1.หัดเล่าครั้งแรก
2.เล่าไม่เก่ง
3.อยากระบาย เพื่อนไม่คบ
4.กำลังเศร้า
ผมเป็นเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ขี้เล่น ชอบสนุกสนาน เฮฮา ไม่ชอบความเศร้า เรียนค่อนข้างดี ไม่มีพิษภัยกับใคร (แต่ไม่เข้าใจว่าเพื่อนหาว่าผมหยิ่งทั้งที่ไม่มีอะไร) ตอนเรียนอยู่โรงเรียนประจำมาตลอดตั้งแต่อยู่บ้านนอก เคยมีปัญหากะเพื่อนตอนมัธยมเรื่องอะไรจำไม่ได้แล้ว ชกต่อยกะเพื่อนแต่ผมไม่กล้าทำ ( เพราะเพื่อนคนนั้นเป็นเพื่อนที่เรียกว่าผมสนิทมากคนนึง) ผมเจ็บมาก แต่ผมกลัวเพื่อนเจ็บ สุดท้ายผมยอมปล่อยให้มันชกฝ่ายเดียว และจะมีพวกไทมุง ยุยง ข้างๆ แต่ผมไม่ทำ ผมยอมมัน ที่สำคัญผมเจ็บปวดหัวใจมากกว่า เป็นเพื่อนสนิทกูนะ ทำไมทำกะกูได้ขนาดนี้ พยายามคิดในทางที่ดีว่าไม่เป็นไร เพื่อนกินหาง่ายเพื่อนตายหาอยากจริงๆ ผมพยายามเรียน และเรียนเพื่อให้ได้คะแนนดีๆ จะได้สอบ เอ็นทรานส์ เข้ามหาลัยได้ คงจะเจอแต่เพื่อนดีๆสักคน
จนผมสามารถสอบติดเข้ามหาลัยได้ ตอนปี 1 ผมก้ไม่รู้จักใครเลย ช่วงแรกจะโทรกลับบ้านบ่อยมาก เหมือนเรายังไม่ชินกับการเป็นอยู่กับคนจำนวนมาก ซึ่งต้องพึ่งตัวเองในทุกๆเรื่อง ปีแรก มหาลัยจะให้อยู่หอพักในมหาลัยเพื่อสะดวกในการทำกิจกรรมนู้นนี่นั่นของ เอก คณะ ช่วงนี้จะมีรายงานตัว และกิจกรรมต้อนรับ ที่ตึกคณะบ่อย จนมีเด็กผู้ชายคนนึงหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มแบบเบาๆ ผมก้หันกลับไปแล้วก็ยิ้มให้มัน ผมถามว่าอยู่คณะนี้ด้วยหรอคับ มันบอกว่าคับ แล้วอยู่เอกไหน ถามกันไปถามกันมา สุดท้ายอยู่เอกเดียวกัน แถมรหัสก็ใกล้ๆกันอีก จากนั่นเลยถามชื่อมัน มัน ชื่อ บี (นามสมมุติ) เลยหลังจากนั้นมา เนื่องจากผมอยู่คณะเดียวกันกับไอบี เวลามีกิจกรรมคณะอะไรต่างๆเราก็จะนัดไปทำกิจกรรมพร้อมกัน แถมยังพักห้องใกล้กันอีกคับ เวลาไปไหนมาไหนจะได้ไปเคาะประตูเรียกมันได้สะดวก แต่ผมไม่ชอบอยู่ห้อง มักจะหาอะไรทำ เช่น อ่านหนังสือห้องสมุด ดูหนัง ฟัง เพลง ซึ่งไปไหนทุกครั้งก้จะชวนมันไปตลอด และเริ่มสนิทกัน
