[CR] แบ่งปันประสบการณ์ สองรูหู กับ หูฟัง bluetooth 4 รุ่น

กระทู้รีวิว
เอาประสบการณ์ หูฟังบลูทูธมาแบ่งปันชิวๆจ๊ะ
พิมพ์ในมือถือ ผิดพลาด กราบขออภัย
ส่วนเรื่องราคานี่ ความจำเสื่อมล้วนๆนะคะ
แบบเป๊ะกี่บาทกี่สตางค์นี่ลืมจริงๆ

มาเริ่มกันที่ platronics marque2 กันดีกว่า
เป็นหูฟังอันแรกที่ซื้อเมื่อชาติก่อน
ราคาประมาณ 2 พัน +-

ปุ่มเปิด-ปิด


ช่องเสีบชาร์ตแบต



ราคา : ตัวนี้ราคากลางๆ
คุณภาพ : กลางๆ
แบตใช้งานได้ทั้งวัน ตัดเสียงดีมั้ย...
กลางๆแล้วกัน ไม่ถึงกับแย่
แต่รู้ว่าหนีเที่ยวแน่นอน
เชื่อมต่อได้สองเครื่อง
รับสายได้สองเครื่อง
แต่ฟังเพลง(เครื่องใดเครื่องหนึ่ง)
เหมาะกับใช้ทำงาน ขับรถ
ออกจากออฟฟิต
ไม่จำเป็นต้องวิ่งหาที่เสียบชาร์จแบต
ส่วนเรื่องการฟังเพลง ตัวนี้ไม่ค่อยเหมาะ
เหมาะกับทำงาน รับสายพูดคุยปกติมากกว่า
เพราะเสียงจะติดโทนสูง และไม่กังวานขนาดให้เคลิ้มได้

เชื่อมต่อเร็ว เปิดปุ๊ปติดปั๊ปแล้วก็ "อึด"
ใช้มาหลายปี ยังไม่ตายสักที
ในกล่องรู้สึกจะมีที่เปลี่ยนขนาด ear bud 3 อัน
มีสีขาวกับดำ ซึ่งสีดำ สวยมาก
แต่ไม่ซื้อ เอ๊ะยังไง
ข้อเสีย : ด้วยราคากลางๆ คุณภาพตัดเสียงก็เลย
กลางๆ
ส่วนข้อเสียอื่นก็คือ ตัวเล็กไปมั้ง ผมมาบัง
คนอื่นไม่เห็นว่าคุยโทรศัพท์อยู่ เจอแววตา..อีนี่บ้า

มาต่อตัวที่สอง
platronics backbeat fit
ราคา ขยับมาอีกนิด 4,xxx
ซื้อมาเผื่ออยากใช้พร้อม T25
คืออยากผอม มีอุปกรณ์พร้อม
ขาดอย่างเดียว ร่างไม่พร้อม ขี้เกียจขยับ
อ่ะ หูฟังตัวนี้มีอะไรดี




กดเล่นเพลง รับสาย แสนง่ายดาย
ไม่ต้องไปเปิดปิดมือถือบ่อยๆ


ข้อดีคือ กันเหงื่อ กันน้ำ เหมาะกับการออกกำลังกาย
เชื่อมต่อได้สองเครื่องเหมือนกัน
รู้สึกการเชื่อมต่อสองเครื่องจะเป็นอะไรที่เบสิคไปแล้ว
เสียงดีมาก กระชับใบหู ไม่มีหลุดแน่นอน
ถ้าใครหาหูฟังสำหรับออกกำลังกายและเป็นพวกสายดนตรี
ตัวนี้ก็ไหว เอาอยู่เลยคะ เสียงจะมีมิติ มีเบส ติดทุ้ม
เพลินๆเลยทีเดียว แต่ยังไงก็ยังสู้หูฟังครอบหูไม่ได้
เพราะตัวนี้ เน้นใช้กับการออกกำลังกายมากกว่า กันน้ำกันเหงื่อ
ถ้าใส่พร้อมถีบจักรไปด้วย
มันจะยังได้ยินเสียงภายนอกอยู่นิดๆ อย่างเสียงแตรรถ


สายอ่อนช้อย ไม่ต้องกลัวหักนะคะ


ข้อเสีย : ราคาแพง และ สำหรับเรา คหสต.คือ
หู ear bud ใหญ่เว่อร์
ใส่รูหูนะคะแล้ววิ่งนะคะ..เจ็บคะ
เลยไม่ออกกำลังกายอีกเลย (ข้ออ้าง)
แต่ว่าจุดนี้ หูแต่ละคนไม่เท่ากัน ก็แล้วแต่หูใครหูมัน


ส่วนข้อเสียอีกข้อ ที่เหมือนจะไม่ใช่ข้อเสีย
คือใส่นอนดูหนังไม่ไหวจะเคลียร์
ใส่ข้างเดียวแล้วนอนตะแคงไม่ได้
ใส่ข้างเดียวแล้วก็หล่นอีก
ต้องนอนตรงๆ เท่านั้น โถ ลำบาก

ต่อไป
era jawbone
รุ่นนี้เกือบสุด แต่ยังไม่สุด
ราคา 4,xxx
มาถึงตรงนี้ร้องว๊าย
นี่ชั้นหมดตังค์ไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ย





