diy vit c serum เท่าที่หาดูในเวปต่างๆมา ส่วนใหญ่ใช้วิตซีรูปแบบ L-ascorbic acid ซึ่งตอนทาจะรู้สึกยิบๆหน้า
ผมก็เป็นคนนึงที่ diy vit c serum ใช้เหมือนกัน แต่ diy ของผมนั้น เกิดจากความต้องการจะใช้ vit c แบบเข้มข้นจัดเต็มแต่ใช้แล้วไม่ยิบๆที่หน้า
เป็นเพราะอะไรนั้น โปรดติดตามอ่านกันนะขอรับ
ขอเกริ่นนิดนึงครับ ผมชอบใช้วิตามินซีเซรั่มมากๆครับ เพราะใช้แล้วหน้าใสดี (ส่วนตัวนะ)
ก็ใช้มาหลายยี่ห้อมากๆ ลองๆมันหมด ซึ่งวิตซีเซรั่มเข้มข้นที่ใช้มา เวลาใช้จะยิบๆหน้านิดนึง เลยมานั่งคิดว่า เราอยากได้วิตซีเซรั่มเข้มข้นแบบไม่ยิบหน้า และสามารถใช้ได้ทั้งกลางวัน กลางคืน เลยเริ่มศึกษาหาข้อมูล
เลยทำให้ทราบว่า วิตซีเข้มข้นที่ใช้ในผลิตภัณฑ์นั้นเป็น L-ascorbic acid ซึ่งเป็นวิตซีรูปแบบที่มีงานวิจัยรับรองแน่นหนามากที่สุดในแง่ของประสิทธิภาพในการทำให้ผิวสว่างกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน บลาๆ สารพัดประโยชน์ แต่เจ้าวิตซีตัวนี้จะดูดซึมเข้าผิวเราและออกฤทธิ์ได้ดีที่ ph ต่ำๆ เป็นที่มาของอาการยิบๆหน้าเวลาที่เราใช้วิตซีรูปแบบนี้นั่นเอง อีกทั้งมันอ่อนแอมาก เสื่อมง่าย ไปไว แบรนดังเขาๆเลยหาสารพัดวิธีมาทำให้มันแข็งแรงขึ้น อยู่ในขวดได้นานขึ้น
เช่น skinceutical ที่ใช้วิตซีรูปแบบนี้ถึง 15% และทำให้มันแข็งแรง เสื่อมช้าลงด้วย vitamin e และ ferulic acid
วิตซีคีล ที่รู้จักกันดี ก็ใช้สารตระกูล glycol ช่วย stabilized มัน โดยตัดน้ำออกจากสูตรไปเลย เพราะน้ำเป็นตัวการที่ทำให้เกิดการ oxidation ทำให้วิตซีรูปแบบนี้เสื่อมนั่นเอง
คำถามต่อมาคือ ผมอยากได้วิตซีเข้มข้นที่ใช้แล้วไม่ยิบๆหน้า แต่ต้องมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับวิตซี L-ascorbic acid
หลังจากหาข้อมูลก็ค้นพบตัวนึง คือ Ascorbyl Tetraisopalmitate หรือ Tetrahexyldecyl Ascorbate
พออ่านประสิทธิภาพแล้ว โอ้วแม่เจ้า มันคืออะไรที่หามานาน 555
ข้อมูลต่างๆนี้ ผมได้มาจากเวปนึงครับ
Ascorbyl Tetraisopalmitate
วิตามินซี ชนิดละลายในน้ำมัน เป็นชนิดเดียวที่มีประสิทธิภาพเทียบเทียบ Ascorbic Acid (วิตามินซี ธรรมชาติ) ในขณะที่มีความเสถียรที่สมบูรณ์ โดยไม่เสื่อมคุณภาพเมื่ออยู่ในสูตรครีม มีอายุอย่างน้อย 24เดือน โดยที่ยังมีประสิทธิภาพสูงจนครบเวลา
นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการดูดซึมสู่ผิวได้มากกว่า Ascorbic Acid (superior percutaneous absorption) เนื่องจากอยู่ในรูปน้ำมัน จึงสามารถซึมสู่ผิวชั้นในซึ่งมีลักษณะเป็นไขมันได้มากกว่าชนิดอื่นๆ