จนพอชีวิตเริ่มปรับตัวได้ รู้จักเพื่อนใหม่เพิ่มมากขึ้น แต่ผมก็จะบอกให้มันรู้ตลอดเวลาไปไหนมาไหนกับเพื่อนคนไหน จะได้ไม่ต้องรอกันเวลาไปกินข้าวหรือธุระที่ไหน แต่ส่วนมากแล้วก็จะไปด้วยกัน จนผมรู้สึกว่าเออมันก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ เป็นคนจริงใจดี เป้นคนซื่อ (แต่ข้างในแฝงด้วยอะไรสักอย่าง เหมือนมีอะไรต้องคิดหรือเก็บกดตลอดเวลา เพราะผมก็พึ่งรู้เรื่องฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยดีหนักก็เป็นได้)ไม่มีภัยกะใคร แต่งตัวง่ายๆ เกงบอล เสื้อบอลเท้าแตะ เวลาใส่ชุดนิสิต กางเกงจะลอย ใส่เสื้อไว้ในกางเกง จนจะถึงกลางลำตัวละ (บางที่ผมก็ขำมันเหมือนกันกับการแต่งตัวของมัน) สะพายกระเป๋า เรียกว่าย่ามดีหว่า สีน้ำเงิน ออกคล้ำๆ เก่าๆ สไตน์เด็กวัด ผมชอบมันตรงที่เป็นแบบนี้และ ไม่หลงตัว ไม่อวด ไม่เว่อ พูดจาเบา เนิบๆ ต้องค่อยๆฟัง เพราะมันพูดไม่ค่อยเก่ง และเราก็เริ่มสนิทกัน กิจกรรมก็ทำด้วยกันมากขึ้นจน เพื่อนๆเริ่มแซวกันว่าเป็นแฟนกัน แต่ผมก็ขำๆคับ เพราะไม่ได้คิดอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว บวกกับที่ทั้งผมและไอบีต่างไม่มีแฟนกันทั้งคู่มันเลยทำให้ชีวิตอิสระอยู่กับเพื่อนได้ตลอดมากกว่า แต่ถ้ามีแฟนทั้งมันและผมก็คงไม่มีปัญญาเลี้ยงแฟนแน่ๆ เงินที่บ้านส่งมาจำกัดใช้ในการเรียนและใช้จ่ายประจำวันเท่านั้น
จนเวลามันไปกินเหล้ากะรุ่นพี่ มันจะชวนผมไปแต่ผมปฏิเสธ ผมไม่เคยกินจริงๆ (ผมพยายามคิดเสมอว่าเงินทุกบาทที่พอแม่ส่งมาจะไม่ไปกับสิ่งพวกนี้ เพราะที่บ้านผมไม่ได้รวย) แต่วันนั้นก็เสียใจนิดนึงคับ เลยบอกมันว่าถ้าจะกลับก็โทรมาบอกแล้วกันเผื่อเดินไม่ไหว สุดท้ายตอนเช้าผมตื่นมานึกขึ้นมาได้ว่าไอบีมันไปกินเหล้าไม่รู้กลับมาแล้วยัง ผมเปิดประตูห้องตัวเองออกมา เห็นมันนอนอยู่หน้าระเบียงห้องมัน (ผมขำมันมาก) เลยแซวมันว่า "นี่กินเยอะจนขนาดเข้าห้องไม่ได้เลยหรอ กูบอกแล้วว่าอย่ากินให้มันเยอะกินพอประมาณก็พอ" มันบอกว่า "เออปวดหัววะ" ซื้อข้าวมาให้ด้วยนะ ผมก็ตอบไป "เออๆ เข้าไปนอนในห้องก่อนแล้วกัน เดี๋ยวซื้อข้าวมาให้" มันก็เดินเข้าห้อง เพราะเริ่มส่างเมาแล้ว ผมก็ลงไปซื้อข้าวเอากลับมากินกับมันที่ห้อง หายาให้มัน แล้วให้มันนอนต่อ ส่วนผมบอกแล้วว่าไม่ค่อยชอบอยู่ห้องบอกมันว่าจะไปนั่งเล่นที่ศูนย์คอม .......
