[SR] รีวิว Nokia Lumia 730 Dual SIM: กล้องหน้า 5MP และอุปกรณ์เสริม Treasure Tag (คำเตือน ภาพเยอะมากๆ)

สวัสดีครับ ทาง Microsoft Device ก็ได้ส่งมือถือมาให้รีวิวกันอีกครั้งนะครับ โดยได้ทดลองใช้งานมาประมาณ 2 เดือนกว่าแล้ว
รุ่นนี้ก็คือ Nokia Lumia 730 Dual SIM ที่มีกล้องหน้า 5MP ใช้ถ่าย Selfie ได้สะดวกและภาพสวยมากขึ้น
รุ่นนี้สเปคค่อนข้างครบ ดีทุกด้าน เหมาะมากใช้งาน ราคาก็ไม่แพงมาก แถมใช้ได้ 2 ซิมอีกด้วย
ส่วนอุปกรณ์เสริม Nokia Treasure Tag ใช้สำหรับติดตามสิ่งของต่างๆ เพื่อกันลืมหรือกันหาย


สเปค Nokia Lumia 730 Dual SIM
• ระบบปฏิบัติการ: Windows Phone 8.1 Update 1 (Lumia Denim)
• หน้าจอ: 4.7 นิ้ว HD (1280x720) 316 ppi, ClearBlack, OLED, Gorilla Glass 3
• หน่วบประมวลผล Qualcomm Snapdragon 400 Quad-Core 1.2 GHz
• กล้องหลัง : 6.7 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.9, เลนส์ ZEISS, LED flash, ถ่ายวีดีโอ Full HD, เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Backside-illuminated Sensor (BSI) ช่วยให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
• กล้องหน้า: ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/2.4, ถ่ายวีดีโอ Full HD
• แรม 1 GB
• หน่วยความจำ 8 GB
• รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 128 GB, ฟรีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูล OneDrive ขนาด 15 GB +โบนัสม้วนฟิล์มเพิ่มเข้าไปอีก
• Bluetooth 4.0
• แบตเตอรี่ 2220 mAh (BV-T5A)
• มิติขนาดเครื่อง : 134.7x68.5x8.7 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก: 130.4 กรัม
• รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบ microSIM, (Dual SIM : Dual Standby)
• ระบบ 3G: รองรับ Quad Band (850/900/1900/2100 MHz)
• ระบบ 2G: รองรับ Quad Band (850/900/1800/1900 MHz)

อ่านสเปคเพิ่มเติมได้ที่เว็บไมโครซอฟท์ครับ



เนื่องจากเนื้อหารีวิวยาวมาก จึงขอสรุปการใช้งานไว้ด้านบนนะครับ

สรุปการใช้งานของ Nokia Lumia 730 Dual SIM
ข้อดี
- สเปคดีครบทุกด้าน งานประกอบแน่นดี เหมาะสำหรับใช้งานเป็นได้ทั้งเครื่องหลักและเครื่องสำรอง
- กล้องหน้า 5MP ใช้เลนส์วายเก็บภาพมุมกว้างได้ดี ภาพออกมาดีกว่ารุ่นก่อน
- สเปคกล้องหลังดี ได้กล้อง 6.7MP, เลนส์ Zeiss, ค่ารูรับแสง F/1.9, เพิ่มเซ็นเซอร์รับภาพแบบ BSI ช่วยให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี
อย่างกล้องของ Lumia 720 รุ่นก่อนที่กล้อง 6.7MP สเปคคล้ายกัน ใช้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีจนเอาชนะตัว Top ของหลายค่ายในตอนนั้นมาแล้ว
(ต้องอัพเดตใช้คู่กับแอพ Lumia Camera ตัวใหม่ ถึงจะทำงานได้เต็มที่กับเฟิร์มแวร์ Lumia Denim ถ้าเป็นแอพ Nokia Camera ตัวเก่าจะมี Bug อยู่บ้าง)
- กล้องหลัง มีระบบโฟกัสต่อเนื่องอัตโนมัติ ทำให้ถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น
- หน้าจอใหญ่ 4.7 นิ้ว
- เครื่องบาง น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- ลำโพงเสียงดังดี คุณภาพใช้ได้ แต่ความใสและไพเราะของเสียงยังไม่ดีเท่ารุ่นบนๆ
- ระบบแผนที่ HERE Maps และ HERE Drive+ ใช้งานได้ดี ละเอียดถึงขั้นมีบ้านเลขที่ รวมทั้งออฟไลน์ได้ดีด้วย และยังมีแผนที่ภายในตัวอาคารด้วย
- ตัว Office ใช้งานแก้ไขเพิ่มเติมเอกสารได้ดี แสดงผลตรง แต่จะเน้นเฉพาะแก้ไขงานเอกสารเท่านั้น
- ใช้งานได้ลื่นไหลตามสไตล์ Windows Phone ที่ไม่กินสเปคเครื่อง
- ได้แรม 1GB ใช้งานได้ทุกแอพ
- รอบรับ 2 ซิมการ์ด
- การแจ้งเตือนเร็วดีมาก อย่าง Facebook แจ้งเตือนเร็วกว่าในคอมซะอีก
- มือถือ Lumia WP8 ทุกตัวสามารถอัพเดตเป็น Windows 10 ได้ในอนาคต ทำให้ใช้งานได้อีกนาน

