เมื่อวานผมเจอมรสุมค่อนข้างใหญ่ทีเดียวจากผู้บริหารต่างชาติ ไม่เคยคิดว่าองค์กรที่ทำงานอยู่จะมีปัญหาแบบนี้ ผมสงสัยว่าเพื่อนๆที่เคยทำงานองค์กรเอกชนจะเคยเจอแบบนี้บางหรือเปล่า
- เมื่อวานมาสายเพราะรถติดมากปกติผมมาสายเดือนละครั้งสองครั้ง โดนคำเตือนจากผู้บริหารว่าสายบ่อยเกินไป โดนหมายหัว ซึ่งปกติเขาก็จะไม่ค่อยซีเรียสในเรื่องขาดลามาสายถ้าเรารับผิดชอบงานได้ แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมาจุกจิกมากขึ้นซึ่งเป็นอะไรที่แปลกประหลาดมาก
- บางทียอมรับว่าต้องไปเข้าห้องน้ำ กินน้ำในห้องครัวบ้างแต่ไม่เกินสิบนาที โดนว่าอยู่ในห้องครัวนาน
- ปกติผมจะยุ่งตลอดเวลา ทั้งเมล ทั้งโทรศัพท์ แต่ยอมรับว่าผมอาจจะทำงานเก่งสู้คนอื่นไม่ได้ โดนหาว่าถ้าทำงานไม่ทันก็ขอโอทีซะ ซึ่งผมจะบอกว่าการโอทีที่นี้ยากมาก เขาพยายามไม่อยากจ่ายโอทีโดยไม่จำเป็น
- จากข้อเมื่อกี้ เขาบอกว่าเรายังพยายามได้ไม่ดีพอในสายตาเขา (ปกติผมก็โทรหาลูกค้าใหม่ๆเสมอแต่ไม่ค่อยมีผลลัพธ์ที่ดีเท่าไร) ไม่รู้ว่าเอาอะไรมาวัด
- มีเรื่องงานที่ว่าพอส่งออกไปแล้ว ติดเรื่องเอกสารกับขอทำบัตรใหม่กับกรมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งขอเอกสารเยอะมากและเรื่องเยอะมาก จนลูกค้านำเข้าปลายทางออกของล่าช้าจนถูกปรับ 600 usd แล้วเขาก็มาเคลม เขาถามเราว่าเราจะทำยังไง พอตอบไปก็บอกตอบไม่ถูก ถ้าจะให้ไปปรับค่าใช้จ่ายกับชิปปิ้ง ผมอยากรู้ว่าผมเป็นแค่พนักงานระดับปฏิบัติการจะไปมีความสามารถเจรจาต่อรองอะไรกับผู้บริหารชิปปิ้งละ
- ทำไมเราต้องพูดในเรื่องที่ว่าเราต้องผิดตลอดเวลา (จากข้อเมื่อกี้) ว่าเราไม่ดี ใช่มันคือส่วนนึง แต่ระบบราชการมันก็อีกส่วนนึง
- บริษัทพยายามขายสินค้าใหม่ๆ แต่กำไรก็หดหาย น้อยลงมาก ลูกค้าเก่าๆก็หายไปเกือบครึ่ง หาลูกค้าใหม่ก็ยากเพราะสินค้าเริ่มไม่มีประโยชน์ในอุตสาหกรรมแล้ว
- บริษัทไม่ค่อยมีทุนเปลี่ยนอุปกรณ์สำนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์ซึ่งใช้งานมาประมาณ เจ็ดปี จนเริ่มจอสีฟ้าแล้วก็ยังไม่มีงบ
- ไม่อยากตื่นไปทำงานเลย พอเห็นหน้าตาผู้บริหารแล้วอมทุกข์ทุกวัน เข้าใจว่าท่านนะเครียดแล้วทุกอย่างจะต้องดีเลิศตามนั้น
- หัวหน้างานเราดูเงียบมาก ทั้งๆที่ว่าเขาควรแบกหน้าออกมารับผิดชอบมากกว่านี้ แต่จุดนี้ผมไม่ถือสาอะไร
- บรรยากาศองค์กรดูเงียบและเครียดกันมาก ไม่ค่อยมีคนยิ้มหรือเบิกบานเลย
ผมไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้องค์กรเป็นแบบนี้กันหมดเลยหรือครับ โลกเรามันคงอยู่ยากจริงๆ ช่วงนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดีมาทั้งปี ผมควรเปลี่ยนงานดีไหมเพราะมองแล้วธุรกิจบริษัทกำลังอยู่ช่วงขาลง