จนมันเริ่มรู้จักรุ่นพี่เยอะขึ้น เพื่อนเยอะขึ้น แล้วก็ไปกินเหล้าหลายครั้ง แรกๆก็บอกผมเวลาไปไหน แต่หลังๆเริ่มไม่มีบอก...ผมชวนไปไหนก็ไม่ไป เพื่อนอาจจะเหนื่อยก็ได้ กินเหล้าเมามา ยังจะไปชวนมันอีก จนหลายครั้งรู้สึกว่าทำไมเดี๋ยวนี้ชวนไปไหนไม่ค่อยไป จนผมเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นอะไรทำไมไม่พูดกะผม เอาแต่บอกว่าปวดหัวขอนอนพักผ่อน จะไปไหนก็ไป ผมฟังแล้วผมเกือบจะน้ำตาตกใน แต่ดีที่ผมเก็บไว้ได้แล้วก็ออกไป แล้วก็นัดกับเพื่อนๆคนอื่น
วันนั้นผมอยากไปเที่ยวนอกมหาลัย เห็นว่ามีงานแสดง ก็เลยนัดเพื่อนๆไปกันหลายคน แต่ผมไม่ได้บอกมันว่าจะไปข้างนอก ผมก็อารมณ์เสียนิดหน่อยที่มันพูดแบบนั้น เลยขึ้นรถเมลล์กับเพื่อนๆไปถึงลงที่หน้างาน และถามเพื่อนว่า "ทำไมมันเงียบจังวะ เช็ควันดีๆแล้วใช่มั้ยว่างานมันยังไม่เลิก" เพื่อนอีกคนก็ตอบมาว่า เออ "อาจจะมีงานข้างในก็ได้ " พวกเราพูดกันเสียงดัง แล้วมีเสียงดังขึ้นมาไม่รู้คนขับรถเมลล์หรือว่าใคร ตะโกนมาจากไกล บอกว่า งานมันเลิก ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ทุกคนเงียบสนิท แล้วซุบซิบกันว่า "อย่าเสียงดัง กูอายคนบนรถ " แล้วตกลงกันว่าห้ามเอาเรื่องนี้เล่าให้ใครฟัง เพียงแค่บอกว่าไม่ได้มางานนี้แต่มาธุระเรื่องอื่น วันนั้นนั่งรถกลับแบบคอตกกันทุกคน สีหน้าแต่ละคน "กูมาทำไม" จะด่าไอเพื่อนตัวที่มันเช็ควันว่าเช็คยังไง ..พอกลับมาถึงหน้ามหาลัย (สมัยนั้นไม่มีรถนะครับ ทุกอย่างเดิน และเดิน) บอกพวกที่ไปว่า ทำตัวทุกอย่างให้เป็นปกติเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นเวลาใครถามไปไหนมา ตามที่ตกลงกัน..
กำลังเดินถึงหอพักโทรศัพท์เข้ามา ผมรับ"เออ ว่าไง" ไอบีถาม"อยู่ไหน ไปไหนมา" ผมก็พูดไม่ถูกเลยซิคับ จะโกหกก็ไม่ได้ เพราะเคยสัญญากันว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป มีไรก็บอกมาตรงๆห้ามโกหก ผมเลยบอกไปว่าอยู่หน้าหอพัก "เออ......... พอดีกูชวน.........." ไอบีพูดต่อ"เออ ไปงานนั้นมาใช่มั้ย ทำไมไม่ชวนกันบ้าง" อ้าวกูงง! ก็เคยชวนหลายครั้งแต่ไม่เคยไปอยากจะนอนพักผ่อนตลอด เลยคิดว่าไม่อยากไปไหนไง ผมก็อธิบายยาวมาก ไม่รู้จะอธิบายยังดี มันก็พูดว่า"เออ ๆๆ ไม่อยากชวนก็ไม่ต้องชวน" แล้วมันก็วางสายไป ส่วนผมก็ขึ้นห้องไปหามันจะอธิบายต่างๆนาๆว่ายังไง พร้อมกับขอโทษมัน "กูขอโทษ กูผิดเองที่ไม่ได้ชวน กูขอโทษจริงๆ ไม่รู้ว่าจะโกธรขนาดนี้ ก็กูชวนที่ไรไม่ไปตลอด กูนึกว่าไม่อยากไปเลยไม่ได้ชวน" สุดท้ายมันไม่ฟังไล่ให้ออกจากห้องไป มันจะนอน ปวดหัว ..