยๆ ใกล้ที่พัก แถมมาเกิน 4 คนยังมีบัตรส่วนลด 50% สำหรับเข้าชมสถานที่เที่ยวต่างๆ ให้อีก คุ้มสุดๆเลยครับ เก็บของเข้าที่พักเรีบบร้อย
ไปต่อที่ Dejima เนื่องจากยังมีเวลาเหลือพอที่ก่อนที่จะไปดูวิวกลางคืนที่ Inasayama ที่นี้ค่าเข้าปกติ 500YEN แต่มีบัตรส่วนลด เลยเหลือแค่ 250YEN สบายเลย ^^ ที่นี้ เคยเป็นเกาะที่ชาวญี่ปุ่นทำการค้ากับชาวโปรตุเกสต่อมาชาวโปรตุเกสได้ถูกขับไล่ออกจากเกาะเนื่องจากมีเหตุการณ์กบฎเกิดขึ้น และชาวดัชต์ได้เข้ามาอาศัยอยู่แทน
ปิดท้ายวันนี้ด้วยวิวกลางคืนอันสุดสวยที่ Inasayama ตอนแรกคิดว่าจะไม่สามารถขึ้นไปได้แล้ว เพราะฝนดันมาตกตอนนี้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ คนก็ยังขึ้นไปดูวิวกันเยอะเลยครับ ค่าขึ้นกระเช้า 1260YEN มีบัตรส่วนลดเหลือแค่ 630YEN สบายกระเป๋าอีกแล้ว เสียดายถ้าอากาศดีดี น่าจะได้รูปที่สวยกว่านี้ ^^