คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
เอาว่าอรัมภบทมายาว เข้าเรื่อง (ตามที่จั่วหัวข้อกระทู้) ไว้เลยแล้วกันนะคะ
เราเลิกกับพี่อ.มาเป็นปีแล้วค่ะ
แต่เมื่อวาน (คือวันที่เราตั้งกระทู้นี้) .. มีผู้หญิงคนนึงทักแชทในเฟสบุคเราเข้ามา
คนนั้นคือ "แฟนใหม่" ของพี่อ. นั่นเอง ขอเรียกน้องเค้าว่าน้องต.นะคะ
อันที่จริงน้องต.เป็นแฟนเก่าของพี่อ.ค่ะ คือเลิกกัน แล้วพี่อ.ก็มาจีบเรานั่นแหละ
ซึ่งช่วงที่พี่อ.คบกับเรา น้องเค้าก็แอดเฟสบุคเรามาค่ะ ตอนนั้นเราไม่คิดอะไร อยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีอะไรต้องปิดบัง
พอหลังจากที่เลิกกับเราไป เราก็ได้ข่าว(จากเฟสน้องเค้าอะแหละ) ว่าเค้ากลับไปคบกัน
ตอนนั้นเราไม่คิดอะไรเลยค่ะ เพราะหลังจากที่เราเลิกกับพี่อ.
ก็เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ไม่เสียใจ เสียดาย น้ำตาซักหยดก็ไม่ไหลให้เปื้อนหน้า
น้องเค้าเริ่มบทสนทนา ประมาณนี้ค่ะ
น้องต. : พี่คะ .. เคยเกลียดใครมากๆมั้ยคะ ?
เรา : จ้า .. เพียบเลย ฮ่าๆ (ตอบแบบติดตลก)
น้องต. : หนูเกลียดพี่อ.
ณ เวลานั้นเราพอจะเข้าใจแล้วค่ะ ว่าเค้าคงทะเลาะกันมา
แต่ก็แอบสงสัยว่าทำไมต้องบอกชั้นหละยะสาวน้อย .. ซึ่งก็มิวายอยากยุ่งเรื่องชาวบ้านค่ะ
เลยแลกเบอร์กับน้องเค้า และเริ่มคุยกันทางโทรศัพท์ค่ะ
ทำให้เรารู้ว่าแฟนเก่าที่เราไม่อยากจดจำ พูดถึงเราให้แฟน(ใหม่)ของเค้าฟัง ว่ายังไงบ้าง ?
พี่อ.กับน้องต.คบกันหลังจากเลิกจากเราไม่กี่วัน โดยที่พี่อ.บอกน้องต.ว่า
อย่าพึ่งลงรูปหรือทำอะไรให้ใครรู้ว่าคบกัน กลัวคนอื่น(โดยเฉพาะเพื่อนที่เรียนด้วยกันกับเรา)รู้
กลัวว่าจะมีคนไม่พอใจ และมองเค้าไม่ดี
น้องต.เล่าว่าพี่อ.ไลน์หาน้องเค้าต้ั้งแต่ก่อนเลิกกับเรา (คงเป็นช่วงที่ทะเลาะกันหนักๆ)
แรกๆก็บ่นๆเกี่ยวกับเรา ว่าเบื่อ ไม่อยากทนแล้ว ไม่อยากคบกับเรา
พอน้องต.แนะนำให้เลิกกับเรา พี่อ.ก็บอกว่า "รอเวลาก่อน" ..
