สืบเนื่องมาจาก เหตุการณนี้ เป็นครั้งที่ 2 แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ เคยประสบพบเจอมาแล้วแต่คิดว่า ทางผมและภรรยา น่าจะคิดผิดไปเอง
ประกอบกับความสะเพร่า ของเราทั้ง 2 ด้วย เลยขอข้ามมาที่เหตุการณ ล่าสุดเลยนะครับ
คือเรื่องมีอยู่ว่า ผมและครอบครัว จะมาใช้บริการที่ห้างนี้เป็นประจำ แต่สาขานี้ก็มาบ่อย เพราะสะดวกใกล้บ้าน.
น้อง พนง งาน แคชเชียร์ ทอนเงินลูกค้าไม่ครบ หรือพูดง่ายว่า โกงนั่นเอง ที่แรกผมไม่คิดว่าโกงนะ แต่ดูจาก พฤติกรรม น้องแล้ว น่าสงสัยมากจริง
ยอดเงินที่ ผมต้องชำระคือ 1,118.50 บาท แต่พนักงาน แคชเชียร์ บอกภภรยา ผมว่า ยอดชำระ 1,218.50 บาทครับ
ภรรยาผมจ่ายเงิน ส่วนผม ยกของใส่รถเข็น ภรรยาผมเลยจ่ายเงินส่วนแรกไปให้ก่อน
พร้อมพูดว่า อะนี่ 900 บาท กับนี่ อีก 18.50 สตางค์นะค่ะ พร้อมกับ หยิบกระเป๋าเงิน ขึ้นมาและหยิบเงินให้อีก 300 บาท ก่อนออกมาจาก แคชเชียร์ยังถามอีกนะพอดีนะค่ะ พนักงานบอก ครับ พอดีครับ (ใช่คับคิดเงินผมเกินไป 100 บาท) ผมก็อะโอเครเข็นรถออกไปอ่อ เกือบลืมบอกไป ผมเอาลูกชายคนโตไปด้วยครับวันนั้น อายุ 2 ขวบซนใช้ได้เลยที่เดียว ใครมีลูกน่าจะพอทราบ ผมนนี่เวียนหัวเลย สรุปไม่มีใครได้เช็คใบเสร็จ จนกระทั่ง ขับรถออกมาจากห้างภรรยาผมสังเกตุถึง พฤติกรรมแปลกของพนักงานคือ จะพยามชวน คุยโน่นนี่นั่นตลอด ซึ่งไม่ผิดหรอกครับแต่นี่ ดีเกินคาด อ่อหลังจากรับเงินแล้วไม่ยอมรับลูกค้า ท่านต่อไป ทำงุ่บงิบที่หน้าเค้าเตอร์อันนี้ส่วนตัวผมว่าปกติสำหรับ แคชเชียร์ อาจจะเก็บใบเสร็จส่วนลดอะไรลูกค้า บลาๆๆ แต่ภรรยาผมบอกแปลกเพราะ มีลูกค้ายื่นต่อแถวรอคิดเงินต่อจากผมเยอะมากแทนที่จะรับลูกค้าก่อน จนกระทั่งมาเถียงกันในรถ ว่าเพราะอะไรทำไม่ถึงไม่ทอนเงินเรา หรือทำไมถึงไม่บอกเรา ว่ารับเงินเกิน ส่วนตัวผมไม่ซีเรียสนะคับ 100 ถือว่าเป็นความสะเพร่า ของเราที่ไม่ยอม ตรวบสอบใบเสร็จ ให้ดีก่อนเดินออกไป แต่ภรรยาผมไม่ยอมครับ
คุณเธอ นอนไม่หลับทั้งคืน ผมเพิ่งรู้ว่า ผู้หญิงนี่เรื่อง เงินไม่ได้เลย รุ่งขึ้นอีกวัน เธอโทรไปที่สาขาเลยครับ เล่าเหตการให้ฟังตามที่ผมกล่าวมาข้างต้น พร้อม สรุปได้คำตอบสั้นๆว่า เด๋วตรวจสอบแล้วจะแจ้งกับนะค่ะ จนกระทั่ง ตอนเย็น17.30 กลับบ้าน เธอไม่ละความพยายามโทรอีกครั้ง ครั้งนี้ ภรรยา ผมร้องขอให้พนักงาน นับเงินในเครื่องซิว่าเงินเกินรึป่าว แล้วเปิดกล้องวงจรปิด ให้ดูด้วยว่า ระว่างที่งุบงิบหน้า เคาเตอร์ ทำอะไรอยู่ ถ้าไม่ทำจะร้องเรียนเข้า สำนักงานใหญ่ ที่นี้ได้ผล อีกประมาณ 15 นาที ทางห้างให้ พนง.