Ascorbyl Tetraisopalmitate ได้รับการอนุญาติเป็น quasi-drug (ผลิตภัณฑ์เทียบเท่ายา) ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อใช้ที่ 3% และได้รับการอนุญาติเป็น functional ingredient สำหรับ skin whitening (ผลิตภัณฑ์ที่มีผลชัดเจน สำหรับผิวขาว) ในประเทศเกาหลี เมื่อใช้ที่ 2%
สรุปประสิทธิภาพของ Ascorbyl Tetraisopalmitate
-ดูดซึมได้ดีกว่า Vitamin C ชนิดอื่นๆ
-Whitening ให้ผิวขาว ตั้งแต่ความเข้มข้น 2% ขึ้นไป
-ลดความเสียหายของ DNA ซึ่งถูกแสง UV ทำลาย
-Anti-oxidant ต้านอนุมูลอิสระ
-กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิว ตามกระบวนการธรรมชาติ
-ทนความร้อนได้ดี มีความเสถียรสูง (ในขั้นตอนการผสมสูตร สามารถใช้ความร้อนได้ในระยะสั้น)
ข้อกำหนดการผสมในสูตร
-หากมีส่วนของน้ำในสูตร ควรเติม Disodium EDTA 0.2%
-pH ของสูตรต้องอยู่ในระดับไม่เกิน 6.0
ผลิตจาก Japan
INCI Name: Ascorbyl Tetraisopalmitate หรือ Tetrahexyldecyl Ascorbate
และเท่าที่หาข้อมูลมามีหลายแหล่งการผลิตมากครับ ส่วนใหญ่มาจากจีน แต่ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด ต้องผลิตจากญี่ปุ่นครับ
แค่ที่จีนผลิตราคาก็โค ตะ ระ มหาโหดเลยครับ เมลไปถาม supplier ต่างๆ จากเวป alibaba เจ้าวิตซีรูปแบบนี้ ตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 3 หมื่นกว่าบาท
ญี่ปุ่น 4 หมื่นกว่า เลยถึงบางอ้อเลยครับว่าทำไมแบรนต่างๆถึงไม่ค่อยใช้วิตซีรูปแบบนี้กัน ถึงใช้ ก็ใช้น้อยมากๆ คือ ไม่เกิน 5-6 %
แต่ด้วยความอยากใช้มากๆ อยากใส่แบบเข้มข้น จึงสั่ง Ascorbyl Tetraisopalmitate ที่ผลิตจากญี่ปุ่น มาลองใช้
โดยซื้อจากเวปนึงมา 10 g ราคา 819 บาท (ไม่บอกเวป เด๋วหาว่าหน้าหมา เอ้ยหน้าม้าอีก) ซึ่งเวปนี้เขาแบ่งขาย ซื้อน้อยเลยแพงมากกว่าเดิมอีก TT
เราก็เอามาผสมเองเลยครับ
Vit c serum เข้มข้นแต่ไม่แสบยิบ ใช้แล้วหน้าใสชิกๆ ขนาด 100 กรัม
ส่วนประกอบ
Part A น้ำและสารละลายน้ำ
น้ำกลั่น (ซื้อร้านขายยา sterile water) 86.8 กรัม
Disodium EDTA 0.2 กรัม
(ตัวจับประจุในน้ำ ถ้าเราหาน้ำกลั่นไม่ได้ ก็เอาน้ำขวดที่เรากินนี่แหล่ะแทน แล้วเติม disodium edta ซะ มันก็จะกลายเป็นน้ำกลั่น)
Phenoxyethanol (สารกันเสียชนิดปลอดภัย) 1 กรัม
Part B น้ำมัน
Ascorbyl Tetraisopalmitate 10 กรัม
Vitamin E (tocopherol acetate) 1 กรัม
Sodium Polyacrylate (and) Polyisobutene (ตัวประสานน้ำกับน้ำมัน) 1 กรัม
วิธิการผสมง่ายมากขอรับ
ผสมส่วน B ให้เข้ากัน เก็บไว้
ผสมส่วน A ให้เข้ากัน
ค่อยๆ เทส่วนผสม A ลงไปในส่วนผสม B หลังจากนั้น คนๆๆๆ กวนๆๆๆ ให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
ปล ส่วนผสมต่างๆ ถ้าเพื่อนๆอยากทำตาม ก็หาซื้อเองเลยนะครับ โดยเอาชื่อสารไป search ใน google ดู สะดวกที่ไหนก็ซื้อที่นั่นเลยครับ
