คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ลดหย่อน 10% แต่ต้องแช่เงิน ระยะเวลา 3 ปี 2 วัน
หรือ คิดเป็น 3.3% ต่อปี
ไม่รวม capital gain or loss
มองว่าน้อย มันก็น้อยครับ เพราะ ตราสารหนี้ ก็ใกล้เคียง 3% ต่อปี แล้วครับ
คนที่มองว่าฐานภาษีต่ำ ซื้อ LTF ไม่คุ้ม เนื่องจาก
1. เงินต้องแช่ไว้ 5 ปีปฎิทิน ( 3 ปี 2 วัน) ทำให้เสียสภาพคล่อง
2. มีการลงทุนรูปแบบอื่นที่เชื่อว่าให้ผลตอบแทนมากกว่า 3% ต่อปี เช่น ลงหุ้น กองทุนหุ้น อื่นๆ
ส่วนที่บอกว่าฐานสูงแล้วคุ้มอยู่ที่ 20% เนื่องจาก
3 ปี 2 วัน คิดเป็น 6.7% ต่อปี ซึ่งก็ถือว่า ตัวเลขนี้มีแต้มต่ออยู่พอควร จึงน่าสนใจที่จะซื้อ เพื่อลดหย่อนภาษี
ยิ่ง 30% ยิ่งคุ้ม เพราะ มันคือ 10% ต่อปี
ส่วนคนฐานภาษี ไม่ถึง 20% ถามว่า ซื้อดีมั้ย
ถ้าคุณไม่มีการลงทุนใดๆเลย คุณได้แต้มต่อ ที่ประมาณ 10% ต่อ 3 ปี 2 วัน หรือ 3.3% ต่อปี รับได้ก็ซื้อได้เลยครับ
ทั้งหมด เป็นสมมุติฐานการลงทุนไม่รวม capital gain or loss
หรือ คิดเป็น 3.3% ต่อปี
ไม่รวม capital gain or loss
มองว่าน้อย มันก็น้อยครับ เพราะ ตราสารหนี้ ก็ใกล้เคียง 3% ต่อปี แล้วครับ
คนที่มองว่าฐานภาษีต่ำ ซื้อ LTF ไม่คุ้ม เนื่องจาก
1. เงินต้องแช่ไว้ 5 ปีปฎิทิน ( 3 ปี 2 วัน) ทำให้เสียสภาพคล่อง
2. มีการลงทุนรูปแบบอื่นที่เชื่อว่าให้ผลตอบแทนมากกว่า 3% ต่อปี เช่น ลงหุ้น กองทุนหุ้น อื่นๆ
ส่วนที่บอกว่าฐานสูงแล้วคุ้มอยู่ที่ 20% เนื่องจาก
3 ปี 2 วัน คิดเป็น 6.7% ต่อปี ซึ่งก็ถือว่า ตัวเลขนี้มีแต้มต่ออยู่พอควร จึงน่าสนใจที่จะซื้อ เพื่อลดหย่อนภาษี
ยิ่ง 30% ยิ่งคุ้ม เพราะ มันคือ 10% ต่อปี
ส่วนคนฐานภาษี ไม่ถึง 20% ถามว่า ซื้อดีมั้ย
ถ้าคุณไม่มีการลงทุนใดๆเลย คุณได้แต้มต่อ ที่ประมาณ 10% ต่อ 3 ปี 2 วัน หรือ 3.3% ต่อปี รับได้ก็ซื้อได้เลยครับ
ทั้งหมด เป็นสมมุติฐานการลงทุนไม่รวม capital gain or loss
แสดงความคิดเห็น
ถ้าฐานภาษีไม่ถึง 20% ไม่คุ้มที่จะซื้อ LTF แล้วทำยังไงกันครับ?
ขอถามโง่ๆ เลยครับ ผมสงสัยว่า แล้วทำอย่างไรกับเงินภาษีที่ต้องจ่ายกันหรือครับ จ่ายไปตามจำนวนนั้น (หลังหักลดหย่อนทุกรายการเท่าที่จะสรรหาได้ ยกเว้นการซื้อ LTF) เลยหรือครับ? หรือมีวิธีอื่นๆ ในการจัดการกับภาษีที่นอกเหนือไปจากนี้ที่แนะนำได้ครับ
รบกวนผู้รู้ด้านภาษีและการลงทุนช่วยแชร์ความรู้หน่อยครับ ขอบคุณครับ