สัญญาณเตือนว่าควรออกจากบริษัทหรือองค์กรที่ทำอยู่
- เมื่อวานมาสายเพราะรถติดมากปกติผมมาสายเดือนละครั้งสองครั้ง โดนคำเตือนจากผู้บริหารว่าสายบ่อยเกินไป โดนหมายหัว ซึ่งปกติเขาก็จะไม่ค่อยซีเรียสในเรื่องขาดลามาสายถ้าเรารับผิดชอบงานได้ แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมาจุกจิกมากขึ้นซึ่งเป็นอะไรที่แปลกประหลาดมาก
- บางทียอมรับว่าต้องไปเข้าห้องน้ำ กินน้ำในห้องครัวบ้างแต่ไม่เกินสิบนาที โดนว่าอยู่ในห้องครัวนาน
- ปกติผมจะยุ่งตลอดเวลา ทั้งเมล ทั้งโทรศัพท์ แต่ยอมรับว่าผมอาจจะทำงานเก่งสู้คนอื่นไม่ได้ โดนหาว่าถ้าทำงานไม่ทันก็ขอโอทีซะ ซึ่งผมจะบอกว่าการโอทีที่นี้ยากมาก เขาพยายามไม่อยากจ่ายโอทีโดยไม่จำเป็น
- จากข้อเมื่อกี้ เขาบอกว่าเรายังพยายามได้ไม่ดีพอในสายตาเขา (ปกติผมก็โทรหาลูกค้าใหม่ๆเสมอแต่ไม่ค่อยมีผลลัพธ์ที่ดีเท่าไร) ไม่รู้ว่าเอาอะไรมาวัด
- มีเรื่องงานที่ว่าพอส่งออกไปแล้ว ติดเรื่องเอกสารกับขอทำบัตรใหม่กับกรมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งขอเอกสารเยอะมากและเรื่องเยอะมาก จนลูกค้านำเข้าปลายทางออกของล่าช้าจนถูกปรับ 600 usd แล้วเขาก็มาเคลม เขาถามเราว่าเราจะทำยังไง พอตอบไปก็บอกตอบไม่ถูก ถ้าจะให้ไปปรับค่าใช้จ่ายกับชิปปิ้ง ผมอยากรู้ว่าผมเป็นแค่พนักงานระดับปฏิบัติการจะไปมีความสามารถเจรจาต่อรองอะไรกับผู้บริหารชิปปิ้งละ
- ทำไมเราต้องพูดในเรื่องที่ว่าเราต้องผิดตลอดเวลา (จากข้อเมื่อกี้) ว่าเราไม่ดี ใช่มันคือส่วนนึง แต่ระบบราชการมันก็อีกส่วนนึง
- บริษัทพยายามขายสินค้าใหม่ๆ แต่กำไรก็หดหาย น้อยลงมาก ลูกค้าเก่าๆก็หายไปเกือบครึ่ง หาลูกค้าใหม่ก็ยากเพราะสินค้าเริ่มไม่มีประโยชน์ในอุตสาหกรรมแล้ว
- บริษัทไม่ค่อยมีทุนเปลี่ยนอุปกรณ์สำนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์ซึ่งใช้งานมาประมาณ เจ็ดปี จนเริ่มจอสีฟ้าแล้วก็ยังไม่มีงบ
- ไม่อยากตื่นไปทำงานเลย พอเห็นหน้าตาผู้บริหารแล้วอมทุกข์ทุกวัน เข้าใจว่าท่านนะเครียดแล้วทุกอย่างจะต้องดีเลิศตามนั้น
- หัวหน้างานเราดูเงียบมาก ทั้งๆที่ว่าเขาควรแบกหน้าออกมารับผิดชอบมากกว่านี้ แต่จุดนี้ผมไม่ถือสาอะไร
- บรรยากาศองค์กรดูเงียบและเครียดกันมาก ไม่ค่อยมีคนยิ้มหรือเบิกบานเลย
ผมไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้องค์กรเป็นแบบนี้กันหมดเลยหรือครับ โลกเรามันคงอยู่ยากจริงๆ ช่วงนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดีมาทั้งปี ผมควรเปลี่ยนงานดีไหมเพราะมองแล้วธุรกิจบริษัทกำลังอยู่ช่วงขาลง