ผมอึ้งเลยคับ ทำไมทำตัวแบบนี้เนี้ยไหนว่าเราจะเป็นเพื่อนสนิทกันไง มีเหตุผลกันหน่อยดิวะ และผมก็กลับเข้าห้องนอน แบบเครียดๆ นอนไม่หลับ แต่ต้องพยายามอย่าคิดมาก (แค่พยายามนะ เพราะต้องเรียนแต่เช้า) จนมันเอาคืนมันไปเที่ยวกับเพื่อนอีกกลุ่มนึง แล้วผมพึ่งมารู้ว่ามันไปด้วย ผมก็ถามมันไปไหนมา ไม่เห็นบอกกันเลย มันบอกว่า"ที่ไปไม่ชวนกูเลย" เอาแล้วไง ผมก็เออวันหลังจะบอกเวลาไปไหน ผมก็ถือว่าจบกันแฟร์ๆ แต่สีหน้ามันดูเหมือนมีอะไรสักอย่าง
จนอยู่ๆมาหลังๆ ความเป็นเพื่อนของเราเริ่มออกห่างเรื่อยๆ เพราะมันไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนใหม่ที่กินเหล้าเมายา แต่ผมก้ยังรักมันเหมือนเดิมนะ (แบบเพื่อนกันนะคับ) ก็จะพยายามเจอมันคุยกับมันให้เป็นปกติมากที่สุดแบบเมื่อก่อน เพราะผมจะถามเรื่องเรียนมันเป็นยังไงบ้าง ทั้งที่เรียนด้วยกัน แต่ผมจะสังเกตอยู่ตลอดเลยว่า มันคงเรียนอ่อนแน่ๆ และแล้วก็เป็นจริงคับ มันเรียนอ่อนจริง แต่ผมตั้งใจไว้แล้วว่ายังไงผมไม่ทิ้งมันแน่นอน ต่อให้ยังไงก็แล้วแต่ผมจะทำให้มันจบให้ได้ ผมคิดและตั้งใจไว้แล้ว จนผมเริ่มสังเกตว่ามันไม่ค่อยอยู่ห้อง ถ้าให้เดาก็คงพวกเพื่อนอีกกลุ่มไม่รู้ไปกินเหล้าเมากันที่ไหนอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไร ผมพยายามหาทางเจอมันและถามมันว่าเป็นยังไงบ้างไม่ค่อยเจอกันเลย เดี๋ยวนี้ทำไม หนีออกไม่อยากเจอ คุยกะกูแล้วหรอ มันบอกว่า "ก็ไม่กินเหล้าไง ปล่อยกูไปเถอะ จะยังไงก็ช่างกูแล้วกัน" ผมอึ้งและเก็บความรู้สึกไว้ก่อน ถามมันเรื่องเรียนต่อ มันตอบ "เออ ไม่เป็นไร กูจะย้ายคณะแล้ว" ผมก็พูดต่างๆนาๆ จะย้ายทำไมถ้าทำไม่ได้ตรงไหนให้ถามผมนี่ (อย่างที่บอกผมตั้งใจไว้แล้วว่าผมจะทำให้มันผ่านให้ได้) ผมพูดในขณะที่ผมกะมันเดินคุยกันนะ มันก็เดินเร็วๆผมก้พยายาม ถามมัน สุดท้ายไม่เป็นผลคับ ผมกลับมานั่งคิดว่าตัวเอง ผมทำผิดอะไร ถึงไม่คุยกะผม.... ............