และเราต้องมีเครื่องชั่งแบบละเอียดด้วยนะครับ ทีวัดได้ถึงระดับ 0.01 กรัม มีขายเยอะแยะ ราคาไม่แพงครับ
แล้วผลการใช้ล่ะ
หลังการใช้ 4 สัปดาห์ หน้าดูสว่างใสขึ้น ขาวขึ้นนิดหน่อย จุดดากดำ เอ้ย ด่างดำจากสิว ดูจาง อย่างเห็นได้ชัด ปลื้มฝุดๆ
ดูรูปเอาเองละกันนะครับ ไม่ต้องใส่ใจกับหนวดและตอหนวดนะ 555 (ขอสาบานว่า ไม่ผ่านการแต่งรูป มีแต่เติมติ๊กเกอร์ฟรุ๊งฟริ๊ง)
http://image.ohozaa.com/view2/y1moInLZteFDRRXf
ความคุ้มค่า อยากจะบอกว่าคุ้มค่ามว๊ากกกก 100 กรัม ลงทุนไปประมาณ 900 บาท ได้วิตซีเซรั่ม ascorbyl tetraisopalmitate เข้มข้น 10%
เมื่อก่อนใข้วิตซีเข้มข้นรูปแบบ L-ascorbic acid ใช้แล้วแสบยิบๆ แบรนดังๆ 30 กรัม ก็ปาเข้าไป 3,000 บาท
มีแต่อีกนะ ผลการใช้มันก็แล้วแต่บุคคลด้วยนะครับ ผิวคนเราไม่เหมือนกัน ผมผิวธรรมดา มันนิดหน่อย ใช้ได้ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าคนผิวแห้งแนะนำหา moisturizer เติมเข้าไปด้วยก็ได้ครับ
สุดท้าย ใครขี้เกียจผสม ก็บอกนะ เด๋วผสมให้ลองใช้ 100 กรัม ขอคิด 1000 บาทละกัน หรือตรูจะไปจด อย ดีนะ 555
คงไม่คุ้ม ต้นทุน ascorbyl tetraisopalmitate โหดเกิน และตรูไม่เก่งการตลาด TT
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ มีคำแนะนำให้เติม active อะไรเข้าไปเพิ่มก็เสนอให้ด้วยนะครับ จะเอาไปลองทำดู
แต่ตอนนี้ขอใช้สูตรนี้ไปก่อน เพราะมันชิกมากๆสำหรับผม ^^
DIY vitamin c serum แบบเข้มข้น แต่ไม่แสบยิบ ใช้แล้วหน้าใสชิกๆ
ผมก็เป็นคนนึงที่ diy vit c serum ใช้เหมือนกัน แต่ diy ของผมนั้น เกิดจากความต้องการจะใช้ vit c แบบเข้มข้นจัดเต็มแต่ใช้แล้วไม่ยิบๆที่หน้า
เป็นเพราะอะไรนั้น โปรดติดตามอ่านกันนะขอรับ
ขอเกริ่นนิดนึงครับ ผมชอบใช้วิตามินซีเซรั่มมากๆครับ เพราะใช้แล้วหน้าใสดี (ส่วนตัวนะ)
ก็ใช้มาหลายยี่ห้อมากๆ ลองๆมันหมด ซึ่งวิตซีเซรั่มเข้มข้นที่ใช้มา เวลาใช้จะยิบๆหน้านิดนึง เลยมานั่งคิดว่า เราอยากได้วิตซีเซรั่มเข้มข้นแบบไม่ยิบหน้า และสามารถใช้ได้ทั้งกลางวัน กลางคืน เลยเริ่มศึกษาหาข้อมูล
เลยทำให้ทราบว่า วิตซีเข้มข้นที่ใช้ในผลิตภัณฑ์นั้นเป็น L-ascorbic acid ซึ่งเป็นวิตซีรูปแบบที่มีงานวิจัยรับรองแน่นหนามากที่สุดในแง่ของประสิทธิภาพในการทำให้ผิวสว่างกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน บลาๆ สารพัดประโยชน์ แต่เจ้าวิตซีตัวนี้จะดูดซึมเข้าผิวเราและออกฤทธิ์ได้ดีที่ ph ต่ำๆ เป็นที่มาของอาการยิบๆหน้าเวลาที่เราใช้วิตซีรูปแบบนี้นั่นเอง อีกทั้งมันอ่อนแอมาก เสื่อมง่าย ไปไว แบรนดังเขาๆเลยหาสารพัดวิธีมาทำให้มันแข็งแรงขึ้น อยู่ในขวดได้นานขึ้น
เช่น skinceutical ที่ใช้วิตซีรูปแบบนี้ถึง 15% และทำให้มันแข็งแรง เสื่อมช้าลงด้วย vitamin e และ ferulic acid