แคชเชียร์ ท่านนั้น โทรมาแจ้งกับ ภรรยา ผมว่า มีเงินเกิน ในเค้าเตอร์ที่เค้าทำงานอยู่จริงคับ เกินอยู่ 600 บาท ในนั้นต้องมีของพี่อยู่แน่ๆ เลย 100 รบกวนพี่มารับคืนได้ตลอดเวลานะครับพรุ่งนี้อ่อ เพราะพรุ่งนี้ห้างเปิดแต่ 05.30 ครับ แต่เอ๊ะวันนั้น พี่ผู้ชายหมายถึงผม ก็บอกพี่แล้วนะครับว่ายอด 1,118.50 บาท ภรรยาผมปริ๊ดมาก เพราะผมไม่ได้พูดอะไรซักคำเลย เธอบอกกับพนักงานท่านนั้นว่า แฟนพี่ไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะน้อง เถียงกันเรื่องพูดไม่พูดอยู่3 วิ โอเคร ค่ะ พรุ่งนี้ดิฉันไปรับคืนแน่ คุณอยู่ตลอดเวลานะค่ะ//พนง.ตอบ ครับผมอยู่ตลอดเวลา วางสาย//อีกวันเราไปรับเงินตามปกติครับพนักงานยื่นเงินคือนให้เรา100 บาทเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมเลยมานั่งคิดกันว่า แล้วอีก 500 ที่เกินละของใครกัน???
ถ้าทำแบบนี้กับลูกค้าผมถือว่าคุณไม่ซื่อสัตย์ ต่อลูกค้านะครับ ระมัดระวังกันด้วยนะครับลูกค้าทุกท่าน.
เพราะถ้าท่านจ่ายเงินไม่ครบ จะแจ้งว่า ลูกค้าชำระไม่ครบนะค่ะ ขาดอีกเท่านั้นเท่านี้ แต่ถ้าจ่ายเกินละก็ เงียบเลยนะครับ!!!
ผมไม่ทราบว่าจะ tag ห้องไหนได้บ้าง เลยขอ tag ห้องชานเรือนกับมนุษย์เงินเดือนแล้วกันนะคับ #
ถึง ผู้บริหารห้าง สรรพสินค้า BIG C สาขาร่มเกล้า
ประกอบกับความสะเพร่า ของเราทั้ง 2 ด้วย เลยขอข้ามมาที่เหตุการณ ล่าสุดเลยนะครับ
คือเรื่องมีอยู่ว่า ผมและครอบครัว จะมาใช้บริการที่ห้างนี้เป็นประจำ แต่สาขานี้ก็มาบ่อย เพราะสะดวกใกล้บ้าน.
น้อง พนง งาน แคชเชียร์ ทอนเงินลูกค้าไม่ครบ หรือพูดง่ายว่า โกงนั่นเอง ที่แรกผมไม่คิดว่าโกงนะ แต่ดูจาก พฤติกรรม น้องแล้ว น่าสงสัยมากจริง
ยอดเงินที่ ผมต้องชำระคือ 1,118.50 บาท แต่พนักงาน แคชเชียร์ บอกภภรยา ผมว่า ยอดชำระ 1,218.50 บาทครับ
ภรรยาผมจ่ายเงิน ส่วนผม ยกของใส่รถเข็น ภรรยาผมเลยจ่ายเงินส่วนแรกไปให้ก่อน
พร้อมพูดว่า อะนี่ 900 บาท กับนี่ อีก 18.50 สตางค์นะค่ะ พร้อมกับ หยิบกระเป๋าเงิน ขึ้นมาและหยิบเงินให้อีก 300 บาท ก่อนออกมาจาก แคชเชียร์ยังถามอีกนะพอดีนะค่ะ พนักงานบอก ครับ พอดีครับ (ใช่คับคิดเงินผมเกินไป 100 บาท) ผมก็อะโอเครเข็นรถออกไปอ่อ เกือบลืมบอกไป ผมเอาลูกชายคนโตไปด้วยครับวันนั้น อายุ 2 ขวบซนใช้ได้เลยที่เดียว ใครมีลูกน่าจะพอทราบ ผมนนี่เวียนหัวเลย สรุปไม่มีใครได้เช็คใบเสร็จ จนกระทั่ง ขับรถออกมาจากห้างภรรยาผมสังเกตุถึง