เพื่อนรักสนิทจนเลิกคบ เพราะกลัวจะเป็นแฟนกัน
2.เล่าไม่เก่ง
3.อยากระบาย เพื่อนไม่คบ
4.กำลังเศร้า
ผมเป็นเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ขี้เล่น ชอบสนุกสนาน เฮฮา ไม่ชอบความเศร้า เรียนค่อนข้างดี ไม่มีพิษภัยกับใคร (แต่ไม่เข้าใจว่าเพื่อนหาว่าผมหยิ่งทั้งที่ไม่มีอะไร) ตอนเรียนอยู่โรงเรียนประจำมาตลอดตั้งแต่อยู่บ้านนอก เคยมีปัญหากะเพื่อนตอนมัธยมเรื่องอะไรจำไม่ได้แล้ว ชกต่อยกะเพื่อนแต่ผมไม่กล้าทำ ( เพราะเพื่อนคนนั้นเป็นเพื่อนที่เรียกว่าผมสนิทมากคนนึง) ผมเจ็บมาก แต่ผมกลัวเพื่อนเจ็บ สุดท้ายผมยอมปล่อยให้มันชกฝ่ายเดียว และจะมีพวกไทมุง ยุยง ข้างๆ แต่ผมไม่ทำ ผมยอมมัน ที่สำคัญผมเจ็บปวดหัวใจมากกว่า เป็นเพื่อนสนิทกูนะ ทำไมทำกะกูได้ขนาดนี้ พยายามคิดในทางที่ดีว่าไม่เป็นไร เพื่อนกินหาง่ายเพื่อนตายหาอยากจริงๆ ผมพยายามเรียน และเรียนเพื่อให้ได้คะแนนดีๆ จะได้สอบ เอ็นทรานส์ เข้ามหาลัยได้ คงจะเจอแต่เพื่อนดีๆสักคน
จนผมสามารถสอบติดเข้ามหาลัยได้ ตอนปี 1 ผมก้ไม่รู้จักใครเลย ช่วงแรกจะโทรกลับบ้านบ่อยมาก เหมือนเรายังไม่ชินกับการเป็นอยู่กับคนจำนวนมาก ซึ่งต้องพึ่งตัวเองในทุกๆเรื่อง ปีแรก มหาลัยจะให้อยู่หอพักในมหาลัยเพื่อสะดวกในการทำกิจกรรมนู้นนี่นั่นของ เอก คณะ ช่วงนี้จะมีรายงานตัว และกิจกรรมต้อนรับ ที่ตึกคณะบ่อย จนมีเด็กผู้ชายคนนึงหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มแบบเบาๆ ผมก้หันกลับไปแล้วก็ยิ้มให้มัน ผมถามว่าอยู่คณะนี้ด้วยหรอคับ มันบอกว่าคับ แล้วอยู่เอกไหน ถามกันไปถามกันมา สุดท้ายอยู่เอกเดียวกัน แถมรหัสก็ใกล้ๆกันอีก จากนั่นเลยถามชื่อมัน มัน ชื่อ บี (นามสมมุติ) เลยหลังจากนั้นมา เนื่องจากผมอยู่คณะเดียวกันกับไอบี เวลามีกิจกรรมคณะอะไรต่างๆเราก็จะนัดไปทำกิจกรรมพร้อมกัน แถมยังพักห้องใกล้กันอีกคับ เวลาไปไหนมาไหนจะได้ไปเคาะประตูเรียกมันได้สะดวก แต่ผมไม่ชอบอยู่ห้อง มักจะหาอะไรทำ เช่น อ่านหนังสือห้องสมุด ดูหนัง ฟัง เพลง ซึ่งไปไหนทุกครั้งก้จะชวนมันไปตลอด และเริ่มสนิทกัน
