ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2557 18:33:00 น.
4 ธ.ค.57 นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในการแถลงเข้ารับตำแหน่ง ว่า การบินไทยได้มีการจัดทำแผนแนวทางปฏิรูปองค์กร ที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากแผนเดิมให้ครอบคลุมมากขึ้น เนื่องจากแผนฟื้นฟูองค์กรเดิมไม่สามารถตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของการบินไทยได้ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพการแข่งขันทางธุรกิจที่มีความรุนแรง และทำให้จุดเด่นของการบินไทยที่เคยมีมาในอดีดด้อยลง
โดยแผนปฏิรูปฉบับใหม่จะมีการนำเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ ภายในสิ้นเดือนนี้ และเมื่อผ่านการเห็นชอบจะเสนอไปยังคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ในเดือน ม.ค.58 ซึ่งแผนดังกล่าวจะเป็นแผนปฏิรูปในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การบินไทยจะกลับมาติดอันดับ 1 ใน 5 ของสถาบันการจัดอันดับสายการบินยอดเยี่ยม (Skytrax) อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ จะมีรูปแบบใกล้เคียงกับโครงสร้างการบริหารของธนาคารพาณิชย์ โดยจะเน้นการสร้างรายได้ และลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง ตลอดจนถึงการพัฒนาคุณภาพด้านการให้บริการในธุรกิจการบิน และความแตกต่างด้านการบริการ โดยตั้งเป้าจะให้บริษัทฯ กลับมามีส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจการบินเป็นอันดับต้นๆ ของเอเซีย และกลับมาเป็นสายการบิน National Carrier จากความได้เปรียบที่สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และมีเส้นทางบินที่ครอบคลุมทั่วโลก
"ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนนี้ จะเสนอแผนปฏิรูปการบินไทยให้บอร์ดการบินไทยพิจารณา ซึ่งในแผนดังกล่าวจะมีเรื่องการเพิ่มรายได้ การลดรายจ่าย การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของการบินไทยให้ดีขึ้น และทำให้การบินไทยมีกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน นำการบินไทยไปสู่สายการบินแห่งชาติ เป็นที่ภาคภูมิใจของลูกค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา" นายจรัมพร กล่าว
สำหรับการเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท การบินไทย ในครั้งนี้ ไม่มีความรู้สึกหนักใจในการดำเนินงาน กลับมองว่าเป็นความท้าทายในการบริหาร และมั่นใจว่าจะสามารถอยู่ดำรงตำแหน่งจนครบวาระ รวมถึงจะใช้ความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงการบริหารงาน ซึ่งในปีหน้าก็อาจจะต้องมีการลงทุนทางด้านไอทีเพิ่มขึ้น เพราะจะช่วยให้การบินไทยทราบต้นทุนการดำเนินงานและสามารถรู้กำไรต่อลำต่อไฟล์ทได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะการขายตั๋วออนไลน์เพื่อให้สอดคล้องกลับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม จะนำประสบการณ์ด้านการบริหารเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยเชื่อว่าหากทุกฝ่ายในองค์กรร่วมกันปฏิรูปไปพร้อมกัน จะส่งผลให้การบินไทยกลับมาเป็นสายการบินระดับชาติ สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในองค์กร ผู้ถือหุ้น และประเทศชาติ ทั้งนี้ ยังมองว่าปัญหาการเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจไม่ส่งผลต่อการปรับตัว เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจต้องมองเรื่องการปรับตัวในทุกเรื่องอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันต่อคู่แข่งมากกว่า ทั้งนี้ แนวโน้มธุรกิจการบินในปีหน้าเชื่อว่าจะพลิกกลับมามีกำไร จากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ทั้งนี้สิ่งน่ากังวลได้แก่สถานการณ์ของประเทศในทวีปยุโรปที่ยังไม่ฟื้นตัว และปัญหาโรคระบาดซึ่งเป็นผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจการบิน
ส่วนกรณีที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลง มองว่าเป็นข่าวดีสำหรับสายการบิน ซึ่งในเอเชียแนวโน้วทางธุรกิจสายการบิน 5 - 7 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีการเติบอย่างมาก เนื่องจากจำนวนกว่า 50% ของโลกจะอยู่ในทวีปเอเชีย สังเกตุได้จากปริมาณการสั่งซื้อเครื่องบินจำนวนสูงถึง 1,000 ลำ ในสายการบินในทวีปเอเชีย ปัจจัยอื่นๆ ที่น่าจับตามองคือ ปัญหาเศรษฐกิจยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ที่ค่าเงินผันผวน
http://www.ryt9.com/s/nnd/2045163
'จรัมพร'ตั้งเป้าปฏิรูปใหญ่เจ้าจำปี หวังกลับสู่'สายการบินยอดเยี่ยม'
ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2557 18:33:00 น.