"รอเวลา" คงหมายถึงเรื่องที่พี่อ.ขับรถไปชนจนบุบ แล้วไม่มีประกัน (อย่างที่บอกว่าเค้าคิดแต่เรื่องเงิน จะซ่อมเองก็คิดหนักแล้ว)
เราเห็นว่าเค้าเครียด เลยแกล้งพูดเล่นๆว่า มาๆเดี๋ยวเราเคลมให้ หลังจากนั้นเค้าก็มาเอาอกเอาใจเรา รอให้เราไปเคลมรถให้เค้า
รออยู่หลายวัน เพราะต่างคนต่างทำงาน จนพอเราทำให้เค้าสมใจ ..ก็คงถึงเวลานั้นของเค้านั้นแหละ .. (ไม่เกิน 5 วันก็เลิกกัน)
// คิดอยู่นานว่าสมควรจะเล่าเรื่องนี้มั้ย กลัวจะโดยบริษัทประกันฟ้อง ขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ แต่ปิดถัดมาเบี้ยเราก็สูงขึ้นนะ ฮือ
น้องต.บอกว่า คืนวันก่อนที่เรากับพี่อ.จะเลิกกัน พี่อ.ยังขอไปหาน้องต.อยู่เลย
พอเช้า พี่อ.ก็บอกน้องต.ว่าเลิกกับเราแล้ว และกลับไปคุยกับน้องต.ตั้งแต่วันนั้น
พี่อ.บอกกับน้องต.ว่า กลัวว่าเราจะไปเล่าอะไรให้เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันฟัง แล้วคนจะมองเค้าไม่ดี
เลยพยายามเอาใจเพื่อนๆ ด้วยการคุย การพูดจาบางอย่าง ให้คนรู้สึกว่าเค้าไม่ใช่คนผิด หรือเลวร้าย
(ซึ่งเราไม่ได้เล่าให้ใครฟังนะ ก็มีบ้าง บางเรื่อง ซึ่งก็บอกกับคนที่สนิทกันเท่านั้น)
ในสายตาคนนอก เราดูเป็นคนแข็งกระด้าง ก้าวร้าวในบางที ด้วยเพราะเราเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา ไม่รู้จักคิด
เป็นพวกคิดอะไรก็พูด ขวานผ่าซาก ซึ่งตรงข้ามกับบุคลิกพี่อ.โดยสิ้นเชิง ที่ดูดี มีเหตุมีผล (หรอออ)
ทำให้คนรอบข้างเชื่อว่าคนผิด และไม่ดีคือเรา และเค้าคือผู้ชายที่น่าสงสาร ไปโดยปริยาย
ส่วนตัวเราก็ไม่เคยคิดจะแก้ตัว หรือแก้ต่างอะไรให้ตัวเอง เพราะเราคิดว่ามันไม่จำเป็น
เพิ่มเติมเรื่องนิสัยพี่อ.นิดนึง (ซึ่งอาจจะเป็นข้อดีมั้ง)
พี่เค้าชอบพูดคุยกับคน กล้าคุย กล้าเข้าหาคน ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้เค้าเจริญในหน้าที่การงาน
แต่ไอนิสัยเนี้ย มันมาจากที่เค้าพยายามหาผลประโยชน์จากคนรอบข้างอยู่ตลอด
เค้าจะพูด จะทำดี กับคนที่มีประโยชน์กับเค้า
อย่างเช่น ผู้หญิงคนนึงในกลุ่มที่เรียนด้วยกัน เป็นคนน่ารัก เรียบร้อย ขยัน และใจดีมาก
พี่อ.มักจะไลน์หาพี่คนนี้เวลาอาจายร์สั่งงาน หรือใกล้สอบเสมอ มีการขอให้ทำการบ้านให้ ขอให้ส่งงานให้ ตลอด
โดยจะใช้คำพูดหวานหยดย้อย ให้อีกฝ่ายนึงเคลิบเคลิ้ม แล้วทำตามที่เค้าต้องการ (ขนาดนั้นเลยจริงๆนะ)
บางครั้งก็มีการซื้อของเล็กๆน้อยๆให้ หลังจากที่สอบเสร็จ แล้วก็จะหายตัวไป และจะกลับมาออดอ้อนใหม่ช่วงเรียนอีกที