จนพอชีวิตเริ่มปรับตัวได้ รู้จักเพื่อนใหม่เพิ่มมากขึ้น แต่ผมก็จะบอกให้มันรู้ตลอดเวลาไปไหนมาไหนกับเพื่อนคนไหน จะได้ไม่ต้องรอกันเวลาไปกินข้าวหรือธุระที่ไหน แต่ส่วนมากแล้วก็จะไปด้วยกัน จนผมรู้สึกว่าเออมันก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ เป็นคนจริงใจดี เป้นคนซื่อ (แต่ข้างในแฝงด้วยอะไรสักอย่าง เหมือนมีอะไรต้องคิดหรือเก็บกดตลอดเวลา เพราะผมก็พึ่งรู้เรื่องฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยดีหนักก็เป็นได้)ไม่มีภัยกะใคร แต่งตัวง่ายๆ เกงบอล เสื้อบอลเท้าแตะ เวลาใส่ชุดนิสิต กางเกงจะลอย ใส่เสื้อไว้ในกางเกง จนจะถึงกลางลำตัวละ (บางที่ผมก็ขำมันเหมือนกันกับการแต่งตัวของมัน) สะพายกระเป๋า เรียกว่าย่ามดีหว่า สีน้ำเงิน ออกคล้ำๆ เก่าๆ สไตน์เด็กวัด ผมชอบมันตรงที่เป็นแบบนี้และ ไม่หลงตัว ไม่อวด ไม่เว่อ พูดจาเบา เนิบๆ ต้องค่อยๆฟัง เพราะมันพูดไม่ค่อยเก่ง และเราก็เริ่มสนิทกัน กิจกรรมก็ทำด้วยกันมากขึ้นจน เพื่อนๆเริ่มแซวกันว่าเป็นแฟนกัน แต่ผมก็ขำๆคับ เพราะไม่ได้คิดอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว บวกกับที่ทั้งผมและไอบีต่างไม่มีแฟนกันทั้งคู่มันเลยทำให้ชีวิตอิสระอยู่กับเพื่อนได้ตลอดมากกว่า แต่ถ้ามีแฟนทั้งมันและผมก็คงไม่มีปัญญาเลี้ยงแฟนแน่ๆ เงินที่บ้านส่งมาจำกัดใช้ในการเรียนและใช้จ่ายประจำวันเท่านั้น
จนเวลามันไปกินเหล้ากะรุ่นพี่ มันจะชวนผมไปแต่ผมปฏิเสธ ผมไม่เคยกินจริงๆ (ผมพยายามคิดเสมอว่าเงินทุกบาทที่พอแม่ส่งมาจะไม่ไปกับสิ่งพวกนี้ เพราะที่บ้านผมไม่ได้รวย) แต่วันนั้นก็เสียใจนิดนึงคับ เลยบอกมันว่าถ้าจะกลับก็โทรมาบอกแล้วกันเผื่อเดินไม่ไหว สุดท้ายตอนเช้าผมตื่นมานึกขึ้นมาได้ว่าไอบีมันไปกินเหล้าไม่รู้กลับมาแล้วยัง ผมเปิดประตูห้องตัวเองออกมา เห็นมันนอนอยู่หน้าระเบียงห้องมัน (ผมขำมันมาก) เลยแซวมันว่า "นี่กินเยอะจนขนาดเข้าห้องไม่ได้เลยหรอ กูบอกแล้วว่าอย่ากินให้มันเยอะกินพอประมาณก็พอ" มันบอกว่า "เออปวดหัววะ" ซื้อข้าวมาให้ด้วยนะ ผมก็ตอบไป "เออๆ เข้าไปนอนในห้องก่อนแล้วกัน เดี๋ยวซื้อข้าวมาให้" มันก็เดินเข้าห้อง เพราะเริ่มส่างเมาแล้ว ผมก็ลงไปซื้อข้าวเอากลับมากินกับมันที่ห้อง หายาให้มัน แล้วให้มันนอนต่อ ส่วนผมบอกแล้วว่าไม่ค่อยชอบอยู่ห้องบอกมันว่าจะไปนั่งเล่นที่ศูนย์คอม .......