4 ธ.ค.57 นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในการแถลงเข้ารับตำแหน่ง ว่า การบินไทยได้มีการจัดทำแผนแนวทางปฏิรูปองค์กร ที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากแผนเดิมให้ครอบคลุมมากขึ้น เนื่องจากแผนฟื้นฟูองค์กรเดิมไม่สามารถตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของการบินไทยได้ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพการแข่งขันทางธุรกิจที่มีความรุนแรง และทำให้จุดเด่นของการบินไทยที่เคยมีมาในอดีดด้อยลง
โดยแผนปฏิรูปฉบับใหม่จะมีการนำเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ ภายในสิ้นเดือนนี้ และเมื่อผ่านการเห็นชอบจะเสนอไปยังคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ในเดือน ม.ค.58 ซึ่งแผนดังกล่าวจะเป็นแผนปฏิรูปในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การบินไทยจะกลับมาติดอันดับ 1 ใน 5 ของสถาบันการจัดอันดับสายการบินยอดเยี่ยม (Skytrax) อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ จะมีรูปแบบใกล้เคียงกับโครงสร้างการบริหารของธนาคารพาณิชย์ โดยจะเน้นการสร้างรายได้ และลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง ตลอดจนถึงการพัฒนาคุณภาพด้านการให้บริการในธุรกิจการบิน และความแตกต่างด้านการบริการ โดยตั้งเป้าจะให้บริษัทฯ กลับมามีส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจการบินเป็นอันดับต้นๆ ของเอเซีย และกลับมาเป็นสายการบิน National Carrier จากความได้เปรียบที่สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และมีเส้นทางบินที่ครอบคลุมทั่วโลก
"ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนนี้ จะเสนอแผนปฏิรูปการบินไทยให้บอร์ดการบินไทยพิจารณา ซึ่งในแผนดังกล่าวจะมีเรื่องการเพิ่มรายได้ การลดรายจ่าย การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของการบินไทยให้ดีขึ้น และทำให้การบินไทยมีกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน นำการบินไทยไปสู่สายการบินแห่งชาติ เป็นที่ภาคภูมิใจของลูกค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา" นายจรัมพร กล่าว
สำหรับการเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท การบินไทย ในครั้งนี้ ไม่มีความรู้สึกหนักใจในการดำเนินงาน กลับมองว่าเป็นความท้าทายในการบริหาร และมั่นใจว่าจะสามารถอยู่ดำรงตำแหน่งจนครบวาระ รวมถึงจะใช้ความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงการบริหารงาน ซึ่งในปีหน้าก็อาจจะต้องมีการลงทุนทางด้านไอทีเพิ่มขึ้น เพราะจะช่วยให้การบินไทยทราบต้นทุนการดำเนินงานและสามารถรู้กำไรต่อลำต่อไฟล์ทได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะการขายตั๋วออนไลน์เพื่อให้สอดคล้องกลับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม จะนำประสบการณ์ด้านการบริหารเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยเชื่อว่าหากทุกฝ่ายในองค์กรร่วมกันปฏิรูปไปพร้อมกัน จะส่งผลให้การบินไทยกลับมาเป็นสายการบินระดับชาติ สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในองค์กร ผู้ถือหุ้น และประเทศชาติ ทั้งนี้ ยังมองว่าปัญหาการเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจไม่ส่งผลต่อการปรับตัว เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจต้องมองเรื่องการปรับตัวในทุกเรื่องอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันต่อคู่แข่งมากกว่า ทั้งนี้ แนวโน้มธุรกิจการบินในปีหน้าเชื่อว่าจะพลิกกลับมามีกำไร จากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ทั้งนี้สิ่งน่ากังวลได้แก่สถานการณ์ของประเทศในทวีปยุโรปที่ยังไม่ฟื้นตัว และปัญหาโรคระบาดซึ่งเป็นผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจการบิน
ส่วนกรณีที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลง มองว่าเป็นข่าวดีสำหรับสายการบิน ซึ่งในเอเชียแนวโน้วทางธุรกิจสายการบิน 5 - 7 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีการเติบอย่างมาก เนื่องจากจำนวนกว่า 50% ของโลกจะอยู่ในทวีปเอเชีย สังเกตุได้จากปริมาณการสั่งซื้อเครื่องบินจำนวนสูงถึง 1,000 ลำ ในสายการบินในทวีปเอเชีย ปัจจัยอื่นๆ ที่น่าจับตามองคือ ปัญหาเศรษฐกิจยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ที่ค่าเงินผันผวน
http://www.ryt9.com/s/nnd/2045163