วิตซีคีล ที่รู้จักกันดี ก็ใช้สารตระกูล glycol ช่วย stabilized มัน โดยตัดน้ำออกจากสูตรไปเลย เพราะน้ำเป็นตัวการที่ทำให้เกิดการ oxidation ทำให้วิตซีรูปแบบนี้เสื่อมนั่นเอง
คำถามต่อมาคือ ผมอยากได้วิตซีเข้มข้นที่ใช้แล้วไม่ยิบๆหน้า แต่ต้องมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับวิตซี L-ascorbic acid
หลังจากหาข้อมูลก็ค้นพบตัวนึง คือ Ascorbyl Tetraisopalmitate หรือ Tetrahexyldecyl Ascorbate
พออ่านประสิทธิภาพแล้ว โอ้วแม่เจ้า มันคืออะไรที่หามานาน 555
ข้อมูลต่างๆนี้ ผมได้มาจากเวปนึงครับ
Ascorbyl Tetraisopalmitate
วิตามินซี ชนิดละลายในน้ำมัน เป็นชนิดเดียวที่มีประสิทธิภาพเทียบเทียบ Ascorbic Acid (วิตามินซี ธรรมชาติ) ในขณะที่มีความเสถียรที่สมบูรณ์ โดยไม่เสื่อมคุณภาพเมื่ออยู่ในสูตรครีม มีอายุอย่างน้อย 24เดือน โดยที่ยังมีประสิทธิภาพสูงจนครบเวลา
นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการดูดซึมสู่ผิวได้มากกว่า Ascorbic Acid (superior percutaneous absorption) เนื่องจากอยู่ในรูปน้ำมัน จึงสามารถซึมสู่ผิวชั้นในซึ่งมีลักษณะเป็นไขมันได้มากกว่าชนิดอื่นๆ
Ascorbyl Tetraisopalmitate ได้รับการอนุญาติเป็น quasi-drug (ผลิตภัณฑ์เทียบเท่ายา) ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อใช้ที่ 3% และได้รับการอนุญาติเป็น functional ingredient สำหรับ skin whitening (ผลิตภัณฑ์ที่มีผลชัดเจน สำหรับผิวขาว) ในประเทศเกาหลี เมื่อใช้ที่ 2%
สรุปประสิทธิภาพของ Ascorbyl Tetraisopalmitate
-ดูดซึมได้ดีกว่า Vitamin C ชนิดอื่นๆ
-Whitening ให้ผิวขาว ตั้งแต่ความเข้มข้น 2% ขึ้นไป
-ลดความเสียหายของ DNA ซึ่งถูกแสง UV ทำลาย
-Anti-oxidant ต้านอนุมูลอิสระ
-กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิว ตามกระบวนการธรรมชาติ
-ทนความร้อนได้ดี มีความเสถียรสูง (ในขั้นตอนการผสมสูตร สามารถใช้ความร้อนได้ในระยะสั้น)
ข้อกำหนดการผสมในสูตร
-หากมีส่วนของน้ำในสูตร ควรเติม Disodium EDTA 0.2%
-pH ของสูตรต้องอยู่ในระดับไม่เกิน 6.0
ผลิตจาก Japan
INCI Name: Ascorbyl Tetraisopalmitate หรือ Tetrahexyldecyl Ascorbate
และเท่าที่หาข้อมูลมามีหลายแหล่งการผลิตมากครับ ส่วนใหญ่มาจากจีน แต่ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด ต้องผลิตจากญี่ปุ่นครับ
แค่ที่จีนผลิตราคาก็โค ตะ ระ มหาโหดเลยครับ เมลไปถาม supplier ต่างๆ จากเวป alibaba เจ้าวิตซีรูปแบบนี้ ตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 3 หมื่นกว่าบาท
ญี่ปุ่น 4 หมื่นกว่า เลยถึงบางอ้อเลยครับว่าทำไมแบรนต่างๆถึงไม่ค่อยใช้วิตซีรูปแบบนี้กัน ถึงใช้ ก็ใช้น้อยมากๆ คือ ไม่เกิน 5-6 %
