สมัครออมเงินตามมาตรา 40 ทุกท่านเห็นเป็นไงค่ะ

ทุกคนที่มีอายุครบ 60 ปี บริบูรณ์ สามารถสมัครออมเงินตามมาตรา 40 ได้ ไม่ว่าจะเคยมีอาชีพใดหรือไม่เคยมีอาชีพใดมาก่อน ซึ่งถือเป็นการออมเงินวิธีหนึ่ง แล้วรัฐออกให้อีกส่วนหนึ่ง
แต่อย่าเพิ่งดีใจนะครับ รัฐไม่ได้สบทบให้เป็นร้อยละหรือตามที่เราต้องการออมหรอก เพราะหากต้องการออมเดือนละหมื่นสองหมื่น แล้วรัฐออกให้ส่วนหนึ่ง รัฐเจ็งแน่นอน
สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดเพดานในการออมไว้ว่า คนหนึ่งออมได้จำนวนเท่าไรและรัฐจ่ายให้อีกจำนวนเท่าไร โดยได้แยกประเภทของผู้สูงอายุออกเป็น 2 ประเภท
ประเภทแรก คือผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปี แต่ไม่ถึง 65 ปี และประเภทที่สองคือผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป
ประเภทแรก มีทางเลือกในการออมถึง 5 วิธี แต่แนะนำให้เลือกวิธีที่ 5 ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด คือ ออม 200 บาท แล้วรัฐจ่ายให้ 150 บาท
ส่วนประเภทที่สองนั้น เลือกได้เฉพาะทางเลือกที่สามออมเดือนละ 100 บาท รัฐสบทบให้ 100 บาท
แล้วสามารถออมย้อนหลังไปได้ถึงเดือนพฤศจิกายน 2555
ที่สำคัญที่สุดก็คือ เงินที่ออมไว้แล้วนี้ อยากจะลาออกเมื่อไรก็ได้นะครับ ได้เงินที่ออมทั้งหมดไว้คืนมาพร้อมรับเงินที่รัฐออกสบทบให้ด้วย
คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม โดยเฉพาะผู้สูงวัยประเภทที่สอง ได้เงินเพิ่มขึ้นมาร้อยละร้อยเลยนะครับ
แต่ท่านไม่ต้องสนใจเรื่องประเภทไหนหรอกครับ เพราะเจ้าหน้าที่สำนักประกันสังคมเขาจะแนะนำทางเลือกที่ดีที่สุดให้แก่ท่านเอง
ที่สำคัญเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมที่ผู้เขียนได้สัมผัสนั้น แต่ละท่านต้อนรับขับสู้ด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส น่าคุยด้วย
ผู้เขียนไปจัดการออมเรียบร้อยแล้วที่สำนักประกันสังคม เขต 2 ประชาชื่น จ่ายเงินย้อนหลังและล่วงหน้าเท่าที่ที่จ่ายได้ไปเรียบร้อยแล้ว4,000 บาท
ได้พบกับเจ้าหน้าที่ประกันสังคมชื่อคุณวิไลภรณ์ รอดจันทร์ ซึ่งเป็นผู้มีอัธยาศัยไมตรีอันดียิ่ง
ยิ่งทราบว่าจะนำไปเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ด้วยแล้ว เธออธิบายให้ฟังอย่างละเอียดยิบเลยครับ
เธอย้ำว่าหากท่านใดประสงค์จะออมเงินตามมาตรา 40 ก็รีบไปดำเนินการด้วย ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 8 ธันวาคม 2557 เท่านั้น
ดีใจแทนท่านเลขาธิการประกันสังคมด้วยนะครับที่มีเจ้าหน้าที่ประกันสังคมซึ่งให้บริการประชาชนด้วยใจ

ได้รับบทความนี้ทาง line. ไม่ทราบว่าน่าสนใจมั้ยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่