เรื่องนี้น้องต.ก็เล่าให้เราฟังตรงกัน ว่าพี่อ.ทำแบบนี้กับหลายคน ที่มีผลประโยชน์
กลับเข้าเรื่องนะคะ (ยิ่งพิมพ์ ยิ่งนึกเรื่องออกเยอะแยะ)
น้องต.เล่าถึงสาเหตุที่ทะเลาะกัน รวมทั้งสิ่งที่พี่อ.พูดถึงเราให้น้องต.ฟัง ซึ่งเราขอไม่พูดถึงเรื่องราวของเค้าทั้งสอง
เนื่องจากเป็นเรื่องของคนสองคน ซึ่งเราไม่เกี่ยวข้องนะคะ
แต่ที่จะเล่าคือสิ่งที่ผู้ชายคนนี้พูดถึงเรา ดังนี้
- พี่อ.บอกกับน้องต.ว่า เราเป็นคนโลกสวย ชอบพูดอะไรที่สวยๆงามๆ ตอนแรกที่จีบเรา ก็คิดว่าเราเป็นคนมองโลกในแง่ดี
แต่พอคบๆกันไป เราเป็นแค่ผู้หญิงที่สร้างภาพ ชอบมโน พูดไปเรื่อยแต่ทำไม่ได้ซักอย่าง
- พี่อ.บอกว่า เรากับจ. เหมาะสมกันดี เพราะเราเยอะ ส่วนจ.ก็ไม่สนใจ สมควรอยู่ด้วยกันแล้ว
- พี่อ.บอกว่า ที่เห็นเราไปเที่ยวต่างประเทศ ใช้ของแพงๆบ่อย ที่จริงเงินเดือนแค่หมื่นห้า
ทำเป็นรวย จริงๆขอพ่อขอแม่ทั้งนั้น
(เราฟังเรื่องนี้แล้วหงุดหงิดมากค่ะ ถึงเงินเดือนเราไม่สูง บ้านจะไม่รวย แต่เราเก็บเงิน ใช้จ่ายด้วยเงินตัวเอง
แต่ที่เราต้องทำเหมือนเงินเดือนน้อย เพราะตอนคบกัน พี่อ.มีปัญหาเรื่องเงินเยอะมาก หยิบยืมคนไปทั่ว
เราเลยปรึกษากับที่บ้าน เห็นตรงกันว่าไม่ควรพูดกับพี่อ. ว่ามีมากมีน้อยเท่าไหร่ เพราะยังไม่ได้แต่งงานกัน
ถ้าเค้ารู้ว่าเรามีกลัวว่าจะมาขอหยิบยืม ถ้าเราไม่ให้ก็จะมีปัญหา ให้ทำว่าเราไม่มีไปซะจะได้จบๆ คบกันแบบสบายใจ..)
ที่สำคัญที่น้องต.เล่าให้เราฟังก็คือ
- พี่อ. พูดไปถึงเรื่อง SEX ค่ะ (18+ทันไหมหนอ) บอกน้องต.ว่า "เรื่องบนเตียงเราไม่ได้เรื่อง ไม่รู้ไปเผลอเxาได้ยังไง"
นี่เป็นแค่ส่วนนึงที่น้องต. เล่าให้ฟังเท่านั้นนะคะ
อ่อ อันที่จริง ตอนที่พี่อ. คบกับเรา เค้าก็เล่าให้เราฟังเรื่องน้องต.นะคะ
พูดถึงฐานะทางบ้าน พูดถึงนิสัย และก็เรื่อง SEX เหมือนที่เล่าเรื่องเราให้น้องต.ฟังแหละค่ะ
ตอนที่เราฟัง เราก็ไม่สนใจค่ะ เราแอบรู้สึกว่าทำไมต้องเอาเรื่องแฟนเก่ามาเล่า
นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหมือนนินทาเม้ามอยกันไป
แต่ทั้งหมดที่เราฟัง มันทำให้เราคิดอะไรได้หลายอย่างมาก
ตอนฟังก็โกรธค่ะ อยากจะหาวิธีแก้แค้น ..
แต่ซักพักก็รู้สึกว่าไม่สมควรแลก เพราะมันไม่จำเป็น
ที่สำคัญคือพี่อ.สร้างภาพให้ตัวเองดูดีไว้ตั้งแต่ต้น ส่วนเราดูไม่ดีในสายตาใครอยู่แล้ว
จะให้วิ่งรี่ไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อ ..
