วันที่ 3 ธันวาคม ที่รัฐสภา คณะทำงานศึกษาการปฏิรูปด้านการเมืองที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ประกอบด้วยอธิการบดีจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่มีนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็นประธาน ได้เข้ายื่นหนังสือสรุปความคิดเห็นในเรื่องการปฏิรูปการเมืองเพื่อเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยมีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.เป็นผู้รับหนังสือข้อเสนอแนะจากคณะทำงานอธิการบดีแห่งประเทศไทยที่น่าสนใจ อาทิ การปฏิรูปโครงสร้างอำนาจทางการเมืองที่ให้แยกอำนาจบริหารและนิติบัญญัติออกจากกัน เสนอให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง ที่มาของส.ส.ให้จากการเลือกตั้งในพื้นที่ ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง และส.ส.มาจากการเลือกตั้งของสาขาอาชีพ ซึ่งให้ส.ส.ทำงานด้านนิติบัญญัติและตรวจสอบการทำงานฝ่ายบริหาร ห้ามมิให้ส.ส.ไปทำงานฝ่ายบริหาร
นอกจากนี้ยังเสนอให้มีสภาพลเมือง 900 คน มาจากประธานสภาเทศบาลเลือกกันเองทั่วประเทศ อำเภอละ 1 คน เป็นการใช้อำนาจทางตรงในการตั้งกระทู้ถามตอบ ทวงถามการทำงานจากฝ่ายบริหาร
วุฒิสภาให้ขึ้นอยู่กับการกำหนดขอบเขตการใช้อำนาจและหน้าที่ให้ชัดเจนมีการถ่วงดุลไม่ซับซ้อนการปฏิรูปพรรคการเมืองนั้นพรรคการเมืองต้องไม่ถูกครอบงำจากนายทุน พรรคการเมืองต้องเป็นสถาบันที่ยั่งยืน และให้มีมาตรการทางภาษีช่วยให้มีการบริจาคเงินแก่พรรคการเมืองอย่างเปิดเผย
ส่วนการปฏิรูประบบผลตอบแทนต้องให้สมฐานะทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร จัดระบบสวัสดิการที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการทุจริตและผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงกำหนดบทลงโทษที่รุนแรง
ด้านนายเทียนฉาย กล่าวว่า ขอบคุณคณะอธิการบดีทุกคนที่มาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานสำหรับ สปช.ในการปฏิรูปประเทศ ตนจะจำแนกข้อเสนอทั้งหมดจำแนกประเภท แล้วส่งไปยังคณะกรรมาธิการ และอนุกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาต่อไป
นายเทียนฉาย ยังกล่าวถึงข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมาธิการที่เสนอให้มีเลือกนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีโดยตรง ว่า เรื่องต้องปรึกษากันในที่ประชุม สปช. ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องเข้ามาแต่ทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นเบื้องต้นของคณะอนุกรรมาธิการ
หากเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม สปช.ก็จะสามารถให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ สปช.จะแถลงข่าวใหญ่ โดยจะเปิดเผยทุกรายละเอียดที่เป็นข้อเสนอหลังจากที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯเข้ารับฟังความคิดเห็นของ สปช.
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1417587122
คณะทำงานฯ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย หนุนเลือกตั้งนายกฯ โดยตรง, ส.ส.ไม่ต้องสังกัดพรรค-ห้ามทำงานฝ่ายบริหาร
นอกจากนี้ยังเสนอให้มีสภาพลเมือง 900 คน มาจากประธานสภาเทศบาลเลือกกันเองทั่วประเทศ อำเภอละ 1 คน เป็นการใช้อำนาจทางตรงในการตั้งกระทู้ถามตอบ ทวงถามการทำงานจากฝ่ายบริหาร
วุฒิสภาให้ขึ้นอยู่กับการกำหนดขอบเขตการใช้อำนาจและหน้าที่ให้ชัดเจนมีการถ่วงดุลไม่ซับซ้อนการปฏิรูปพรรคการเมืองนั้นพรรคการเมืองต้องไม่ถูกครอบงำจากนายทุน พรรคการเมืองต้องเป็นสถาบันที่ยั่งยืน และให้มีมาตรการทางภาษีช่วยให้มีการบริจาคเงินแก่พรรคการเมืองอย่างเปิดเผย
ส่วนการปฏิรูประบบผลตอบแทนต้องให้สมฐานะทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร จัดระบบสวัสดิการที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการทุจริตและผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงกำหนดบทลงโทษที่รุนแรง
ด้านนายเทียนฉาย กล่าวว่า ขอบคุณคณะอธิการบดีทุกคนที่มาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานสำหรับ สปช.ในการปฏิรูปประเทศ ตนจะจำแนกข้อเสนอทั้งหมดจำแนกประเภท แล้วส่งไปยังคณะกรรมาธิการ และอนุกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาต่อไป
นายเทียนฉาย ยังกล่าวถึงข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมาธิการที่เสนอให้มีเลือกนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีโดยตรง ว่า เรื่องต้องปรึกษากันในที่ประชุม สปช. ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องเข้ามาแต่ทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นเบื้องต้นของคณะอนุกรรมาธิการ
หากเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม สปช.ก็จะสามารถให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ สปช.จะแถลงข่าวใหญ่ โดยจะเปิดเผยทุกรายละเอียดที่เป็นข้อเสนอหลังจากที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯเข้ารับฟังความคิดเห็นของ สปช.
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1417587122