จนมันเริ่มรู้จักรุ่นพี่เยอะขึ้น เพื่อนเยอะขึ้น แล้วก็ไปกินเหล้าหลายครั้ง แรกๆก็บอกผมเวลาไปไหน แต่หลังๆเริ่มไม่มีบอก...ผมชวนไปไหนก็ไม่ไป เพื่อนอาจจะเหนื่อยก็ได้ กินเหล้าเมามา ยังจะไปชวนมันอีก จนหลายครั้งรู้สึกว่าทำไมเดี๋ยวนี้ชวนไปไหนไม่ค่อยไป จนผมเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นอะไรทำไมไม่พูดกะผม เอาแต่บอกว่าปวดหัวขอนอนพักผ่อน จะไปไหนก็ไป ผมฟังแล้วผมเกือบจะน้ำตาตกใน แต่ดีที่ผมเก็บไว้ได้แล้วก็ออกไป แล้วก็นัดกับเพื่อนๆคนอื่น
วันนั้นผมอยากไปเที่ยวนอกมหาลัย เห็นว่ามีงานแสดง ก็เลยนัดเพื่อนๆไปกันหลายคน แต่ผมไม่ได้บอกมันว่าจะไปข้างนอก ผมก็อารมณ์เสียนิดหน่อยที่มันพูดแบบนั้น เลยขึ้นรถเมลล์กับเพื่อนๆไปถึงลงที่หน้างาน และถามเพื่อนว่า "ทำไมมันเงียบจังวะ เช็ควันดีๆแล้วใช่มั้ยว่างานมันยังไม่เลิก" เพื่อนอีกคนก็ตอบมาว่า เออ "อาจจะมีงานข้างในก็ได้ " พวกเราพูดกันเสียงดัง แล้วมีเสียงดังขึ้นมาไม่รู้คนขับรถเมลล์หรือว่าใคร ตะโกนมาจากไกล บอกว่า งานมันเลิก ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ทุกคนเงียบสนิท แล้วซุบซิบกันว่า "อย่าเสียงดัง กูอายคนบนรถ " แล้วตกลงกันว่าห้ามเอาเรื่องนี้เล่าให้ใครฟัง เพียงแค่บอกว่าไม่ได้มางานนี้แต่มาธุระเรื่องอื่น วันนั้นนั่งรถกลับแบบคอตกกันทุกคน สีหน้าแต่ละคน "กูมาทำไม" จะด่าไอเพื่อนตัวที่มันเช็ควันว่าเช็คยังไง ..พอกลับมาถึงหน้ามหาลัย (สมัยนั้นไม่มีรถนะครับ ทุกอย่างเดิน และเดิน) บอกพวกที่ไปว่า ทำตัวทุกอย่างให้เป็นปกติเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นเวลาใครถามไปไหนมา ตามที่ตกลงกัน..