สิ่งที่ทำได้ ตั้งกระทู้นี่แหละค่ะ ฮ่าๆ สบายใจแล้ว
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ
เราเลิกกับพี่อ.มาเป็นปีแล้วค่ะ
แต่เมื่อวาน (คือวันที่เราตั้งกระทู้นี้) .. มีผู้หญิงคนนึงทักแชทในเฟสบุคเราเข้ามา
คนนั้นคือ "แฟนใหม่" ของพี่อ. นั่นเอง ขอเรียกน้องเค้าว่าน้องต.นะคะ
อันที่จริงน้องต.เป็นแฟนเก่าของพี่อ.ค่ะ คือเลิกกัน แล้วพี่อ.ก็มาจีบเรานั่นแหละ
ซึ่งช่วงที่พี่อ.คบกับเรา น้องเค้าก็แอดเฟสบุคเรามาค่ะ ตอนนั้นเราไม่คิดอะไร อยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีอะไรต้องปิดบัง
พอหลังจากที่เลิกกับเราไป เราก็ได้ข่าว(จากเฟสน้องเค้าอะแหละ) ว่าเค้ากลับไปคบกัน
ตอนนั้นเราไม่คิดอะไรเลยค่ะ เพราะหลังจากที่เราเลิกกับพี่อ.
ก็เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ไม่เสียใจ เสียดาย น้ำตาซักหยดก็ไม่ไหลให้เปื้อนหน้า
น้องเค้าเริ่มบทสนทนา ประมาณนี้ค่ะ
น้องต. : พี่คะ .. เคยเกลียดใครมากๆมั้ยคะ ?
เรา : จ้า .. เพียบเลย ฮ่าๆ (ตอบแบบติดตลก)
น้องต. : หนูเกลียดพี่อ.
ณ เวลานั้นเราพอจะเข้าใจแล้วค่ะ ว่าเค้าคงทะเลาะกันมา
แต่ก็แอบสงสัยว่าทำไมต้องบอกชั้นหละยะสาวน้อย .. ซึ่งก็มิวายอยากยุ่งเรื่องชาวบ้านค่ะ
เลยแลกเบอร์กับน้องเค้า และเริ่มคุยกันทางโทรศัพท์ค่ะ
ทำให้เรารู้ว่าแฟนเก่าที่เราไม่อยากจดจำ พูดถึงเราให้แฟน(ใหม่)ของเค้าฟัง ว่ายังไงบ้าง ?
พี่อ.กับน้องต.คบกันหลังจากเลิกจากเราไม่กี่วัน โดยที่พี่อ.บอกน้องต.ว่า
อย่าพึ่งลงรูปหรือทำอะไรให้ใครรู้ว่าคบกัน กลัวคนอื่น(โดยเฉพาะเพื่อนที่เรียนด้วยกันกับเรา)รู้
กลัวว่าจะมีคนไม่พอใจ และมองเค้าไม่ดี
น้องต.เล่าว่าพี่อ.ไลน์หาน้องเค้าต้ั้งแต่ก่อนเลิกกับเรา (คงเป็นช่วงที่ทะเลาะกันหนักๆ)
แรกๆก็บ่นๆเกี่ยวกับเรา ว่าเบื่อ ไม่อยากทนแล้ว ไม่อยากคบกับเรา
พอน้องต.แนะนำให้เลิกกับเรา พี่อ.ก็บอกว่า "รอเวลาก่อน" ..
