ใครมีวิธีรับมือกับคุณแม่แบบนี้บ้าง ?

แม่เราเป็นซิงเกิ้ลมัม ทำงานเลี้ยงเราและน้องชายคนเดียวมาตั้งแต่เรายังเด็ก ๆ
ท่านเป็นคนจัดการทุกอย่างในชีวิต ตัดสินใจ และอื่น ๆ ตัวอย่างข้อห้ามและข้อปฏิบัติซึ่งแม่เราเรียกว่าว่าแนะนำ (แต่ถ้าไม่ทำเหวี่ยงกระจาย)
     1. อย่าเพิ่งแต่งงาน (ปัจจุบันเรา 27 น้องชาย 24) และอย่าไปไหนกับแฟนมากเกินไป ในส่วนของเราให้หมั้นไว้ ยังไม่ให้แต่ง ส่วนของน้องชายยังไม่ให้มี มีปัญหามาก ถ้าน้องชายจะไปหานอนค้างกับแฟน (อารมณ์ว่าหวงหรืออะไรไม่รู้) ด่าจนเลิกด่าเพราะพวกเราไม่ฟัง เดือนนึงจะเจอแฟนไม่เกิน 3 ครั้ง ไปค้างเดือนนึงซักครั้งนึง พอด่าแล้วเราไม่ฟังเข้าโหมดดราม่า "ที่ Gu ยังเลี้ยงพวกคนเดียวมาได้ ใครมาจีบก็ไม่เอา แล้วดูพวกสิ เห็นแก่ตัว" (แม่เรามีแฟนตลอดเพียงแค่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน)
     2. เงินเดือนทุกบาทแม่เก็บหมด ในส่วนของน้องเรา ในส่วนของเราทะเลาะกันบ้านแทบแตก เราได้คืนมาเดือนละ 2,000 ส่วนน้องเราเหรอ ได้สามวันร้อยบ้าง สองวันร้อยบ้าง ขอเยอะไม่ได้ แม่ด่า (เราสงสารน้องเรามากนะ แอบมาน้อยใจกับเราบ่อยๆ มันขยันทำโอทีมาก กลับบ้านดึกทุกวัน แต่ไม่ได้ใช้ตังค์)
     3. เนื่องจากข้อ 2 ทำให้ค่าใช้จ่ายในบ้านทุกอย่าง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต  ค่ากับข้าว คุณแม่เป็นคนจ่าย (ยกเว้นของส่วนตัวของเรา เช่น ครีมปทินผิว เสื้อผ้าทำงาน เสื้อผ้าไปเที่ยว เราจ่ายเอง) มีปัญหากันบ่อยมากล่าสุด ด่าเรากับน้องว่า "อะไร ๆ ก็ Gu ใช้ Gu อย่างกับทาส ไม่เคยจะสนใจดูค่าน้ำ ค่าไฟ มันเลยกำหนด Gu จะปล่อยให้แมร่งตัดไปเลย"
        ในข้อ 3 นี้ เราตอบแม่เราไปว่า อะไรที่แม่ไม่ไหว ให้เอามาให้เราทำบ้าง สั่งมาเลย เช่นค่าน้ำ ค่าไฟ ให้เราดู เราก็จะหักจากเงินเดือนเรานั่นแหละ ไปจ่ายเองทุกเดือน แม่ไม่สั่งเดี๋ยวหนูไปทำ แม่ก็ไม่พอใจอีก
     4. แม่เราเป็นคนทำกับข้าว ซึ่งท่านบ่นเป็นประจำจนเราเอือมแต่ก็ฟังเฉยๆ ว่า "ทำกับข้าวมันเหนื่อยแค่ไหน พวก Mung รู้มั้ย หา แ_ก กันเองมั่งเถอะ Gu เหนื่อย" บ้านเราเป็นร้านขายของเล็กๆ ย้ำว่าเล็กมากแทบจะไม่มีอะไรเนื่องจากยุคที่คนตกงานมาเปิดร้านกันเยอะ ประกอบกับพวกเราทำงานได้แล้ว แม่ไม่จำเป็นต้องขายอะไรเยอะแยะ ลงของไว้กินไว้ใช้เองเท่านั้น แม่เราเปิดร้านทำผม บ้านนอกนานๆจะมีคนมาทำซักที ทำให้บางวันที่มีคนมาทำ แม่เราจะบ่นเราตลอดเรื่องทำกับข้าว
        ในข้อสี่นี่ตอนแม่เราอารมณ์ดีๆ นี่ เราเคยคุยกันนะ บอกเลยว่าให้แม่หุงข้าวอย่างเดียว ซื้อกับข้าวไว้ตู้เย็น เรากลับมาทำเอง (เนื่องจากคุณแม่เก็บเงินค่ากับข้าว) เห็นทำได้ไม่กี่วัน คุณแม่ก็กลับมาทำอีก เนื่องจากตัวคุณแม่เองก็ต้องกิน กว่าเราจะกลับหกโมงกว่า น้องชายเกือบสามทุ่ม
     5. ซักผ้า แม่เราเป็นคนซักผ้าของเรากับของน้องชาย เนื่องจากน้องชายทำโอทีตลอด และเราเรียนเสาร์อาทิตย์ แม่เป็นคนซัก สมัยแรกๆ เครื่องซักผ้ารุ่นเก่าปั่นเสร็จแม่ต้องออกมาซักน้ำเปล่า บิดตากเอง เราสงสารแม่เลยซื้อเครื่องซักผ้าอัตโนมัติมาให้ แรกๆ ก็โอเคหลังๆ มา เอาอีกล่ะ
"ทำไม Gu ต้องมาซักผ้าให้พวก Mung ใช้กูอย่างกับทาส" เราแก้ปัญหาโดยซื้อตะกร้ามาแยกผ้าในส่วนของเราเอง เราจะซักเอง แม่เราไม่พอใจอีก
"เก่งนักก็ซักเอง" เราซักอยู่ได้ไม่กี่อาทิตย์ สุดท้ายคุณแม่ก็กลับไปซักอีก โดยบอกว่า แยกกันซักมันเปลืองน้ำ เปลืองไฟ

