คือไม่ได้เกี่ยวกัยกล้าไม่ แต่รัฐบาลปกติเค้าหาเงินมาเติม ส่วนที่มันขาดหายได้
รัฐบาลปกติไม่สามารถทำได้ ภาษีมรดก ภาษีที่ดิน ก็ยังไม่ผ่าน เพิ่งเอากลับไปศึกษาใหม่ เห็นข่าวเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง
ภาษีมรดกกับภาษีที่ดิน มันก็คือๆกับหวยนั้นแหละ ตอมันใหญ่
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ หัวหน้า สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร แสดงความกังวลต่ออนาคตทางเศรษฐกิจของไทย โดยเปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลมีแผนจะ ปรับขึ้นภาษีต่างๆถึง 5 ตัว ทั้งการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) การเก็บภาษีผู้รับมรดก การเก็บภาษีที่ดิน การขึ้นภาษีน้ำมัน และการเก็บภาษีสรรพสามิตจาก ราคาขายปลีก จากเดิมเก็บจากราคาหน้าโรงงาน ทำให้ นักลงทุนเกิดความกังวล และชะลอการลงทุนออกไป เพื่อรอความชัดเจน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้นายศุภวุฒิได้ยกตัวอย่างกรณีประเทศญี่ปุ่นว่าได้มีการปรับเพิ่มภาษีการค้าเพียงแค่ตัวเดียว จากเดิม 5% เป็น 8% แต่ส่งผลให้เศรษฐกิจจากที่เคยขยายตัวเป็นบวกกลายเป็นขยายตัวติดลบทันที และไทยจะปรับเพิ่มภาษีที่เดียวถึง 5 ตัว ซึ่งเรื่องของการปรับเพิ่มภาษีเป็นเรื่องละเอียดอ่อน รัฐบาลต้องพิจารณาให้รอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีของรัฐบาลมีความจำเป็น เพราะหากไม่ทำในรัฐบาลนี้ รอให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะทำได้ยาก เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่อยากขึ้นภาษีให้เสียคะแนนนิยม
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418086584
รัฐบาลขึ้นภาษี5ตัวรวด! เอกชนกังวลปี58ลงทุนวูบ "คลัง" เเจงต้องรีบทำ เพราะรัฐบาลปกติไม่กล้า
รัฐบาลปกติไม่สามารถทำได้ ภาษีมรดก ภาษีที่ดิน ก็ยังไม่ผ่าน เพิ่งเอากลับไปศึกษาใหม่ เห็นข่าวเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง
ภาษีมรดกกับภาษีที่ดิน มันก็คือๆกับหวยนั้นแหละ ตอมันใหญ่
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ หัวหน้า สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร แสดงความกังวลต่ออนาคตทางเศรษฐกิจของไทย โดยเปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลมีแผนจะ ปรับขึ้นภาษีต่างๆถึง 5 ตัว ทั้งการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) การเก็บภาษีผู้รับมรดก การเก็บภาษีที่ดิน การขึ้นภาษีน้ำมัน และการเก็บภาษีสรรพสามิตจาก ราคาขายปลีก จากเดิมเก็บจากราคาหน้าโรงงาน ทำให้ นักลงทุนเกิดความกังวล และชะลอการลงทุนออกไป เพื่อรอความชัดเจน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้นายศุภวุฒิได้ยกตัวอย่างกรณีประเทศญี่ปุ่นว่าได้มีการปรับเพิ่มภาษีการค้าเพียงแค่ตัวเดียว จากเดิม 5% เป็น 8% แต่ส่งผลให้เศรษฐกิจจากที่เคยขยายตัวเป็นบวกกลายเป็นขยายตัวติดลบทันที และไทยจะปรับเพิ่มภาษีที่เดียวถึง 5 ตัว ซึ่งเรื่องของการปรับเพิ่มภาษีเป็นเรื่องละเอียดอ่อน รัฐบาลต้องพิจารณาให้รอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีของรัฐบาลมีความจำเป็น เพราะหากไม่ทำในรัฐบาลนี้ รอให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะทำได้ยาก เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่อยากขึ้นภาษีให้เสียคะแนนนิยม
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418086584