ถ้าซื้อที่ดินเปล่า จะซื้อที่ดินที่ติดกับแปลงที่มีอยู่ก่อนแล้วครับ ประมาณ 50 ตรว. เจ้าของบอกขายแต่ราคาแพงกว่าที่ผมเคยซื้อแปลงแรกประมาณ 2เท่า(แปลงเก่าซื้อมาเมื่อ 2ปีก่อน ก็ 50ตรว.เหมือนกัน) อยู่ใจกลางอำเภอเมืองเลยครับ ใกล้โรงพยาบาล โรงเรียนขนาดใหญ่ 3แห่ง(โรงเรียนประจำจังหวัดและรองลงมา แล้วก็วิทยาลัยอาชีวะ) สนามกีฬาจังหวัด ห้างสรรพสินค้า เรียกได้ว่าขับรถไม่เกิน 5นาทีครับไปถึงทุกที่ที่สำคัญในเมือง
ที่ดินเข้าไปในซอยถนนคอนกรีตซึ่งติดกับถนนหลัก ทั้งซอยยาวประมาณ 300ม.เป็นซอยตันครับ(ช่วงต้นซอยมีทั้งบ้านทาวเฮ้าส์10ปีขึ้นไป บ้านเช่าที่พึ่งสร้างใหม่ บ้านเช่าที่น่าจะเกิน 5ปีขี้นไป ที่ดินของผมอยู่เกือบท้ายซอยติดกับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ 2หลังติดกัน ตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่า 1ไร่นิดๆเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแต่ลึกกว่าของผมครับ)
ที่ดินผมเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเช่นกันติดถนนคอนกรีตครับ ถ้าได้เพิ่มมาอีกแปลงจริงๆ ด้านหน้าที่ติดถนนจะยาวมากแต่ความลึกผมว่ามันน้อยไปหน่อย(น่าจะ10- 12ม.) อนาคตวางแผนไว้ว่าถ้าซื้อเพิ่มจริงๆ มีที่ดิน100ตรว. ภายใน3-10ปีจะทำบ้านเช่าครับคงได้หลายห้องอยู่เหมือนกันหรือถ้ามีทุนมากพออยากทำอพาร์ทเม้นท์ไม่เกิน 5ชั้นครับ
(ที่ดินพอทำรึเปล่า ผู้รู้แนะนำด้วยครับกังวลเรื่องความลึกมากๆ) หรือสุดท้ายอาจสร้างบ้านอยู่เองครับ
มาถึงอีกตัวเลือกครับ หาซื้อบ้านมือ2 ปรับปรุงแล้วปล่อยเช่า ทำเลที่ดูๆไว้ก้อมีรัศมีไม่เกิน 3-5km. จากใจกลางเมืองครับ ทำเลคงไม่ต่างกันมากกับที่ดินเปล่า บ้านคงปล่อยเช่าได้ไม่เกิน 3-4พัน/เดือน/หลัง จากราคาที่ประเมินคร่าวๆในบริเวณใกล้เคียง
***ข้อมูลเพิ่มเติม***
อายุ 30ปี ทำธุรกิจส่วนตัว สนใจเกี่ยวกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นพิเศษ
มีประสบการณ์ทำหอพักให้เช่ามา 6เดือน(ดัดแปลงอาคารพาณิชย์ 1คูหา 3ชั้นได้ 6ห้องครับ รายได้จากหอพักผ่อนแบงค์ทั้งหมดพอดีเหลือนิดหน่อย)
**ทั้งบ้านและที่ดินอยู่ในงบ 1ล้านครับ ถ้าซื้อที่ดินจะซื้อเงินสด ส่วนบ้านไม่แน่ใจว่าจะกู้บางส่วนหรือเงินสดทั้งหมดดี(ไม่ค่อยอยากเสียดอกเบี้ย)
ที่ทำให้คิดหนักคือที่ดินซื้อเก็บไว้ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ในตอนนี้ไม่มีกระแสเงินสดเข้ามา(อยากได้ แต่แพงกว่าแปลงที่ซื้อก่อนนี้มากด้วย) กับบ้านที่ให้ผลตอบแทนในรูปค่าเช่าทุกๆเดือน ถ้ากู้แบงค์อาจเหลือเงินบางส่วนจากงบที่ตั้งไว้แล้วทำได้มากกว่า 1หลัง (พยายามให้ค่าเช่าผ่อนตัวบ้านเองได้แล้วจะรีบปิดให้หมดเร็วที่สุด กลัวดอกเบี้ย!!!)
