หลายๆ อย่างที่ยังไม่ได้พัฒนาเพราะประเทศไทยมีสภาวิชาชีพที่รับรองอาชีพเฉพาะต่างๆ ที่สร้างความเจริญให้สังคมเพียงที่เดียว ในความเห็นส่วนตัวผม ผมว่ามันทำให้ผู้บริหารองค์กรซึ่งอยู่มานาน ไม่รู้จักปรับตัว โลกเค้าหมุนไปที่ไหนแล้ว จะมายึดมั่นถือมั่นโดยใช้ความเป็นรุ่นใหญ่มาบอกให้คนอื่นหยุดพูดโดยอ้างครรลอง หรือวิธีการปฏิบัติเก่าแก่กันมาโดยไม่ฟังเสียงคนอื่น แล้วประเทศชาติมันจะพัฒนาไปยังไง จะมาบอกว่าตำราที่ออกมาถูกพัฒนาให้ทันสมัยแล้ว มันก็เป็นแค่ประเด็นเดียวที่ทำ แต่ในแง่ของการเปิดรับการอภิปรายจากคนในวิชาชีพ ที่ไม่ได้มีเส้นมีสายหรือมี power / connection ในการผลักดันผลประโยชน์ต่างๆ ต่อสังคมโดยส่วนรวม มันก็ยังไม่มีสิ่งใดสามารถพอสูจน์ทราบได้เป็นเหตเป็นผล หรือมีการ clarify ออกมาให้ได้ทุกคนรับรู้อย่างชัดเจน มันก็ดูน่าลังเลที่จะสนับสนุนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความเหมาะสมของระยะเวลาใบอนุญาติ การเก็บค่าสมาชิก การออกกฏระเบียบต่างๆ รวมถึงมารยาทของผู้ทรงคุณวุฒิรวมทั้งเจ้าหน้าที่ ในการมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิก พอถึงเวลาประเมินผลการปฏิบัติงานก็ชงเองกินกันเองทั้งนั้นเพราะผูกขาดอยู่ที่เดียว
เป็นไปได้มั้ยที่จะให้มีกฏหมายที่รับรองสภาวิชาชีพหนี่งๆ ได้เพิ่มขึ้น มากกว่าหนึ่งจะได้เป็นการถ่วงดุลอำนาจกัน และเกิดประโยชน์ทั้งกับผู้ประกอบวิชาชีพ และสังคมที่จะได้รับมาตรฐานที่สูงขึ้นกว่าการผูกขาดในปัจจุบัน
คงจะต้องมีทั้งท่านที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในสิ่งกล่าวอ้างบางประโยคที่ดูรุนแรงและตัดสินคนอื่นจนเกินไป
อย่างไรก็แล้วแต่ ขอเชิญวิภาค วิจารย์ และอภิปรายได้ตามสะดวก
สภาวิชาชีพทำไมต้องมีที่เดียว
เป็นไปได้มั้ยที่จะให้มีกฏหมายที่รับรองสภาวิชาชีพหนี่งๆ ได้เพิ่มขึ้น มากกว่าหนึ่งจะได้เป็นการถ่วงดุลอำนาจกัน และเกิดประโยชน์ทั้งกับผู้ประกอบวิชาชีพ และสังคมที่จะได้รับมาตรฐานที่สูงขึ้นกว่าการผูกขาดในปัจจุบัน
คงจะต้องมีทั้งท่านที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในสิ่งกล่าวอ้างบางประโยคที่ดูรุนแรงและตัดสินคนอื่นจนเกินไป
อย่างไรก็แล้วแต่ ขอเชิญวิภาค วิจารย์ และอภิปรายได้ตามสะดวก