พฤติกรรมแปลกของพนักงานคือ จะพยามชวน คุยโน่นนี่นั่นตลอด ซึ่งไม่ผิดหรอกครับแต่นี่ ดีเกินคาด อ่อหลังจากรับเงินแล้วไม่ยอมรับลูกค้า ท่านต่อไป ทำงุ่บงิบที่หน้าเค้าเตอร์อันนี้ส่วนตัวผมว่าปกติสำหรับ แคชเชียร์ อาจจะเก็บใบเสร็จส่วนลดอะไรลูกค้า บลาๆๆ แต่ภรรยาผมบอกแปลกเพราะ มีลูกค้ายื่นต่อแถวรอคิดเงินต่อจากผมเยอะมากแทนที่จะรับลูกค้าก่อน จนกระทั่งมาเถียงกันในรถ ว่าเพราะอะไรทำไม่ถึงไม่ทอนเงินเรา หรือทำไมถึงไม่บอกเรา ว่ารับเงินเกิน ส่วนตัวผมไม่ซีเรียสนะคับ 100 ถือว่าเป็นความสะเพร่า ของเราที่ไม่ยอม ตรวบสอบใบเสร็จ ให้ดีก่อนเดินออกไป แต่ภรรยาผมไม่ยอมครับ
คุณเธอ นอนไม่หลับทั้งคืน ผมเพิ่งรู้ว่า ผู้หญิงนี่เรื่อง เงินไม่ได้เลย รุ่งขึ้นอีกวัน เธอโทรไปที่สาขาเลยครับ เล่าเหตการให้ฟังตามที่ผมกล่าวมาข้างต้น พร้อม สรุปได้คำตอบสั้นๆว่า เด๋วตรวจสอบแล้วจะแจ้งกับนะค่ะ จนกระทั่ง ตอนเย็น17.30 กลับบ้าน เธอไม่ละความพยายามโทรอีกครั้ง ครั้งนี้ ภรรยา ผมร้องขอให้พนักงาน นับเงินในเครื่องซิว่าเงินเกินรึป่าว แล้วเปิดกล้องวงจรปิด ให้ดูด้วยว่า ระว่างที่งุบงิบหน้า เคาเตอร์ ทำอะไรอยู่ ถ้าไม่ทำจะร้องเรียนเข้า สำนักงานใหญ่ ที่นี้ได้ผล อีกประมาณ 15 นาที ทางห้างให้ พนง.แคชเชียร์ ท่านนั้น โทรมาแจ้งกับ ภรรยา ผมว่า มีเงินเกิน ในเค้าเตอร์ที่เค้าทำงานอยู่จริงคับ เกินอยู่ 600 บาท ในนั้นต้องมีของพี่อยู่แน่ๆ เลย 100 รบกวนพี่มารับคืนได้ตลอดเวลานะครับพรุ่งนี้อ่อ เพราะพรุ่งนี้ห้างเปิดแต่ 05.30 ครับ แต่เอ๊ะวันนั้น พี่ผู้ชายหมายถึงผม ก็บอกพี่แล้วนะครับว่ายอด 1,118.50 บาท ภรรยาผมปริ๊ดมาก เพราะผมไม่ได้พูดอะไรซักคำเลย เธอบอกกับพนักงานท่านนั้นว่า แฟนพี่ไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะน้อง เถียงกันเรื่องพูดไม่พูดอยู่3 วิ โอเคร ค่ะ พรุ่งนี้ดิฉันไปรับคืนแน่ คุณอยู่ตลอดเวลานะค่ะ//พนง.ตอบ ครับผมอยู่ตลอดเวลา วางสาย//อีกวันเราไปรับเงินตามปกติครับพนักงานยื่นเงินคือนให้เรา100 บาทเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมเลยมานั่งคิดกันว่า แล้วอีก 500 ที่เกินละของใครกัน???
ถ้าทำแบบนี้กับลูกค้าผมถือว่าคุณไม่ซื่อสัตย์ ต่อลูกค้านะครับ ระมัดระวังกันด้วยนะครับลูกค้าทุกท่าน.
เพราะถ้าท่านจ่ายเงินไม่ครบ จะแจ้งว่า ลูกค้าชำระไม่ครบนะค่ะ ขาดอีกเท่านั้นเท่านี้ แต่ถ้าจ่ายเกินละก็ เงียบเลยนะครับ!!!
ผมไม่ทราบว่าจะ tag ห้องไหนได้บ้าง เลยขอ tag ห้องชานเรือนกับมนุษย์เงินเดือนแล้วกันนะคับ #