นี่เป็นตัวอย่างคร่าว ๆ เล็กๆ น้อยๆ เราไม่ได้ใส่ใจมาจดจำ อะไรข้ามได้ก็ข้ามไป ลำพังตัวเราน่ะ ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่น้องเราดิ่ ไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลย แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ต้องถามแม่หมด แม้กระทั่งไปซื้อรถเนี่ย ของแถมเขาให้เลือกจะเอาอะไร ต้องโทรกลับมาถามแม่ เฮ้อ!! เราเข้าใจมันนะ แม่จัดการแทนมันมาทุกอย่าง จนทำให้มันไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลย แต่มันก็รักแม่แหละ เราก็รัก แต่เราว่าบางอย่างก็เกินไป เราแทบไม่ได้อยู่กับแม่เลย
เราออกมาทำงานอยู่หอเรียนไปด้วยตั้งแต่จบ ม3 แม่มาส่งเราตอน ปวส2 ถึง ป.ตรีอีกสองปี (จริงๆน้องเราเป็นคนส่งมากกว่า น้องเราทำงานก่อนเรา แม่บอกว่าเรียนเยอะไปก็เท่านั้น รู้มากเหมือนพี่ ออกมาทำงานเถอะ) แต่เราอ่ะดื้อจะเรียน น้องเราคอยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายให้ ทุกวันนี้เราก็ให้เงินน้องเราใช้อยู่ แต่เราก็ให้ไม่ได้มากหรอก เราก็โดนยึดเหมือนกัน เหลือสองพัน ถ้าเดือนไหนเราทำงานพิเศษได้ เราก็แบ่งให้น้องเรา สงสารมันทำงานแทบตาย จะให้เงินแต่ละทีต้องเสี่ยงแม่ด่า เราเพิ่งกลับมาอยู่กับแม่ตอนทำงานจบ แม่บอกเราว่าให้กลับมาทำงานแถวบ้าน แอบได้ยินแม่คุยกะเพื่อน คุณแม่ว่าเงินจะได้อยู่กับเรา แบบน้องชาย เหอะๆ

เรารักแม่เรานะ แม่เป็นความดันด้วย เราอยากให้แม่เราปล่อยวางบ้าง วางใจให้เราสองคนทำเองบ้าง
แม่ไม่ไว้ใจให้ทำอะไรเลย พอพวกเราไม่ทำ เราก็โดนด่า โตป่านนี้ไม่คิดจะช่วยทำอะไรเลย
แม่เราชอบพูดกับเราว่า "Mung อ่ะ เรียนเยอะแล้วรู้มาก  ถึงไม่อยากให้เรียนไง" ไม่รู้หมายความว่าไง แต่แม่บังคับเราไม่ได้ทุกอย่างเหมือนน้องชายโดน
แต่บางอย่างเราก็จนใจ ไม่อยากให้แม่เครียด

ใครมีวิธีรับมือกับแม่แบบนี้บ้าง เอาแบบแฮปปี้ทั้งสองฝ่ายทั้งแม่ทั้งลูก เฮ้ออออ
เราบอกไปรึยัง แม่เรา 52 แล้ว แต่เนื่องจากทำงานเยอะ ท่านเลยป่วยน่ะ เป็นความดัน สมัยก่อนไม่ค่อยมีเงินเครียดบ่อย แต่ปัจจุบัน
เรามั่นใจมาก แม่อยู่เฉยๆ เราสองคนพี่น้องก็เลี้ยงได้ สบายกว่าเดิมมากมายก่ายกอง

สุขภาพจิต : เนื่องจากทั้งเราทั้งน้อง โดนบ่อยๆ แบบนี้เครียดน่าดูนะคะ มันสะสม คุณแม่ท่านก็คงจะเครียดอะไรก็ไม่ถูกใจซักอย่าง
ศาสนา : เผื่อห้องนี้จะมีวิธีแนะนำที่ประนีประนอม และสุภาพ ออกห่างคำว่าอกตัญญูค่ะ
ปัญหาชีวิต : ยกให้เป็นปัญหาชีวิตเลยค่ะ เหอะๆ มันทำให้เรามืดมนนะไม่มีกำลังใจจะทำอะไร หมดไฟ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่