"รอเวลา" คงหมายถึงเรื่องที่พี่อ.ขับรถไปชนจนบุบ แล้วไม่มีประกัน (อย่างที่บอกว่าเค้าคิดแต่เรื่องเงิน จะซ่อมเองก็คิดหนักแล้ว)
เราเห็นว่าเค้าเครียด เลยแกล้งพูดเล่นๆว่า มาๆเดี๋ยวเราเคลมให้ หลังจากนั้นเค้าก็มาเอาอกเอาใจเรา รอให้เราไปเคลมรถให้เค้า
รออยู่หลายวัน เพราะต่างคนต่างทำงาน จนพอเราทำให้เค้าสมใจ ..ก็คงถึงเวลานั้นของเค้านั้นแหละ .. (ไม่เกิน 5 วันก็เลิกกัน)
// คิดอยู่นานว่าสมควรจะเล่าเรื่องนี้มั้ย กลัวจะโดยบริษัทประกันฟ้อง ขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ แต่ปิดถัดมาเบี้ยเราก็สูงขึ้นนะ ฮือ
น้องต.บอกว่า คืนวันก่อนที่เรากับพี่อ.จะเลิกกัน พี่อ.ยังขอไปหาน้องต.อยู่เลย
พอเช้า พี่อ.ก็บอกน้องต.ว่าเลิกกับเราแล้ว และกลับไปคุยกับน้องต.ตั้งแต่วันนั้น
พี่อ.บอกกับน้องต.ว่า กลัวว่าเราจะไปเล่าอะไรให้เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันฟัง แล้วคนจะมองเค้าไม่ดี
เลยพยายามเอาใจเพื่อนๆ ด้วยการคุย การพูดจาบางอย่าง ให้คนรู้สึกว่าเค้าไม่ใช่คนผิด หรือเลวร้าย
(ซึ่งเราไม่ได้เล่าให้ใครฟังนะ ก็มีบ้าง บางเรื่อง ซึ่งก็บอกกับคนที่สนิทกันเท่านั้น)
ในสายตาคนนอก เราดูเป็นคนแข็งกระด้าง ก้าวร้าวในบางที ด้วยเพราะเราเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา ไม่รู้จักคิด
เป็นพวกคิดอะไรก็พูด ขวานผ่าซาก ซึ่งตรงข้ามกับบุคลิกพี่อ.โดยสิ้นเชิง ที่ดูดี มีเหตุมีผล (หรอออ)
ทำให้คนรอบข้างเชื่อว่าคนผิด และไม่ดีคือเรา และเค้าคือผู้ชายที่น่าสงสาร ไปโดยปริยาย
ส่วนตัวเราก็ไม่เคยคิดจะแก้ตัว หรือแก้ต่างอะไรให้ตัวเอง เพราะเราคิดว่ามันไม่จำเป็น
เพิ่มเติมเรื่องนิสัยพี่อ.นิดนึง (ซึ่งอาจจะเป็นข้อดีมั้ง)
พี่เค้าชอบพูดคุยกับคน กล้าคุย กล้าเข้าหาคน ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้เค้าเจริญในหน้าที่การงาน
แต่ไอนิสัยเนี้ย มันมาจากที่เค้าพยายามหาผลประโยชน์จากคนรอบข้างอยู่ตลอด
เค้าจะพูด จะทำดี กับคนที่มีประโยชน์กับเค้า
อย่างเช่น ผู้หญิงคนนึงในกลุ่มที่เรียนด้วยกัน เป็นคนน่ารัก เรียบร้อย ขยัน และใจดีมาก
พี่อ.มักจะไลน์หาพี่คนนี้เวลาอาจายร์สั่งงาน หรือใกล้สอบเสมอ มีการขอให้ทำการบ้านให้ ขอให้ส่งงานให้ ตลอด
โดยจะใช้คำพูดหวานหยดย้อย ให้อีกฝ่ายนึงเคลิบเคลิ้ม แล้วทำตามที่เค้าต้องการ (ขนาดนั้นเลยจริงๆนะ)
บางครั้งก็มีการซื้อของเล็กๆน้อยๆให้ หลังจากที่สอบเสร็จ แล้วก็จะหายตัวไป และจะกลับมาออดอ้อนใหม่ช่วงเรียนอีกที
เรื่องนี้น้องต.ก็เล่าให้เราฟังตรงกัน ว่าพี่อ.ทำแบบนี้กับหลายคน ที่มีผลประโยชน์