แต่ด้วยความอยากใช้มากๆ อยากใส่แบบเข้มข้น จึงสั่ง Ascorbyl Tetraisopalmitate ที่ผลิตจากญี่ปุ่น มาลองใช้
โดยซื้อจากเวปนึงมา 10 g ราคา 819 บาท (ไม่บอกเวป เด๋วหาว่าหน้าหมา เอ้ยหน้าม้าอีก) ซึ่งเวปนี้เขาแบ่งขาย ซื้อน้อยเลยแพงมากกว่าเดิมอีก TT
เราก็เอามาผสมเองเลยครับ
Vit c serum เข้มข้นแต่ไม่แสบยิบ ใช้แล้วหน้าใสชิกๆ ขนาด 100 กรัม
ส่วนประกอบ
Part A น้ำและสารละลายน้ำ
น้ำกลั่น (ซื้อร้านขายยา sterile water) 86.8 กรัม
Disodium EDTA 0.2 กรัม
(ตัวจับประจุในน้ำ ถ้าเราหาน้ำกลั่นไม่ได้ ก็เอาน้ำขวดที่เรากินนี่แหล่ะแทน แล้วเติม disodium edta ซะ มันก็จะกลายเป็นน้ำกลั่น)
Phenoxyethanol (สารกันเสียชนิดปลอดภัย) 1 กรัม
Part B น้ำมัน
Ascorbyl Tetraisopalmitate 10 กรัม
Vitamin E (tocopherol acetate) 1 กรัม
Sodium Polyacrylate (and) Polyisobutene (ตัวประสานน้ำกับน้ำมัน) 1 กรัม
วิธิการผสมง่ายมากขอรับ
ผสมส่วน B ให้เข้ากัน เก็บไว้
ผสมส่วน A ให้เข้ากัน
ค่อยๆ เทส่วนผสม A ลงไปในส่วนผสม B หลังจากนั้น คนๆๆๆ กวนๆๆๆ ให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
ปล ส่วนผสมต่างๆ ถ้าเพื่อนๆอยากทำตาม ก็หาซื้อเองเลยนะครับ โดยเอาชื่อสารไป search ใน google ดู สะดวกที่ไหนก็ซื้อที่นั่นเลยครับ
และเราต้องมีเครื่องชั่งแบบละเอียดด้วยนะครับ ทีวัดได้ถึงระดับ 0.01 กรัม มีขายเยอะแยะ ราคาไม่แพงครับ
แล้วผลการใช้ล่ะ
หลังการใช้ 4 สัปดาห์ หน้าดูสว่างใสขึ้น ขาวขึ้นนิดหน่อย จุดดากดำ เอ้ย ด่างดำจากสิว ดูจาง อย่างเห็นได้ชัด ปลื้มฝุดๆ
ดูรูปเอาเองละกันนะครับ ไม่ต้องใส่ใจกับหนวดและตอหนวดนะ 555 (ขอสาบานว่า ไม่ผ่านการแต่งรูป มีแต่เติมติ๊กเกอร์ฟรุ๊งฟริ๊ง)
http://image.ohozaa.com/view2/y1moInLZteFDRRXf
ความคุ้มค่า อยากจะบอกว่าคุ้มค่ามว๊ากกกก 100 กรัม ลงทุนไปประมาณ 900 บาท ได้วิตซีเซรั่ม ascorbyl tetraisopalmitate เข้มข้น 10%
เมื่อก่อนใข้วิตซีเข้มข้นรูปแบบ L-ascorbic acid ใช้แล้วแสบยิบๆ แบรนดังๆ 30 กรัม ก็ปาเข้าไป 3,000 บาท
มีแต่อีกนะ ผลการใช้มันก็แล้วแต่บุคคลด้วยนะครับ ผิวคนเราไม่เหมือนกัน ผมผิวธรรมดา มันนิดหน่อย ใช้ได้ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าคนผิวแห้งแนะนำหา moisturizer เติมเข้าไปด้วยก็ได้ครับ
สุดท้าย ใครขี้เกียจผสม ก็บอกนะ เด๋วผสมให้ลองใช้ 100 กรัม ขอคิด 1000 บาทละกัน หรือตรูจะไปจด อย ดีนะ 555
คงไม่คุ้ม ต้นทุน ascorbyl tetraisopalmitate โหดเกิน และตรูไม่เก่งการตลาด TT
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ มีคำแนะนำให้เติม active อะไรเข้าไปเพิ่มก็เสนอให้ด้วยนะครับ จะเอาไปลองทำดู
แต่ตอนนี้ขอใช้สูตรนี้ไปก่อน เพราะมันชิกมากๆสำหรับผม ^^