
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 33.07 จุด หลังเฟดชี้ศก.สหรัฐยังฟื้นตัว
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,912.62 จุด เพิ่มขึ้น 33.07 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,074.33 จุด เพิ่มขึ้น 7.78 จุด หรือ +0.38% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,774.47 จุด เพิ่มขึ้น 18.66 จุด หรือ +0.39%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากเฟดเปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงขยายตัวในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงโดยตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น 208,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวสู่ระดับ 59.3 ในเดือนพ.ย. จาก 57.1 ในเดือนต.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 57.6
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับขึ้น 0.8% หุ้นไดมอนด์ ออฟชอร์ พุ่งขึ้น 3.6% และหุ้นซีมาเร็กซ์ ทะยานขึ้น 5.1%
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน และอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันนี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าอีซีบีจะตัดสินใจซื้อพันธบัตรรัฐบาล โดยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ราคาทองฟิวเจอร์ลดช่วงบวก หลังได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้ทองคำที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินนี้มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ขยับขึ้นเพียง 0.3% แตะที่ 1,203.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเวลา 7.39 น.ตามเวลานิวยอร์ก
ขณะเดียวกันสัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของสัญญาน้ำมันดิบ WTI อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะอยู่ในระดับสูงกว่าอุปสงค์ หลังจากโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโอเปคจะปรับลดเพดานการผลิต
นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานอาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน ซึ่งจะช่วยหนุนคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนกลางปี 2558
รวมข่าว 4/12/57
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 33.07 จุด หลังเฟดชี้ศก.สหรัฐยังฟื้นตัว
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,912.62 จุด เพิ่มขึ้น 33.07 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,074.33 จุด เพิ่มขึ้น 7.78 จุด หรือ +0.38% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,774.47 จุด เพิ่มขึ้น 18.66 จุด หรือ +0.39%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากเฟดเปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงขยายตัวในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงโดยตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น 208,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวสู่ระดับ 59.3 ในเดือนพ.ย. จาก 57.1 ในเดือนต.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 57.6
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับขึ้น 0.8% หุ้นไดมอนด์ ออฟชอร์ พุ่งขึ้น 3.6% และหุ้นซีมาเร็กซ์ ทะยานขึ้น 5.1%
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน และอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันนี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าอีซีบีจะตัดสินใจซื้อพันธบัตรรัฐบาล โดยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ราคาทองฟิวเจอร์ลดช่วงบวก หลังได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้ทองคำที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินนี้มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ขยับขึ้นเพียง 0.3% แตะที่ 1,203.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเวลา 7.39 น.ตามเวลานิวยอร์ก
ขณะเดียวกันสัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของสัญญาน้ำมันดิบ WTI อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะอยู่ในระดับสูงกว่าอุปสงค์ หลังจากโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโอเปคจะปรับลดเพดานการผลิต
นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานอาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน ซึ่งจะช่วยหนุนคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนกลางปี 2558