กลับเข้าเรื่องนะคะ (ยิ่งพิมพ์ ยิ่งนึกเรื่องออกเยอะแยะ)
น้องต.เล่าถึงสาเหตุที่ทะเลาะกัน รวมทั้งสิ่งที่พี่อ.พูดถึงเราให้น้องต.ฟัง ซึ่งเราขอไม่พูดถึงเรื่องราวของเค้าทั้งสอง
เนื่องจากเป็นเรื่องของคนสองคน ซึ่งเราไม่เกี่ยวข้องนะคะ
แต่ที่จะเล่าคือสิ่งที่ผู้ชายคนนี้พูดถึงเรา ดังนี้
- พี่อ.บอกกับน้องต.ว่า เราเป็นคนโลกสวย ชอบพูดอะไรที่สวยๆงามๆ ตอนแรกที่จีบเรา ก็คิดว่าเราเป็นคนมองโลกในแง่ดี
แต่พอคบๆกันไป เราเป็นแค่ผู้หญิงที่สร้างภาพ ชอบมโน พูดไปเรื่อยแต่ทำไม่ได้ซักอย่าง
- พี่อ.บอกว่า เรากับจ. เหมาะสมกันดี เพราะเราเยอะ ส่วนจ.ก็ไม่สนใจ สมควรอยู่ด้วยกันแล้ว
- พี่อ.บอกว่า ที่เห็นเราไปเที่ยวต่างประเทศ ใช้ของแพงๆบ่อย ที่จริงเงินเดือนแค่หมื่นห้า
ทำเป็นรวย จริงๆขอพ่อขอแม่ทั้งนั้น
(เราฟังเรื่องนี้แล้วหงุดหงิดมากค่ะ ถึงเงินเดือนเราไม่สูง บ้านจะไม่รวย แต่เราเก็บเงิน ใช้จ่ายด้วยเงินตัวเอง
แต่ที่เราต้องทำเหมือนเงินเดือนน้อย เพราะตอนคบกัน พี่อ.มีปัญหาเรื่องเงินเยอะมาก หยิบยืมคนไปทั่ว
เราเลยปรึกษากับที่บ้าน เห็นตรงกันว่าไม่ควรพูดกับพี่อ. ว่ามีมากมีน้อยเท่าไหร่ เพราะยังไม่ได้แต่งงานกัน
ถ้าเค้ารู้ว่าเรามีกลัวว่าจะมาขอหยิบยืม ถ้าเราไม่ให้ก็จะมีปัญหา ให้ทำว่าเราไม่มีไปซะจะได้จบๆ คบกันแบบสบายใจ..)
ที่สำคัญที่น้องต.เล่าให้เราฟังก็คือ
- พี่อ. พูดไปถึงเรื่อง SEX ค่ะ (18+ทันไหมหนอ) บอกน้องต.ว่า "เรื่องบนเตียงเราไม่ได้เรื่อง ไม่รู้ไปเผลอเxาได้ยังไง"
นี่เป็นแค่ส่วนนึงที่น้องต. เล่าให้ฟังเท่านั้นนะคะ
อ่อ อันที่จริง ตอนที่พี่อ. คบกับเรา เค้าก็เล่าให้เราฟังเรื่องน้องต.นะคะ
พูดถึงฐานะทางบ้าน พูดถึงนิสัย และก็เรื่อง SEX เหมือนที่เล่าเรื่องเราให้น้องต.ฟังแหละค่ะ
ตอนที่เราฟัง เราก็ไม่สนใจค่ะ เราแอบรู้สึกว่าทำไมต้องเอาเรื่องแฟนเก่ามาเล่า
นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหมือนนินทาเม้ามอยกันไป
แต่ทั้งหมดที่เราฟัง มันทำให้เราคิดอะไรได้หลายอย่างมาก
ตอนฟังก็โกรธค่ะ อยากจะหาวิธีแก้แค้น ..
แต่ซักพักก็รู้สึกว่าไม่สมควรแลก เพราะมันไม่จำเป็น
ที่สำคัญคือพี่อ.สร้างภาพให้ตัวเองดูดีไว้ตั้งแต่ต้น ส่วนเราดูไม่ดีในสายตาใครอยู่แล้ว
จะให้วิ่งรี่ไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อ ..
สิ่งที่ทำได้ ตั้งกระทู้นี่แหละค่ะ ฮ่าๆ สบายใจแล้ว
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เมื่อแฟนใหม่ ของแฟนเก่า โทรมาเล่าว่าเค้าพูดถึงเราว่ายังไง !
