หลากหลายความรู้สึก จากชีวิตโค้ช (จำเป็น)

ความจริงผมก็เคยโพสเรื่องการเป็นโค้ชสอนฟุตบอลให้เด็ก ๆ มาบ้างแล้ว
ที่ผ่านมามันก็มีทั้งสุข เศร้า ดีใจ เสียใจคละเคล้ากันไป ตามวิถีของเกมกีฬา
แต่ความรู้สึกเหล่านั้นมันก็จะค่อย ๆ จางหายไป เมื่อการแข่งขันจบลง
จนครั้งล่าสุดนี้ ทาง อบต. ได้จัดการแข่งขัน อบต.คัพ โดยให้ผู้นำหมู่บ้าน
ทั้ง 10 หมู่บ้านส่งทีมเข้าแข่งขัน ทางผู้ใหญ่บ้านของผมก็มอบหมายให้ผม
เป็นผู้หาเด็ก แล้วก็ทำทีม โดยจัดแข่งในรุ่นอายุไม่เกิน 10 และ 13 ปี

     ปกติผมจะพาลูกชายไปซ้อมกับอคาเดมีอยู่แล้ว พอได้รับมอบหมายภารกิจ
ก็ต้องไปหาเด็ก ๆ ในหมู่บ้านมาซ้อม ก็ไปเจอเด็กกลุ่มหนึ่ง วิ่งเล่นเตะฟุตบอล
อยู่ในสวนมะพร้าว เล่นกันสนุก ๆ ตามประสาเด็ก ไม่ได้มีเบสิกอะไร ผมก็เลย
ชักชวนให้มาซ้อม โดยผมสอนเบสิกที่ถูกต้องให้ สอนกฎกติกา ระเบียบวินัย
และรูปแบบการเล่น

     ผมสังเกตุเห็นเด็กคนหนึ่ง แต่ตัวค่อนข้างมอมแมม สวมรองเท้านักเรียนเก่า ๆ
ก็เข้าไปพูดคุย ซักถาม ได้ความว่า น้องเค้าอายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.4 เพื่อน ๆ เค้า
บอกว่า น้องเค้าเรียนไม่เก่ง (โง่) ก็เลยต้องซ้ำชั่นหลายปี และเท่าที่รู้คือพ่อแม่ของ
น้องเค้าเสียชีวิตหมดแล้ว น้องเค้าอาศัยอยู่กับยาย และต้องดูแลยายด้วย น้องจะกลับบ้าน
ได้ไม่เกินหนึ่งทุ่มครึ่ง ไม่งั้นจะไม่มีใครดูแลยาย

     น้องคนนี้เค้าตั้งใจซ้อมมาก เชื่อฟังทุกอย่าง พี่สาวผมสงสาร ก็เลยซื้อรองเท้าใหม่
ให้ 1 คู่ ส่วนน้องชายผมก็ให้ชุดฟุตบอล 1 ชุด จนการแข่งขันผ่านไป และจบลงด้วยดี
ในรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี ทีมเราได้อันดับ 3 ในรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี เราไม่ผ่านรอบแรก
แต่ทุกคนก็พยายามทำเต็มที่ ผมรู้ว่าทุกคนพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว

     หลังจบรายการนี้ ผมถามเด็ก ๆ ว่ามีใครอยากซ้อมต่อบ้าง ปรากฏว่าทุกคนอยากซ้อมต่อ
ก็เลยนัดซ้อมทุกวันหลังเลิกเรียน น้องคนนั้นก็มาซ้อมด้วย ปกติน้องเค้าจะขยันซ้อมมาก
แต่สองวันแรกที่มาซ้อม น้องเค้าดูเหนื่อย ๆ แล้วก็อาเจียน ผมก็ให้หยุดพัก น้องบอกว่า
เค้าไม่ค่อยสบาย ใกล้จะหายแล้ว ผมถามว่าไปหาหมอหรือยัง น้องก็บอกว่าไปหาแล้ว
หมอนัดอีกสามเดือนให้ไปตรวจเลือดอีกครั้ง ผมก็เลยไปคุยกับยายของน้อง ยายเล่าว่า
พ่อแม่ของน้องเสียตั้งแต่น้องยังเล็ก ๆ จากการติดเชื้อ HIV ตัวน้องเองก็ได้รับเชื้อมาด้วย
ก็ต้องให้ทานยาเป็นประจำ แล้วก็ต้องพาไปตรวจเลือดตามที่หมอนัด ตัวน้องเอง
ไม่รู้หรอกว่าตัวเองเป็นอะไร รู้แต่ว่าไม่สบายบ่อย และต้องไปหาหมอเพื่อตรวจเลือด
เป็นประจำ

     ที่เรียนช้ากว่าคนอื่น เพราะตอนอยู่ ป. 3 น้องเค้ามีอาการหนัก มาโรงเรียน 3 วัน
ก็ต้องหยุดเรียนเป็นอาทิตย์สลับกันไป ครูเลยให้หยุดเรียน น้องเค้าพักรักษาตัวอยู่หลายปี
และกลับมาเรียนใหม่ก็ต้องมาซ้ำชั้น ป. 3 ซึ่งตอนนี้ก็ขึ้นชั้น ป. 4 แล้ว ผมรู้สึกสงสาร
น้องคนนี้จับใจ รู้สึกหดหู่ใจ เท่าที่สัมผัสดู น้องเค้าเป็นเด็กดี มีความกตัญญู ไม่น่าจะต้อง
มารับเคราะห์กรรมแบบนี้เลย เพื่อน ๆ ที่เล่นบอลด้วยกันก็รู้ว่าน้องเค้าเป็นอะไร บางคน
ก็ชอบแกล้งน้องเค้า เพราะเห็นน้องเค้าเป็นเบ๊ ไม่สู้คน ผมก็เลยสั่งห้ามเด็ดขาด
ไม่ให้แกล้งกัน และห้ามล้อน้องเค้าด้วย ถ้าใครไม่เชื่อฟัง ก็ไม่ต้องมาซ้อมกับผมอีก
ยังดีที่เด็ก ๆ เข้าใจในเหตุผลที่ผมอธิบายให้ฟัง และยอมปฏิบัติตาม

     พวกเราไม่มีใครรังเกียจน้องคนนี้ มีแต่ให้กำลังใจ อยากให้เค้ามีความสุขกับชีวิต
ให้เค้าได้ทำในสิ่งที่เค้ารัก แม้ว่าเราจะช่วยเหลืออะไรเค้าไม่ได้มากมายนัก แต่เรา
ก็ดีใจที่ทุก ๆ วันที่น้องเค้ามาซ้อมบอล เค้ามีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ และตอนนี้
น้องเค้าก็มีเพื่อน ๆ เพิ่มขึ้นอีกหลายคน หวังว่าน้องเค้าจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
และสักวันหนึ่ง น้องเค้าจะได้หายจากโรคนี้

ปล. ขอลงแค่เรื่องราวให้อ่านนะครับ ไม่ขอลงรูปทีมฟุตบอล เพราะน้อง ๆ เค้ายังเป็นเยาวชน
อาจจะเป็นการไม่สมควร ถ้าเอารูปมาลง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่