กำลังเดินถึงหอพักโทรศัพท์เข้ามา ผมรับ"เออ ว่าไง" ไอบีถาม"อยู่ไหน ไปไหนมา" ผมก็พูดไม่ถูกเลยซิคับ จะโกหกก็ไม่ได้ เพราะเคยสัญญากันว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป มีไรก็บอกมาตรงๆห้ามโกหก ผมเลยบอกไปว่าอยู่หน้าหอพัก "เออ......... พอดีกูชวน.........." ไอบีพูดต่อ"เออ ไปงานนั้นมาใช่มั้ย ทำไมไม่ชวนกันบ้าง" อ้าวกูงง! ก็เคยชวนหลายครั้งแต่ไม่เคยไปอยากจะนอนพักผ่อนตลอด เลยคิดว่าไม่อยากไปไหนไง ผมก็อธิบายยาวมาก ไม่รู้จะอธิบายยังดี มันก็พูดว่า"เออ ๆๆ ไม่อยากชวนก็ไม่ต้องชวน" แล้วมันก็วางสายไป ส่วนผมก็ขึ้นห้องไปหามันจะอธิบายต่างๆนาๆว่ายังไง พร้อมกับขอโทษมัน "กูขอโทษ กูผิดเองที่ไม่ได้ชวน กูขอโทษจริงๆ ไม่รู้ว่าจะโกธรขนาดนี้ ก็กูชวนที่ไรไม่ไปตลอด กูนึกว่าไม่อยากไปเลยไม่ได้ชวน" สุดท้ายมันไม่ฟังไล่ให้ออกจากห้องไป มันจะนอน ปวดหัว ..ผมอึ้งเลยคับ ทำไมทำตัวแบบนี้เนี้ยไหนว่าเราจะเป็นเพื่อนสนิทกันไง มีเหตุผลกันหน่อยดิวะ และผมก็กลับเข้าห้องนอน แบบเครียดๆ นอนไม่หลับ แต่ต้องพยายามอย่าคิดมาก (แค่พยายามนะ เพราะต้องเรียนแต่เช้า) จนมันเอาคืนมันไปเที่ยวกับเพื่อนอีกกลุ่มนึง แล้วผมพึ่งมารู้ว่ามันไปด้วย ผมก็ถามมันไปไหนมา ไม่เห็นบอกกันเลย มันบอกว่า"ที่ไปไม่ชวนกูเลย" เอาแล้วไง ผมก็เออวันหลังจะบอกเวลาไปไหน ผมก็ถือว่าจบกันแฟร์ๆ แต่สีหน้ามันดูเหมือนมีอะไรสักอย่าง
จนอยู่ๆมาหลังๆ ความเป็นเพื่อนของเราเริ่มออกห่างเรื่อยๆ เพราะมันไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนใหม่ที่กินเหล้าเมายา แต่ผมก้ยังรักมันเหมือนเดิมนะ (แบบเพื่อนกันนะคับ) ก็จะพยายามเจอมันคุยกับมันให้เป็นปกติมากที่สุดแบบเมื่อก่อน เพราะผมจะถามเรื่องเรียนมันเป็นยังไงบ้าง ทั้งที่เรียนด้วยกัน แต่ผมจะสังเกตอยู่ตลอดเลยว่า มันคงเรียนอ่อนแน่ๆ และแล้วก็เป็นจริงคับ มันเรียนอ่อนจริง แต่ผมตั้งใจไว้แล้วว่ายังไงผมไม่ทิ้งมันแน่นอน ต่อให้ยังไงก็แล้วแต่ผมจะทำให้มันจบให้ได้ ผมคิดและตั้งใจไว้แล้ว จนผมเริ่มสังเกตว่ามันไม่ค่อยอยู่ห้อง ถ้าให้เดาก็คงพวกเพื่อนอีกกลุ่มไม่รู้ไปกินเหล้าเมากันที่ไหนอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไร ผมพยายามหาทางเจอมันและถามมันว่าเป็นยังไงบ้างไม่ค่อยเจอกันเลย เดี๋ยวนี้ทำไม หนีออกไม่อยากเจอ คุยกะกูแล้วหรอ มันบอกว่า "ก็ไม่กินเหล้าไง ปล่อยกูไปเถอะ จะยังไงก็ช่างกูแล้วกัน" ผมอึ้งและเก็บความรู้สึกไว้ก่อน ถามมันเรื่องเรียนต่อ มันตอบ "เออ ไม่เป็นไร กูจะย้ายคณะแล้ว" ผมก็พูดต่างๆนาๆ จะย้ายทำไมถ้าทำไม่ได้ตรงไหนให้ถามผมนี่ (อย่างที่บอกผมตั้งใจไว้แล้วว่าผมจะทำให้มันผ่านให้ได้) ผมพูดในขณะที่ผมกะมันเดินคุยกันนะ มันก็เดินเร็วๆผมก้พยายาม ถามมัน สุดท้ายไม่เป็นผลคับ ผมกลับมานั่งคิดว่าตัวเอง ผมทำผิดอะไร ถึงไม่คุยกะผม.... ............