เรามีแฟนอยู่แล้วค่ะ ชื่อจ. โดยที่มีช่วงนึงเรากับจ.มีปัญหากัน สาเหตุคือจ.ติดเพื่อน และไม่ค่อยสนใจเรา
ซึ่งเราพยายามคุย เคลียร์ แก้ปัญหากันอยู่นาน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าความสัมพันธ์จะสว่างสดใส ..จนเราเริ่มจะท้อ
ระหว่างนั้นเองเราเริ่มเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง (ป.โท) ซึ่งทำให้พบกับผู้ชายคนนึง ขออนุญาตเรียกว่าพี่อ. นะคะ
พี่อ. เป็นผู้ใหญ่กว่าเราประมาณ 10 ปีค่ะ สิ่งที่ทราบตอนนั้นคือพี่เค้ามีหน้าที่การงานดี เป็นคนในเครื่องแบบ ยศสูงระดับนึงเลย
ที่ทราบไม่ใช่เพราะเราสนใจในตัวพี่เค้านะคะ แต่บังเอิญเค้ามีการตั้งกรุ๊ปไลน์กัน เลยได้ทราบว่าใคร มีความเป็นมายังไงคะ
พี่อ. เป็นผู้ชายหน้าตาดีค่ะ แต่สำหรับเรา เราเฉยๆนะ ไม่สเปคเท่าไหร่ เพราะพี่เค้าผอม ตัวเล็ก(เล็กพอๆกับเราเลย)
แต่เป็นคนที่อัธยาสัยดี พูดเก่ง ชอบแซวคนนู้นคนนี้ ดูเป็นคนอารมณ์ดี ขี้เล่น ที่สำคัญดูเจ้าชู้มากๆ
(คนขี้เล่น พูดเก่ง มักทำให้กลายเป็นคนดูเจ้าชู้มั้งคะ)
พี่อ.ดูอัธาสัยดีกับทุกคนค่ะ แต่มีบางที ที่รู้สึกเหมือนดีกับเราเป็นพิเศษ..
อย่างเช่น มีวันนึงเราไปทำงานต่างจังหวัด แล้วทำสร้อยพระหายที่โรงแรม ซึ่งตอนนั้นเราแจ้งกับทางโรงแรมเพื่อให้ทำการหาให้เราแล้วนะคะ
แต่ก็มิวายจะแถลงการณ์ให้ชาวบ้านรับรู้ โดยไม่มีเจตนาจะให้ใครสนใจเป็นพิเศษ(ออกตัวเหมือนกลัวจะเข้าใจผิด ฮ่าๆ)
หลังจากที่เราบอกพี่ๆในกรุ๊ปไลน์เรียบร้อย ก็มีข้อความจากพี่อ. เด้งเข้ามาส่วนตัวเลยค่ะ ภายในเวลาอันรวดเร็ว
ประหนึ่งว่าเป็นห่วงเป็นใย เป็นเดือดเป็นร้อนกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย ถึงขนาดบอกว่าจะให้เพื่อนที่อยู่จังหวัดนั้นช่วยตามเรื่องให้กันเลยทีเดียว
ซึ่งตอนนั้นเราซึ้งในน้ำใจนะคะ เพราะรู้จักกันได้ไม่นาน
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเป็นการส่วนตัวค่ะ จนมีวันนึงเราพูดคุยเกี่ยวกับหนังที่พึ่งเข้าฉาย
ประมาณว่าเรากำลังจะไปดูคนเดียว โดยปกติเราไปดูหนังคนเดียวอยู่แล้วค่ะ เพราะเรากับจ.อยู่คนละจังหวัดกัน นานๆจ.จะมาหาซักที
ทำให้การดูหนังคนเดียวเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย พอเราบอกในกรุ๊ปไปพี่อ.ก็ทักมาเลยค่ะ บอกว่าจะไปดูด้วยอยากดูอยู่พอดี เราก็ไม่ขัด
โดยที่เราก็บอกจ.นะคะ ว่าไปดูหนังกับพี่ที่มหาลัย (จ. ไม่ใช่คนจุกจิก จุ้นจ้าน รับรู้ และไม่ได้ถามอะไร)
พอดูหนังจบ ก็นั่งทานข้าวและพูดคุยกันสับเพเหระ พี่เค้าก็ถามเราหลายเรื่อง ส่วนเราเองก็เล่าให้ฟังโดยไม่คิดอะไร
ตามปะสาคนตรงๆไม่มีอะไรต้องปิดบัง จนกลับบ้านมา พี่เค้าก็ส่งข้อความมาขอบคุณ ประหนึ่งว่าเราทำให้เค้ามีความสุข
คล้ายกับโลกนี้มีความหวังอีกครั้ง ..
เดี๋ยวกลับมาต่อนะคะ
*แก้ไขข้อความค่ะ