เสียงดีมากกกกก สำหรับเรา
แต่ปลายสายชอบถาม
ป่วยเร๊อะเธอ?
เสียงมันจะอู้ๆนิดหน่อย
แต่ตัดเสียงรบกวนรอบข้างเป็นเลิศ
ดวลกับหมาริมถนน เพื่อนยังไม่ได้ยินเลย
เพราะขอวางสายก่อน โดนหมากัด
ไม่ใช่แหละ คือตัดเสียงดีจริงๆนะตัวเอง
ใช้ดูหนังฟังเพลง สบาย เพราะเสียงดีมาก
ออกกังวาน ทุ้ม จริตแตกได้


ในกล่องมีที่เปลี่ยน ear bud ให้ตามขนาดหู
ส่วนข้อเสียคือ นอกจากราคาจะสูง
อายุแบตยังต่ำต้อย 4 ชั่วโมงเท่านั้น
จึงมีอีกรุ่นเพื่อแก้ปัญหาตรงนี้
เป็นรุ่นที่มาพร้อมแท่นชาร์ตพกพา
และข้อเสียอักข้อคือ ใส่ได้ครั้งเดียว
อ่อไม่ใช่สิ ใส่ได้ข้างเดียว หูข้างขวาเท่านั้น

(แล้วอันตะกี้ต้องใส่สองข้างก็บ่นเนอะ)
นั่นแหละ บางทีเมื่อยหู ก็ทนไป

ตัวสุดท้ายแหละ ของรักตัวปัจจุบัน
หลายใจจริงๆ
Platronics Voyager Edge
ราคา 4,×××
ลมแทบจับ หูก็มีแค่สองรู ขยันซื้อเหลือเกิน


มีรูชาร์ตกับสาย usb ได้ด้วย

รูสำหรับชาร์ตกับแท่น


ตัวนี้ถือว่าเป็นตัวที่ถูกใจมาก ถึงขั้นสุด
มีจงอยด้วย ชอบมาก จะได้หลบพ้นสายตา อีนี่บ้าสักที
ข้อดีคือ ตัดเสียงรบกวนเทพมาก
บางทีก็มีมุมเกเรอยากหนีเที่ยวไง
ไปช้อปปิ้ง แฟนโทรมา ไม่รู้นะว่าอยู่ข้างนอก
โอ้คุณพระ ชอบมากๆ
แบตอยู่ได้ 6 ชั่วโมง แต่ถ้าพกแท่นชาร์ตไปด้วย
ก็กลายเป็น 16 ชั่วโมงไปเลยทีเดียว
หนีเที่ยวเช้ายันเย็น ไม่มีจับได้แน่นอน อะคริอะคริ
ถามว่าเหมาะกับฟังเพลงมั้ย ฟังได้ แต่ไม่เพลินอะไรมาก
เพราะเหมาะกับการสนทนามากกว่า
ไม่มีมิติของเสียง เรียกได้ว่า FLAT
ตัวนี้ถ้าไปสายดนตรี .. อาย


ใส่หูซ้าย ทะลุหูขวาได้
เอาเข้าไป คือใส่ได้แม้วันมามาก
(ยัง ยัง ยังไม่จบเนอะ)
คือใส่ได้ทั้งหูซ้ายและหูขวา ใส่นอนตะแคง
ใส่นอนตีลังกา นอนท่าพิสดารยังไงก็ได้
มี ear bud ให้เปลี่ยนตามขนาดรูหู
ไม่หนักด้วยนะ ใส่แล้วไม่เมื่อยไม่ปวดรู
ข้อดีอีกอย่างน่ารักมาก ถ้าอยากสลับกับมือถือ
เวลาถอดจากหู มันจะสลับสายไปที่มือถือเลย
ถ้าอยากให้กลับมาก็ยัดใส่รูเหมือนเดิม
มี nfc วางประกบก็ต่อกันแล้ว ลัลลา แสนง่ายดาย
มีคำสั่งเสียง วางสาย หรือ รับสาย
พูดชื่อคนโทรมาด้วยนะ ซึ่งคุณสมบัตินี้จะเหมือนกับ
ตัว era jawbone
เพียงแค่ต้อง เซฟชื่อcontact เป็นภาษาอังกฤษ
และคำสั่งเสียงก็ต้องเป็นภาษาอังกฤษด้วย

สรุปคือ ถ้าไปสายดนตรีหูเทพ ทั้ง4รุ่น ไม่ตอบโจทย์
เรื่องงานประกอบ ดีทุกตัว จับแล้วไม่มีหลวมไม่สะดุด วัสดุดี
แง่การทำงาน ยกเว้น backbeat fit <-- อันนี้พวกฮาร์ดคอร์เน้นใช้กำลัง
ถือว่าเหมาะทุกตัวเด่นๆก็คงจะเป็น platronics voyager edge
เพราะเมื่อเทียบกับ era jawbone ภาษีดีกว่าที่อายุแบต
ตัดเสียงดีพอกันทั้งคู่ แค่ jawbone เสียงเค้าจะดีกว่า ออกทุ้มกังวาน
ส่วนน้องเล็ก platronics marque2 ด้วยราคาประมาณนี้มาได้ไกลขนาดนี้
คุณภาพขนาดนี้ขอยกขึ้นหิ้งเก็บไว้ในใจ (ตายยากโฮก)


ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้
นึกอะไรได้อีกจะมาเพิ่มทีหลังนะจ๊ะ

เพิ่มเติม ตัวเอียง
ชื่อสินค้า:   platronics vs. era jawbone
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่