ข้อสังเกต
- ถ้าใช้แอพ Nokia Camera ตัวเก่าจะถ่ายภาพกลางคืนไม่ค่อยดี ทำให้หลุดโฟกัส ต้องอัพเดตเป็น Lumia Camera ก่อน ก็จะถ่ายได้ดีแล้วครับ
- ปุ่มควบคุมหลักอยู่ในหน้าจอ ทำให้ไม่สะดวกเท่ากับปุ่มแยก แต่สามารถตั้งค่าปุ่มควบคุมได้หลายแบบ
- ไม่มีปุ่มชัตเตอร์
- แอพ LINE ฟังก์ชันยังไม่ครบ ยังไม่มี Timeline, วิดีโอคอล และเกม ต่างจากแอพคู่แข่งอย่าง WeChat ที่ใส่ฟังก์ชันจัดเต็มให้ระบบ Windows Phone
- ความหลากหลายของแอพยังไม่เท่ากับ iOS และ Android แต่ช่วงนี้รู้สึกแอพดังๆ จะมาเยอะเป็นพิเศษ อาจจะเตรียมพร้อมรับ Windows 10 ที่รวม Store ก็เป็นได้
- ไม่มีฟังก์ชันแสดงข้อมูลขณะปิดหน้าจอแบบรุ่นอื่นๆ


สรุปการใช้งานของ Nokia Treasure Tag
ข้อดี
- สามารถใช้ติดตามหามือถือและสิ่งของต่างๆ เมื่อออกนอกระยะที่ตัวเครื่องกำหนด ระบบจะส่งเสียงแจ้งเตือนทันที (จะประยุกต์ใช้ติดตามกับเด็กเล็กก็ดีครับ)
- สามารถกดที่ Treasure Tag เพื่อหาโทรศัพท์มือถือได้
- มีระบบแผนที่ในมือถือ ช่วยหาของที่ผูกติดกับ Treasure Tag ได้
- ใช้กดเพื่อถ่ายรูปด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังผ่านแอพ Lumia Selfie ได้ (ต้องอัพเดตแอพ Lumia Selfie และ Treasure Tag ก่อน)
- ตัว Treasure Tag ใช้ Bluetooth 4.0 แบบประหยัดพลังงาน ทำให้ใช้งานได้ยาวนาน
- มีช่วงการใช้งาน Bluetooth ที่ระยะ 40 เมตร
- มี NFC ทำให้จับคู่อุปกรณ์ได้ง่าย
- แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 6 เดือน
- แบตเตอรี่สามารถแกะเปลี่ยนเองได้ง่าย
- มีไฟเตือนเมื่อระดับพลังงานของแบตเตอรี่เหลือน้อย (คาดว่าไฟอยู่บริเวรวงกลม แต่ผมยังไม่เห็นนะ)
- ออกแบบได้แข็งแรงดี ทนต่อแรงกดทับ
- สีสันสดใสสวยงาม มีให้เลือก 4 สี คือ ดำ, ขาว, เหลือง และฟ้า
- น้ำหนักเบา
- ราคาถือว่าถูกเมื่อเทียบกับของคู่แข่งรายอื่นๆ

ข้อสังเกต
- ผิวมันเงา เป็นรอยขนแมวง่ายไปหน่อย
- Nokia Treasure Tag มีลักษณะทรงสี่เหลี่ยม บางคนอาจจะชอบให้โค้งมนมากกว่า
- รองรับแบบเป็นทางการเฉพาะระบบ Windows Phone เท่านั้น แต่ก็มีนักพัฒนาภายนอกเขียนแอพ Treasure Tag ในระบบ iOS และ Android ให้ใช้อยู่ ซึ่งใช้งานได้ดีแค่ไหน อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะตัวแอพอัพเดตล่าสุดประมาณต้นปีครับ



ผมนั่งใช้เวลาเขียนรีวิวนี้มาหลายวันแล้ว ด้วยความที่มีข้อมูลเยอะมาก ทำให้บางข้อมูลจะเขียนไม่ครบบ้าง ก็ต้องขออภัยไว้ก่อนะครับ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านครับ

ขอบคุณครับ