ทั้ง 2อย่างมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นในอนาคตทั้งคู่ เงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินเย็นประมาณนึง(ยกเว้นต้องการเอาไปลงทุนต่อในอสังหาที่ๆมูลค่ามากกว่าซึ่งต้องระดมเงินทุน) จุดมุ่งหมายเน้นการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคตเป็นหลัก ไม่เน้นขายทำกำไร ไม่ได้หวังรายได้จากด้านนี้เพื่อนำมาใช้จ่าย
** รบกวนทุกท่านแสดงความเห็นในมุมมองต่างๆได้เต็มที่เลยครับ เนื้อเรื่องอาจจะยาวและวกวนบ้าง ขออภัยด้วยนะครับ**
คิดไม่ตก! จะซื้อที่ดินเปล่า หรือ บ้านเพื่อปล่อยเช่าดีครับ
ที่ดินเข้าไปในซอยถนนคอนกรีตซึ่งติดกับถนนหลัก ทั้งซอยยาวประมาณ 300ม.เป็นซอยตันครับ(ช่วงต้นซอยมีทั้งบ้านทาวเฮ้าส์10ปีขึ้นไป บ้านเช่าที่พึ่งสร้างใหม่ บ้านเช่าที่น่าจะเกิน 5ปีขี้นไป ที่ดินของผมอยู่เกือบท้ายซอยติดกับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ 2หลังติดกัน ตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่า 1ไร่นิดๆเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแต่ลึกกว่าของผมครับ)
ที่ดินผมเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเช่นกันติดถนนคอนกรีตครับ ถ้าได้เพิ่มมาอีกแปลงจริงๆ ด้านหน้าที่ติดถนนจะยาวมากแต่ความลึกผมว่ามันน้อยไปหน่อย(น่าจะ10- 12ม.) อนาคตวางแผนไว้ว่าถ้าซื้อเพิ่มจริงๆ มีที่ดิน100ตรว. ภายใน3-10ปีจะทำบ้านเช่าครับคงได้หลายห้องอยู่เหมือนกันหรือถ้ามีทุนมากพออยากทำอพาร์ทเม้นท์ไม่เกิน 5ชั้นครับ
(ที่ดินพอทำรึเปล่า ผู้รู้แนะนำด้วยครับกังวลเรื่องความลึกมากๆ) หรือสุดท้ายอาจสร้างบ้านอยู่เองครับ
มาถึงอีกตัวเลือกครับ หาซื้อบ้านมือ2 ปรับปรุงแล้วปล่อยเช่า ทำเลที่ดูๆไว้ก้อมีรัศมีไม่เกิน 3-5km. จากใจกลางเมืองครับ ทำเลคงไม่ต่างกันมากกับที่ดินเปล่า บ้านคงปล่อยเช่าได้ไม่เกิน 3-4พัน/เดือน/หลัง จากราคาที่ประเมินคร่าวๆในบริเวณใกล้เคียง
***ข้อมูลเพิ่มเติม***
อายุ 30ปี ทำธุรกิจส่วนตัว สนใจเกี่ยวกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นพิเศษ
มีประสบการณ์ทำหอพักให้เช่ามา 6เดือน(ดัดแปลงอาคารพาณิชย์ 1คูหา 3ชั้นได้ 6ห้องครับ รายได้จากหอพักผ่อนแบงค์ทั้งหมดพอดีเหลือนิดหน่อย)
**ทั้งบ้านและที่ดินอยู่ในงบ 1ล้านครับ ถ้าซื้อที่ดินจะซื้อเงินสด ส่วนบ้านไม่แน่ใจว่าจะกู้บางส่วนหรือเงินสดทั้งหมดดี(ไม่ค่อยอยากเสียดอกเบี้ย)
ที่ทำให้คิดหนักคือที่ดินซื้อเก็บไว้ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ในตอนนี้ไม่มีกระแสเงินสดเข้ามา(อยากได้ แต่แพงกว่าแปลงที่ซื้อก่อนนี้มากด้วย) กับบ้านที่ให้ผลตอบแทนในรูปค่าเช่าทุกๆเดือน ถ้ากู้แบงค์อาจเหลือเงินบางส่วนจากงบที่ตั้งไว้แล้วทำได้มากกว่า 1หลัง (พยายามให้ค่าเช่าผ่อนตัวบ้านเองได้แล้วจะรีบปิดให้หมดเร็วที่สุด กลัวดอกเบี้ย!!!)
ทั้ง 2อย่างมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นในอนาคตทั้งคู่ เงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินเย็นประมาณนึง(ยกเว้นต้องการเอาไปลงทุนต่อในอสังหาที่ๆมูลค่ามากกว่าซึ่งต้องระดมเงินทุน) จุดมุ่งหมายเน้นการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคตเป็นหลัก ไม่เน้นขายทำกำไร ไม่ได้หวังรายได้จากด้านนี้เพื่อนำมาใช้จ่าย
** รบกวนทุกท่านแสดงความเห็นในมุมมองต่างๆได้เต็มที่เลยครับ เนื้อเรื่องอาจจะยาวและวกวนบ้าง ขออภัยด้วยนะครับ**